
แจก 5 โปรแกรมสร้าง Hamstrings ปั้นกล้ามเนื้อขาหลังสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ

ทำไมการบริหารกล้ามเนื้อแฮมสตริง (Hamstring) จึงสำคัญมากสำหรับผู้ชาย การมีกล้ามเนื้อหลังต้นขาหรือ Hamstring ที่แข็งแรงนอกจากช่วยส่งเสริมให้รูปร่างคุณดูดีแล้ว การมีกล้ามเนื้อแฮมสตริงทีแข็งแรงจะช่วยสร้างความสมดุลให้ร่างกาย และป้องกันการบาดเจ็บได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นกีฬา ช่วยให้ชีวิตประจำวันดีขึ้น ตั้งแต่การเดิน ขึ้นบันได ลุกจากเก้าอี้ ไปจนถึงการก้มตัวหยิบของ และเสริมสร้างการทรงตัวที่ดีขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อ Hamstring มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันคุณขนาดนี้ TrueID Sport จึงจัด โปรแกรมสร้าง Hamstrings 5 แบบไว้ให้คุณเลือกตามความต้องการของตัวคุณ
แจก 5 โปรแกรมสร้าง Hamstrings
ปั้นกล้ามเนื้อขาหลังสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ
5 โปรแกรมออกกำลังกายตามเป้าหมาย
ทั้ง 5 โปรแกรมออกกำลังกายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป้าหมายที่แตกต่างกัน เช่น ความแข็งแรง (Strength), การสร้างกล้ามเนื้อ (Hypertrophy), หรือ ความทนทานของกล้ามเนื้อ (Muscular Endurance) โดยคุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการของคุณ
ก่อนเริ่มออกกำลังกายทุกครั้ง ควรวอร์มอัพ 5-10 นาทีด้วยการทำคาร์ดิโอเบาๆ หัวใจสำคัญของการพัฒนาคือการเพิ่มความหนักให้กล้ามเนื้ออย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งทำได้ด้วยการเพิ่มน้ำหนัก, จำนวนครั้ง, หรือจำนวนเซ็ตเมื่อเวลาผ่านไป
เวลาพักระหว่างเซ็ตจะแตกต่างกันไปตามท่าและเป้าหมายของคุณ สำหรับเซ็ตที่เน้นความแข็งแรงและน้ำหนักมาก ควรพัก 2-3 นาที แต่ถ้าเป็นท่าแยกส่วน หรือท่าที่ทำจำนวนครั้งเยอะๆ ควรพัก 60-90 วินาที
โปรแกรมสร้าง Hamstrings โปรแกรมที่ 1: สร้างความแข็งแรงและกล้ามเนื้อ
โปรแกรมนี้จะรวมท่าหลักที่ใช้น้ำหนักมากเข้ากับท่าแยกส่วนที่ทำซ้ำๆ เพื่อสร้างทั้งความแข็งแรงและขนาดกล้ามเนื้อ
- Romanian Deadlift (RDL) 3-4 เซ็ต, เซ็ตละ 6-8 ครั้ง
นี่คือท่าหลักที่เน้นการสร้างความแข็งแรง ใช้น้ำหนักที่ท้าทายจนคุณเกือบทำไม่ไหวในช่วง 2 ครั้งสุดท้ายของแต่ละเซ็ต โดยที่ยังคงรักษาฟอร์มที่ถูกต้องไว้เสมอ - Bulgarian Split Squats: 3 เซ็ต, เซ็ตละ 8-12 ครั้งต่อข้าง
ท่าที่ใช้ขาข้างเดียวนี้จะช่วยสร้างความแข็งแรงและความสมดุลให้กล้ามเนื้อก้น, แฮมสตริง, และควอด - Lying Leg Curl: 3 เซ็ต, เซ็ตละ 10-15 ครั้ง
ท่าแยกส่วนนี้มีไว้เพื่อ "เก็บงาน" กล้ามเนื้อแฮมสตริง ให้เน้นการบีบกล้ามเนื้อให้แน่นที่สุดตอนจังหวะบนสุดของท่า
โปรแกรมสร้าง Hamstrings โปรแกรมที่ 2: พัฒนาพลังจากกล้ามเนื้อด้านหลังลำตัว
โปรแกรมนี้ออกแบบมาเพื่อสร้างพลังที่ระเบิดออกมาจากกล้ามเนื้อด้านหลังลำตัว (posterior chain) ซึ่งยอดเยี่ยมสำหรับนักกีฬา
- Kettlebell Swings: 4-5 เซ็ต, เซ็ตละ 10-15 ครั้ง
ท่านี้เป็นการเคลื่อนไหวแบบระเบิดพลัง เป้าหมายคือการใช้สะโพกเหวี่ยงไม่ใช่การใช้แขนยกน้ำหนัก - Stiff-Legged Deadlift: 3 เซ็ต, เซ็ตละ 6-10 ครั้ง
ท่านี้จะสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแฮมสตริงตั้งแต่เริ่มจากพื้น ให้หลังตรงและรู้สึกถึงการยืดเหยียดที่แฮมสตริง - Glute Bridge: 3 เซ็ต, เซ็ตละ 15-20 ครั้ง
ใช้ท่านี้เพื่อกระตุ้นและสร้างความทนทานให้กล้ามเนื้อก้น บีบกล้ามเนื้อก้นให้แน่นสุดๆ ตอนอยู่จังหวะบนสุดและค้างไว้ 1 วินาที
โปรแกรมสร้าง Hamstrings โปรแกรมที่ 3: เน้นกล้ามเนื้อแฮมสตริง
โปรแกรมนี้เน้นไปที่กล้ามเนื้อแฮมสตริงโดยเฉพาะ ด้วยการผสมผสานระหว่างท่าหลักและท่าแยกส่วน
- Good Mornings: 3-4 เซ็ต, เซ็ตละ 8-12 ครั้ง
ท่านี้จะลงน้ำหนักที่แฮมสตริงและหลังส่วนล่างค่อนข้างมาก ใช้น้ำหนักที่ทำให้คุณสามารถรักษาแผ่นหลังให้ตรงตลอดการเคลื่อนไหวได้ - Seated Leg Curl: 3 เซ็ต, เซ็ตละ 10-15 ครั้ง
ท่านี้ในท่านั่งจะช่วยยืดแฮมสตริงได้ลึกขึ้น ให้ควบคุมการเคลื่อนไหวและทำจนสุดช่วงการเคลื่อนไหว - Glute Bridge: 3 เซ็ต, เซ็ตละ 15-20 ครั้ง
ใช้เป็นท่าปิดท้าย เพื่อเน้นที่กล้ามเนื้อก้นโดยไม่ทำให้กล้ามเนื้อแฮมสตริงหรือหลังส่วนล่างทำงานหนักเกินไป
โปรแกรมสร้าง Hamstrings โปรแกรมที่ 4: สำหรับช่วงล่างทั้งหมด (อุปกรณ์น้อย)
โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับคนที่มีอุปกรณ์น้อย เพราะอาศัยแค่น้ำหนักตัวและ kettlebell หรือ dumbbell เพียงอันเดียว
- Bulgarian Split Squats: 3-4 เซ็ต, เซ็ตละ 10-15 ครั้งต่อข้าง
สามารถทำได้ทั้งแบบมีหรือไม่มีน้ำหนัก และจะช่วยสร้างความแข็งแรงและความมั่นคงให้ขาแต่ละข้างได้อย่างดี - Kettlebell Swings: 3-4 เซ็ต, เซ็ตละ 12-20 ครั้ง
เป็นท่าที่ใช้พลังจากทั่วร่างกายและสามารถทำได้ด้วย kettlebell เพียงอันเดียว - Glute Bridge: 3 เซ็ต, เซ็ตละ 20+ ครั้ง
ทำได้ทุกที่และเหมาะมากสำหรับการกระตุ้นและเพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อก้น ถ้ามีน้ำหนัก ให้วางไว้บนสะโพกของคุณ
โปรแกรมสร้าง Hamstrings โปรแกรมที่ 5: สร้างกล้ามเนื้อ (Hypertrophy) และเน้นการเชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อ
โปรแกรมนี้ใช้ท่าที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อก้นและแฮมสตริงจากหลายๆ มุม เน้นที่การสร้างกล้ามเนื้อ
- Romanian Deadlift (RDL): 3 เซ็ต, เซ็ตละ 10-12 ครั้ง
ใช้น้ำหนักที่เบากว่าโปรแกรมเน้นความแข็งแรง เป้าหมายคือการใช้เวลาอยู่ใต้แรงต้าน ให้มากที่สุด และรู้สึกถึงการยืดเหยียดที่แฮมสตริง - Good Mornings: 3 เซ็ต, เซ็ตละ 10-15 ครั้ง
ทำหน้าที่เป็นท่าหลักเสริม เพื่อเพิ่มปริมาณการออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อด้านหลังลำตัว - Lying Leg Curl: 3 เซ็ต, เซ็ตละ 12-15 ครั้ง
เน้นการเคลื่อนไหวช่วงผ่อนคลายให้ช้าและควบคุม เพื่อเพิ่มเวลาที่กล้ามเนื้ออยู่ใต้แรงต้าน
วิธีทำท่าบริหาร
Romanian Deadlift (RDL)
- ยืนถือบาร์เบลหรือดัมเบลโดยแยกเท้าเท่าช่วงสะโพกและงอเข่าเล็กน้อย รักษาหลังให้ตรงตลอดเวลา
- ค่อยๆ ดันสะโพกไปด้านหลังพร้อมกับลดน้ำหนักลงจนรู้สึกตึงที่ต้นขาด้านหลัง
- จากนั้นใช้แรงจากสะโพกและบีบกล้ามเนื้อก้นเพื่อดันตัวกลับสู่ท่ายืน
Good Mornings
- วางบาร์เบลบนแร็คให้สูงระดับเดียวกับท่า Back Squat แล้วพาดไว้บนกล้ามเนื้อบ่า (ห้ามพาดที่คอ) จับบาร์ให้กว้างกว่าช่วงไหล่เล็กน้อย บีบสะบักเข้าหากัน ยืนกางขาเท่าช่วงสะโพก งอเข่าเล็กน้อยตลอดท่า
- เกร็งหน้าท้องและรักษาหลังให้ตรง ค่อยๆ ดันสะโพกไปด้านหลัง โน้มลำตัวไปข้างหน้าตามธรรมชาติ รักษาหลังให้ตรงและมองพื้นเพื่อช่วยรักษากระดูกสันหลังให้เป็นกลาง
- ก้มตัวลงจนรู้สึกตึงที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง ห้ามให้หลังส่วนล่างงอ ควรหยุดเมื่อลำตัวทำมุมประมาณ 45 องศา
- และพยายามให้หน้าแข้งตั้งฉากกับพื้นมากที่สุดจากนั้นดันสะโพกไปข้างหน้าเพื่อกลับสู่ท่าเริ่มต้น เกร็งกล้ามเนื้อก้นและ Hamstrings เพื่อช่วยในการยกตัว
Kettlebell Swings
- วาง kettlebell ห่างจากตัว 1-2 ฟุต ยืนกางขาให้กว้างกว่าช่วงไหล่เล็กน้อย โน้มตัวลงไปที่สะโพกงอเข่าเล็กน้อยเพื่อจับ kettlebell หลังต้องตรง อกผาย และดึงไหล่ให้ห่างจากหู
- เหวี่ยง kettlebell ไปด้านหลังลอดหว่างขาเหมือนส่งลูกฟุตบอล หัวแขนแตะต้นขาด้านใน พลังหลักมาจากสะโพกที่โน้มไปด้านหลัง ไม่ใช่การย่อเข่า
- เมื่อ kettlebell เหวี่ยงไปด้านหลังสุด ให้ระเบิดพลัง ขับสะโพกไปข้างหน้าอย่างแรง เพื่อส่ง kettlebell ขึ้นมายืดตัวให้ตรง
- บีบเกร็งก้นและหน้าท้องให้สุด แขนแค่ประคองปล่อยให้ kettlebell แกว่งขึ้นไปถึงระดับอก
- ปล่อยให้ kettlebell ตกลงมาด้วยแรงโน้มถ่วง รอจนวินาทีสุดท้ายก่อนจะชนขาหนีบ แล้วโน้มสะโพกไปด้านหลังเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรอบต่อไป
Stiff-Legged Deadlift
- ยืนกางขาเท่าสะโพก หน้าแข้งเกือบแตะบาร์ โน้มตัวลงไปจับบาร์เบลโดยคว่ำมือ หลังตรงและอกผาย งอเข่าเล็กน้อยและคงท่านั้นไว้ตลอด
- ดันสะโพกไปด้านหลัง เพื่อโน้มตัวลงตามธรรมชาติ ลดบาร์ลงชิดขาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะรู้สึกตึงที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง
- ห้ามให้หลังส่วนล่างงอ ดันสะโพกไปข้างหน้า เพื่อยกตัวกลับขึ้นมา บาร์เคลื่อนที่ในแนวตรงตามขา เมื่อยืนตรงให้บีบก้นเพื่อล็อกท่า
Bulgarian Split Squats
- หาม้านั่งหรือกล่องสูงประมาณเข่า หันหลังให้ม้านั่งแล้ววางหลังเท้าข้างหนึ่งไว้บนนั้น ส่วนเท้าอีกข้างอยู่ข้างหน้า ให้ระยะห่างพอดีจนย่อตัวแล้วเข่าหน้าทำมุม 90 องศา
- ยืนกางขาเท่าสะโพกหลังตรง อกผาย และเกร็งหน้าท้อง ค่อยๆ ย่อตัวลงตรงๆ โดยงอเข่าหน้าจนต้นขาขนานกับพื้น
- ห้ามโน้มตัวไปข้างหน้าหรือข้างหลัง และระวังอย่าให้เข่าหุบเข้าด้านใน ออกแรง ดันด้วยเท้าหน้าทั้งหมด เน้นที่ส้นเท้าเพื่อยกตัวกลับขึ้นมายืนตรง
- รักษาลำตัวให้ตรงตลอด และเมื่อขึ้นสุดให้บีบก้นเพื่อจบหนึ่งครั้ง
Lying Leg Curl
- นอนคว่ำบนเครื่อง ปรับแผ่นรองให้ตรงกับข้อเท้าและหัวเข่าตรงกับแกนหมุนของเครื่อง จับที่จับให้มั่นคงและกดสะโพกให้แนบเบาะ หายใจออกพร้อมกับ ค่อยๆ งอขาเพื่อดึงส้นเท้าเข้าหาบั้นท้าย
- เน้นการเกร็งกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (Hamstrings) จนสุด ค้างไว้ชั่วครู่ ที่จุดสูงสุด
- หายใจเข้าพร้อมกับ ค่อยๆ เหยียดขาลงอย่างช้าๆ ต้านทานแรงของน้ำหนัก ห้ามปล่อยให้น้ำหนักแตะแผ่นซ้อน เพื่อรักษาความตึงของกล้ามเนื้อ
Seated Leg Curl
- จัดท่านั่งหลังชิดเบาะ ปรับแผ่นรองต้นขาให้กดต้นขาไว้ และปรับแผ่นรองน่องให้ตรงกับข้อเท้า หัวเข่าต้องตรงกับแกนหมุนของเครื่อง
- เหยียดขาตรงไปข้างหน้าเล็กน้อย เกร็งแกนกลางลำตัว และจับมือจับเพื่อความมั่นคง หายใจออกพร้อมกับ ค่อยๆ ดึงส้นเท้าลงหาบั้นท้าย
- เน้นการใช้กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (Hamstrings) บีบกล้ามเนื้อให้สุดและค้างไว้ หายใจเข้าพร้อมกับ ค่อยๆ เหยียดขาขึ้นอย่างช้าๆ ต้านแรงน้ำหนัก
- อย่าปล่อยให้น้ำหนักแตะแผ่นซ้อน เพื่อรักษาความตึงของกล้ามเนื้อไว้ตลอดท่า
Glute Bridge
- นอนหงายบนพื้น งอเข่าและวางเท้าให้ราบกับพื้น วางเท้าให้กว้างเท่าสะโพก และห่างจากก้นพอประมาณ เมื่อยกสะโพกขึ้นแล้ว เข่าจะทำมุมประมาณ 90 องศา
- วางแขนแนบลำตัว ฝ่ามือคว่ำลงหลังตรงตามธรรมชาติ ไม่ต้องแอ่นหรือกดแนบพื้น
- หายใจออกพร้อมกับเกร็งหน้าท้องและบีบกล้ามเนื้อก้น ดันเท้าลงพื้นเพื่อยกสะโพกขึ้นสู่เพดาน
- ยกสะโพกขึ้นจนลำตัวเป็นเส้นตรงจากไหล่ถึงเข่า ห้ามแอ่นหลัง แล้วบีบกล้ามเนื้อก้นให้แน่น ค้างไว้ 1 วินาที
- หายใจเข้าพร้อมกับค่อยๆ ลดสะโพกลงอย่างช้าๆ ลดสะโพกลงจนเกือบแตะพื้น แล้วยกขึ้นใหม่ทันที โดยไม่ปล่อยให้สะโพกพักบนพื้น เพื่อคงความตึงของกล้ามเนื้อ
บทความที่คุณอาจสนใจ
- วิธี Hack ร่างกายผู้ชายสายสร้างกล้าม ดูแลตัวเองอย่างไรสร้างกล้ามได้ไว
- เวลาน้อยก็หุ่นดีได้ วิธีออกกำลังกายสำหรับผู้ชายเวลาน้อย
- รวมท่าปั้นหัวไหล่ผู้ชายเวลาน้อย ภายใน 15 นาที ไหล่สวยได้แม้ไม่มีเวลา
- วิธีกินตาม TDEE สำหรับผู้ชายอยากปั้นกล้าม กินอย่างไรให้ได้ผล
- Warm up กับ Cool down ต่างกันอย่างไรทำไมสำคัญต่อการสร้างกล้าม
- วิธีเลือกดัมเบลสำหรับผู้ชายให้เหมาะกับการออกกำลังกาย
- รวมท่าออกกำลังกาย Dumbbell Complex เวลาน้อยได้ผลมาก
- รวมท่าฝึกแกนกลางลำตัว แบบไม่หนัก ได้กล้ามสวยแก้ปวดหลัง ทำตามง่าย
- สาเหตุที่ออกกำลังกายหนักแต่ไม่มีกล้าม เปลี่ยนวิธีนี้กล้ามขึ้นแน่