รีเซต
คอนซาโดเล ซัปโปโร : สโมสรเจลีกที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับอาเซียน | Main Stand

คอนซาโดเล ซัปโปโร : สโมสรเจลีกที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับอาเซียน | Main Stand

คอนซาโดเล ซัปโปโร : สโมสรเจลีกที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับอาเซียน | Main Stand
เมนสแตนด์
27 พฤษภาคม 2565 ( 18:00 )
1.1K

ถือเป็นข่าวดีสำหรับวงการฟุตบอลไทย เมื่อ สุภโชค สารชาติ ดาวเตะจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะกลายเป็นแข้งจากแดนสยามรายล่าสุดที่ได้ไปโชว์ฝีเท้าในเจลีก หลังย้ายไปร่วมทีม คอนซาโดเล ซัปโปโร ด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน


 

"เขาเป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลจนได้รับการขนานนามว่า 'สมบัติของไทย' เมื่ออยู่ในสนาม" ฮิโรคัตสึ มิคามิ ผู้จัดการทั่วไป คอนซาโดเล ซัปโปโร กล่าว

อย่างไรก็ดีการคว้านักเตะจากไทยหรือจากอาเซียนไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับ คอนซาโดเล เพราะพวกเขาคือหนึ่งในไม่กี่ทีมในเจลีกที่ให้ความสนใจผู้เล่นจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เข้ามาสร้างปรากฏการณ์ได้อย่างถล่มทลาย

เพราะเหตุใด นกฮูกแห่งแดนเหนือ จึงให้ความสำคัญกับนักเตะในภูมิภาคนี้ ร่วมติดตามไปพร้อมกับ Main Stand

 

ยุทธศาสตร์เอเชีย

อันที่จริงความสนใจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ คอนซาโดเล ซัปโปโร อาจจะต้องย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน เมื่อเจลีกปล่อยแผนที่ชื่อว่า "ยุทธศาสตร์เอเชีย" หรือ Asia Strategy เมื่อปี 2012

แผนดังกล่าวมีเป้าหมายสำคัญคือขยายฐานแฟนบอลเจลีกไปทั่วเอเชีย หลังจากตลาดในประเทศเริ่มทรงตัว และภูมิภาคแรกที่พวกเขาโฟกัสคือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หนึ่งในภูมิภาคที่คลั่งไคล้ฟุตบอลที่สุดของเอเชีย

"บริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากเล็งเป้าไปที่อาเซียน และเจลีกก็พยายามทำเหมือนกัน" เค โคยามะ ฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเจลีก กล่าวกับ The New York Times

"เราพยายามเพิ่มฐานแฟนบอลเจลีก และในเวลาเดียวกันคือช่วยให้ฟุตบอลเอเชียพัฒนาขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อทุกคน"

ในช่วงเริ่มแรกเจลีกเริ่มต้นด้วยการเซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลงร่วมกัน หรือ MOU กับลีกไทย เวียดนาม และ เมียนมา ที่จะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และทรัพยากรซึ่งกันและกัน ด้วยความหวังว่าจะทำให้สโมสรจากเจลีกดึงตัวนักเตะจากลีกเหล่านี้ไปร่วมทีม

อย่างไรก็ดีในตอนนั้นดูเหมือนจะมีแค่ คอนซาโดเล สโมสรในเจ 2 เพียงทีมเดียวที่น้อมรับแผนยุทธศาสตร์นี้ หลังเซ็นสัญญาคว้าตัว สเตฟาโน ลิลิปาลี ดาวเตะลูกครึ่งอินโดนีเซีย-เนเธอร์แลนด์ มาร่วมทัพในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 2013 ตามมาด้วย เล คอง วินห์ ดาวยิงชาวเวียดนาม ในช่วงหน้าร้อนปีเดียวกัน

และเป็นรายหลังที่ทำให้ คอนซาโดเล รูู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิด หลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ยิงไป 4 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 11 นัด จนทำให้พวกเขาอยากจะได้ตัวมาร่วมทีมอย่างถาวร ติดแค่ดาวยิงชาวเวียดนามปฏิเสธโอกาสนั้น

หลังจากนั้น คอนซาโดเล ดูเหมือนจะติดใจแข้งอาเซียน และมาลองอีกครั้งกับ อิร์ฟาน บัคดิม แข้งลูกครึ่งอินโดนีเซีย-เนเธอร์แลนด์ ที่ก่อนหน้านี้อยู่กับ เวนต์ฟอเรต โคฟุ มาก่อน

ทว่าครั้งนี้ผลที่ออกมานั้นน่าผิดหวัง เพราะนอกจากเขาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการรักษาอาการบาดเจ็บแล้วยังทำผลงานได้ไม่ดีนัก เมื่อได้โอกาสลงสนาม จนในที่สุดก็ถูกปล่อยตัวออกจากทีมไปในปี 2016

แต่ในปี 2017 คอนซาโดเล ก็กลับมามีความหวังอีกครั้ง

 

แรงกระเพื่อมจากแดนสยาม

ปี 2017 ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของลีกอาชีพญี่ปุ่น เนื่องจากเจลีกได้แก้กฎว่า นักเตะจากชาติพันธมิตร ได้แก่ ไทย, เวียดนาม, กัมพูชา, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, อิหร่าน, มาเลเซีย และ กาตาร์ จะไม่ถูกนับเป็นโควตานักเตะต่างชาติอีกต่อไป

มันจึงเหมือนเป็นการปลดล็อกนักเตะจากประเทศดังกล่าวโดยเฉพาะประเทศอาเซียนที่มักจะถูกมองข้าม และทำให้ สิทธิโชค ภาโส จากไทย และ จัน วัฒนากา จากกัมพูชา กลายเป็นสองแข้งที่ได้ประเดิมกฎใหม่นี้ หลังย้ายไปร่วมทีม เอฟซี ริวกิว และ ฟูจิเอดะ เอ็มวายเอฟซี ตามลำดับ

แต่ดูเหมือนนั่นเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เมื่อกลางปี 2017 คอนซาโดเล ที่ตอนนั้นขึ้นมาเล่นในเจ 1 แล้ว ได้สร้างความฮือฮาครั้งใหม่ด้วยการประกาศคว้าตัว ชนาธิป สรงกระสินธ์ จาก เมืองทอง ยูไนเต็ด มาด้วยสัญญายืมตัวครึ่งฤดูกาล

และ ชนาธิป ก็เหมือนเป็นการถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ของนกฮูกแห่งเมืองเหนือ เมื่อเขาสามารถสร้างความสั่นสะเทือนได้ตั้งแต่ยังไม่ลงสนาม ด้วยการทำให้ชื่อของ คอนซาโดเล ถูกพูดถึงเป็นวงกว้างในประเทศไทย

ขณะที่วิดีโอการซ้อมครั้งแรกของชนาธิป ในสีเสื้อของ คอนซาโดเล ที่อัปโหลดลงในเฟซบุ๊กของเจลีกก็ยังได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม หลังมีผู้เข้ามาเข้าชมมากถึง 3 ล้านครั้ง มากกว่าประชากรในเมืองซัปโปโร ที่มีอยู่ 1.97 ล้านคน

"ผมตกใจที่วิดีโอการซ้อมครั้งแรกของชนาธิปสามารถทำยอดวิวได้ถึง 3 ล้านครั้ง มากกว่าประชากรของซัปโปโรเสียอีก" มิตสึรุ มุราอิ ประธานเจลีกกล่าวกับ Kyodo News

นอกจากนี้การย้ายทีมของชนาธิปยังทำให้มีการถ่ายทอดสดเกมของ คอนซาโดเล กลับมายังประเทศไทยทุกนัด ผ่านทาง TrueVisions ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ตั้งแต่ปี 2017 รวมถึงออนแอร์ผ่านฟรีทีวีอย่าง True4U ที่มีทั้งบนหน้าจอโทรทัศน์และเฟซบุ๊กแฟนเพจ

แม้ว่าชนาธิปจะไม่สามารถเบิกสกอร์ได้ในฤดูกาลแรกที่มาถึง แต่เขาก็ยังฝากผลงานไว้ 1 แอสซิสต์ตลอดการลงเล่น 16 นัด และได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อและแฟนบอลในญี่ปุ่น  

"ฉันชอบชนาธิปมาก เขาตัวเล็กพอ ๆ กับฉันแต่สามารถยึดตัวจริงได้ ด้วยการเลี้ยงบอลที่คล่องแคล่วและฉับไว รวมทั้งควบคุมบอลได้อย่างแม่นยำ" หญิงวัย 54 ปีที่ตามเชียร์คอนซาโดเลมากว่า 30 ปีกล่าวกับ NNA

ทั้งนี้เขายังเป็นสาเหตุที่ทำให้ยอดผู้ชมในเจลีกเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ หลังจากมีแฟนบอลมากถึง 400,000 คนเข้ามาดูการถ่ายทอดสดในเกมที่ชนาธิปลงสนามพบกับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล เมื่อเดือนสิงหาคม 2017

ทว่านั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะในซีซั่นต่อมา "ชนาคุง" ระเบิดฟอร์มอย่างไม่เกรงใจใคร เมื่อถูกใช้เป็นศูนย์กลางในแนวรุก ภายใต้การคุมทีมของ มิไฮโล เปโตรวิช จนยิงไปถึง 8 ประตูจาก 30 นัด พร้อมพาคอนซาโดเลจบในอันดับ 4 ของตาราง สูงสุดในประวัติศาสตร์สโมสร

ผลงานดังกล่าวยังทำให้เขาได้รับเลือกเข้าไปติดทีม J.League Best XI หรือทีมยอดเยี่ยมแห่งปี ซึ่งถือเป็นนักเตะคนแรกในรอบ 17 ปีของคอนซาโดเล แถมยังเป็นคนเดียวจากอาเซียนที่ก้าวมาถึงจุดนี้  

อย่างไรก็ดีอิทธิพลของเขาไม่ได้ส่งผลแค่ในสนามเท่านั้น

 

พาชื่อดังไปไกล

ความยอดเยี่ยมของ "ชนาคุง" ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ถูกจับตามองไม่ต่างจากสตาร์ของคอนซาโดเล ทำให้ไม่ว่าจะขยับตัวไปไหนหรือทำอะไรก็มักจะได้รับความสนใจ โดยเฉพาะกับแฟนบอลในไทยทั้งสิ้น

ขณะเดียวกันตัวชนาธิปเองก็ทำให้ชื่อของ ซัปโปโร ดังไปไกล ที่ไม่ใช่แค่ในฐานะสโมสรแต่รวมไปถึงเมือง เมื่อผลสำรวจของ Nielsen Sports ที่ได้สอบถามเมืองในญี่ปุ่นที่แฟนบอลชาวไทยรู้จักในปี 2018 พบว่า 93 เปอร์เซ็นต์ต่างรู้จักเมืองซัปโปโร 

มันเป็นรองเพียงแค่ โตเกียว (98%) โอซากา (96%) โยโกฮามา (96%) และ ฮิโรชิมา (94%) เท่านั้น และเมื่อเทียบกับชาวไทยที่ไม่ได้ดูฟุตบอลยังพบว่าเปอร์เซ็นต์ของคนทั่วไปที่รู้จักเมืองซัปโปโรมีน้อยกว่า 11 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฟุตบอลมีอิทธิพลแค่ไหน 

แต่ที่สำคัญที่สุดคือการที่ชนาธิปทำให้ ซัปโปโร และ ฮอกไกโด กลายเป็นหมุดหมายใหม่ของแฟนบอลชาวไทย และทำให้ "ทริปดูบอล" เพิ่มขึ้นอย่างอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา 

ชาญชัย คือหนึ่งในนั้น เขาคือพนักงานบริษัทด้านการออกแบบวัย 46 ปีที่มาพร้อมกับเพื่อนอีก 4 คน เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะมาญี่ปุ่นหลายครั้งแล้วแต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาฮอกไกโด โดยมี 2 เป้าหมายหลักคือท่องเที่ยวและเชียร์ชนาธิป

"ผมมีความสุขมากที่ คอนซาโดเล ซัปโปโร ชนะในวันนี้ ผมคิดว่าการเคลื่อนไหวของชนาธิปน่าตื่นตามาก เขามีส่วนอย่างมากกับชัยชนะ แฟนบอลซับโปโรใจดีมาก" ชาญชัย กล่าวกับ NNA เมื่อปี 2019

อย่างไรก็ดีความโด่งดังของชนาคุงไม่ได้ส่งผลดีกับแค่คอนซาโดเลและเมืองซัปโปโรเท่านั้น แต่มันยังทำให้เจลีกได้รับประโยชน์นี้ โดยจากการรายงานของ Asahi ระบุว่ามันทำให้ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของเจลีกในไทยในฤดูกาล 2020-2022 เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าจากฤดูกาล 2017-2019 แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขว่าเพิ่มขึ้นเท่าใด 

นอกจากนี้ ชนาธิป ยังทำให้มีการค้นหาข้อมูล "เจลีก" ทางอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนนับตั้งแต่ปี 2017 และทำให้มีบทความออนไลน์ที่มีคำว่าเจลีกทะยานสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด 

โดยในปี 2016 มีบทความออนไลน์ที่มีคำว่าเจลีกอยู่เพียง 745 บทความ ก่อนจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 2,315 บทความในปี 2017 หรือมากกว่า 3 เท่า และล่าสุดในปี 2020 ก็มีมากถึง 4,880 บทความหรือเกือบ 7 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2016  
"เขา (ชนาธิป) สร้างแรงกระเพื่อมอย่างมหาศาลให้เจลีก ผมอยากให้เขาพัฒนาลีกของเราต่อไป" มุราอิ กล่าวชื่นชมกับ Kyodo

ก่อนที่มันจะส่งผลกระทบไปทั่วทั้งภูมิภาค

 

ใบเบิกทางแข้งอาเซียน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสำเร็จของ ชนาธิป นั้นมีส่วนไม่น้อยที่ทำให้สโมสรในเจลีกเปิดใจให้กับนักเตะจากอาเซียนมากขึ้น และทำให้นับตั้งแต่ปี 2018 มีนักเตะจากภูมิภาคดังกล่าวพาเหรดกันมาค้าแข้งในลีกอย่างต่อเนื่อง 

ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทีมชาติของชนาธิปอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน ที่ย้ายไปเล่นให้กับ ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา และ วิสเซิล โกเบ ตามลำดับ เมื่อปี 2018 หรือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กับ โออิตะ ทรินิตะ ในปี 2019 

เช่นกันกับ ดัง วาน ลัม ผู้รักษาประตูชาวเวียดนาม ที่ย้ายมาเล่นให้กับ เซเรโซ โอซากา เมื่อปี 2021 หรือ ปราตามา อาฮาน ดาวรุ่งอินโดนีเซีย ที่มาเล่นกับ โตเกียว เวอร์ดี้ ในปี 2022 เป็นต้น 

"แม้ว่าผมจะพยายามเรียกร้องให้แต่ละทีมดึงตัวนักเตะอาเซียนมาร่วมทีม รวมถึงพูดถึงศักยภาพของพวกเขามากว่า 5 ปี แต่มันก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะเป็นจริงได้ เนื่องจากอคติที่มีต่อนักเตะอาเซียน" โคยามะ กล่าวกับ NNA  

"แต่ความสำเร็จของชนาธิปก็ทำให้พวกเขาคิดได้ว่าถ้ามีนักเตะอาเซียนฝีเท้าดีคนอื่นอีก พวกเขาก็จะซื้อตัวมา" 

นอกจากนี้ตั้งแต่ปี 2019 เจลีกยังเปลี่ยนแปลงกฎผู้เล่นต่างชาติ จาก 3+1 มาเป็นไม่จำกัด แต่สามารถส่งสนามพร้อมกันได้ไม่เกิน 5 คน ในขณะที่นักเตะจากชาติที่เซ็น MOU ให้มีสถานะเทียบเท่านักเตะญี่ปุ่นทำให้ลีกแห่งนี้เปิดกว้างแก่แข้งอาเซียนขึ้นไปอีก

และในปี 2022 คอนซาโดเล ก็ยังสานต่อนโยบายนี้ ด้วยการคว้าตัว สุภโชค สารชาติ จาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาร่วมทัพด้วยสัญญายืมตัว 6 เดือน และทำให้เขากลายเป็นนักเตะไทยรายที่ 3 ต่อจาก ชนาธิป และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ และนักเตะอาเซียนรายที่ 6 ของนกฮูกแห่งแดนเหนือ 

"ผมรู้สึกถึงความคล่องตัวและแรงจูงใจในการยิงประตู แม้จะเป็นในไทยก็ตามการดวลกัน 1 ต่อ 1 เขาก็ทำได้ดี เขามีทั้งทักษะและความเร็ว ผมคิดว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เหมาะสมสำหรับเราตอนนี้ จึงได้ยื่นข้อเสนอไป" ฮิโรคัตสึ มิคามิ ผู้จัดการทั่วไปของคอนซาโดเล กล่าวกับ Nikkan Sports

"เขาเป็นผู้เล่นที่มีอิทธิพลจนได้รับการขนานนามว่า 'สมบัติของไทย' เมื่ออยู่ในสนาม"

เพราะมันคือปรัชญาที่คอนซาโดเลยึดถือมาโดยตลอดเกือบ 10 ปี 

 

พัฒนาไปพร้อมกัน

การใช้นักเตะจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำให้คอนซาโดเลมีตัวตนที่ชัดเจนว่าพวกเขาจะพัฒนาสโมสรไปในทิศทางใด และมองไปไกลกว่าผลงานในสนาม  

"ถ้าคุณแค่อยากให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นก็ไม่ควรเอานักเตะอาเซียนเข้ามา แต่เป็นนักเตะญี่ปุ่นที่สามารถลงเล่นในระดับมาตรฐานได้ นั่นดีที่สุดแล้ว" มิคามิ กล่าวกับ Yahoo Japan

"ตอนที่ผมได้ตัว เล คอง วินห์ ของเวียดนาม และ ชนาธิป ของไทย ผมยังถูกเยาะเย้ยจากเจ้าหน้าที่ในสโมสรเจลีกอยู่เลย แต่เรามีวิสัยทัศน์ที่จะทำให้ฮอกไกโดมีความมั่งคั่ง"

มันจึงทำให้พวกเขาเป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมอาเซียนเข้ากับญี่ปุ่น และสิ่งสำคัญคือพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่านักเตะจากภูมิภาคนี้ดีพอที่จะลงเล่นในเจลีกได้  

"การได้ตัวชนาธิปมานั้นจะเป็นกำลังสำคัญกับคอนซาโดเล เพราะเขาจะกลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างบริษัทและองค์กรในฮอกไกโดที่อยากจะสร้างความสัมพันธ์กับอาเซียน" มิคามิ กล่าวต่อ

"ผมมักจะได้ยินความรู้สึกที่ว่าฟุตบอลสามารถนำมาใช้ในลักษณะนี้และกีฬาก็มีพลังเช่นนั้น ผมจึงรู้สึกว่าคอนซาโดเล สามารถเข้าถึงคนที่ไม่ได้คิดว่าจะเข้าถึงได้ในตอนนี้" 

นี่คือผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย เพราะไม่เพียงสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ฟุตบอลญี่ปุ่นเท่านั้น แต่มันยังช่วยพัฒนาฟุตบอลอาเซียนไปพร้อม ๆ กัน และมันจะทำให้วงการฟุตบอลเอเชียเติบโตต่อไปอย่างมั่นคง 

"ผมคิดว่าเจลีกสามารถขยายฐานคนดูไปมากกว่าแค่คนญี่ปุ่น และจะได้เป็นที่ยอมรับไปทั่วทั้งอาเซียน" โนโนมูระ ประธานสโมสรคอนซาโดเล กล่าวกับ HTB

"ถ้าระดับของฟุตบอลอาเซียนสูงขึ้นเจลีกก็จะได้ประโยชน์ไปด้วย"

"หลังจากได้ดูชนาธิป ผมคิดว่าเด็ก ๆ ในอาเซียนและไทยคงอยากจะมาเล่นในเจลีกอยู่เรื่อย ๆ แน่นอน" 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.nna.jp/nnakanpasar/backnumber/190101/feature_005 
https://news.yahoo.co.jp/byline/murakamiashishi/20190109-00110535
https://www.nna.jp/nnakanpasar/backnumber/190101/feature_001 
https://style.nikkei.com/article/DGXMZO32207200V20C18A6000001/ 
https://news.yahoo.co.jp/articles/43055ca71a1947182c5838cb6e537c01d4b6d66d
https://www.goal.com/en-sg/news/a-bridge-through-football-how-the-j-league-connected-japan/blt487e65da1a2123d6 
https://www.jleague.co/news/a-bridge-through-football-how-the-jleague-connected-japan-and-southeast-asia-part-1/
https://english.kyodonews.net/news/2019/02/6de09166a34f-feature-soccer-thai-star-helps-j-league-aim-for-southeast-asian-expansion.html
https://asia.nikkei.com/Business/Business-trends/Big-in-Thailand-Japan-soccer-catches-on-in-Southeast-Asia 
https://apnews.com/article/178971baa26842fab047588617eb7178
https://www.asahi.com/ajw/articles/14108966
https://www.nytimes.com/2014/03/06/sports/soccer/j-league-looks-to-be-a-force-in-southeast-asia.html

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

ดูสด ดูฟรี ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ... พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม
ต้อง App TrueID เท่านั้น โหลดเลย!!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ