รีเซต
ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 22/23 : 'อาร์เซน่อล' กับการทวงท็อปโฟร์ที่พลาดไป

ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 22/23 : 'อาร์เซน่อล' กับการทวงท็อปโฟร์ที่พลาดไป

ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 22/23 : 'อาร์เซน่อล' กับการทวงท็อปโฟร์ที่พลาดไป
EkkEReport
3 สิงหาคม 2565 ( 03:00 )
9.4K

ทรูไอดีพรีวิว อาร์เซน่อล ฤดูกาล 2022/23 ทีมฟุตบอล ศึกพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2022/23

ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 22/23

อาร์เซน่อล

บทสรุปผลงานซีซั่นก่อน

ฤดูกาล 2021/22 ที่ผ่านมา น่าจะถือได้ว่าเป็นซีซั่นที่ "น่าเสียดาย" ของทัพ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เป็นอย่างยิ่ง แต่คงไม่ใช่ซีซั่นที่ "น่าผิดหวัง" แต่อย่างใด หลังจากที่พวกเขาสามารถทำผลงานได้ค่อนข้างดี จนขยับเข้าใกล้การกลับมาติดท็อปโฟร์ และคว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้อีกครั้งมากที่สุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ที่ เดอะ กันเนอร์ส จบในอันดับท็อปโฟร์ครั้งสุดท้ายในปี 2015/16 แต่ท้ายที่สุดกลับพลาดท่า ทำตั๋วศึกถ้วยใหญ่ของยุโรปหลุดมือไปในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลแบบไม่น่าเชื่อ

ซีซั่นที่แล้ว นับเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ปี 1995/96 ที่พวกเขาไม่ได้ไปเล่นศึกฟุตบอลยุโรปถ้วยใดเลย หลังจากที่ฤดูกาลก่อนหน้า ยอดทีมแห่ง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม จบในอันดับ 8 ของตาราง เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน แถมไม่ได้ถ้วยใบใดติดไม้ติดมือด้วย อย่างไรก็ดี อาจจะกล่าวได้ว่า มิเกล อาร์เตต้า สามารถ "พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส" ก็ว่าได้ เพราะจากการที่ไม่ได้เล่นฟุตบอลยุโรป ทำให้เฮดโค้ชชาวสเปน ได้มีเวลาฝึกซ้อมและจัดการบริหารทีมอย่างเต็มที่ รวมทั้งทำให้ลูกทีมได้มีสมาธิโฟกัสไปกับผลงานในลีกเพียงอย่างเดียว

แม้ว่า อาร์เซน่อล จะออกสตาร์ทฤดูกาลได้อย่างน่าใจหาย หลังเริ่มต้นด้วยการแพ้ในลีก 3 นัดรวด จนส่งผลให้ตกลงไปจมบ๊วยของตาราง และทำให้เก้าอี้นายใหญ่ของ อาร์เตต้า ร้อนฉ่าขึ้นมาทันที แต่แล้ว หลังจากนั้นผลงานของพวกเขา ก็กลับดีขึ้นมาแบบผิดหูผิดตา เมื่อคว้าชัยได้ถึง 6 นัด และเสมอ 2 นัด ไม่แพ้ใครถึง 8 นัดติดต่อกัน ทำให้ อาร์เซน่อล กระโดดขึ้นมารั้งอันดับ 5 ของตาราง

หลังจากนั้น ทีมดังจากกรุงลอนดอน ก็ยังคงรักษาระดับมาตรฐาน และฟอร์มการเล่นได้อย่างต่อเนื่อง กระทั่งรั้งอยู่ในอันดับ 4 เมื่อผ่านการลงสนามไป 28 นัด ซึ่งในเวลานั้น ถือได้ว่าพวกเขาสามารถกุมชะตาอนาคตของตัวเอง และมีโอกาสค่อนข้างสูงทีเดียวที่จะสามารถจบฤดูกาลในอันดับ 4 ได้

ทว่าสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อใน 10 นัดสุดท้าย ปืนใหญ่ กลับพลาดท่าพ่ายแพ้ไปถึง 5 นัด โดยเฉพาะการปราชัยต่อ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คู่แข่งแย่งตั๋ว UCL โดยตรงถึง 0-3 ในช่วง 3 นัดสุดท้าย ตามด้วยการแพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-2 ในนัดรองสุดท้าย ทำให้ตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ใบสุดท้าย กระเด็นหลุดมือพวกเขาไปอย่างสุดเจ็บปวด ด้วยน้ำมือของศัตรูเบอร์ 1 อย่าง ไก่เดือยทอง และนั่นจึงทำให้ฤดูกาลที่ผ่านมานี้ กลายเป็นซีซั่นที่น่าเสียดายอย่างที่สุดของ เดอะ กันเนอร์ส ไปโดยปริยาย

 

ขุมกำลังซีซั่นนี้

หลังจากที่อดีตกัปตันทีมอย่าง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ย้ายไปร่วมทัพ บาร์เซโลน่า ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตามด้วยการหมดสัญญาของ อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ ก่อนย้ายซบ โอลิมปิก ลียง ในช่วงซัมเมอร์นี้ ทำให้คงเรียกได้ว่า อาร์เซน่อล ได้เปลี่ยนผ่านผลัดใบเข้าสู่ยุคใหม่ พร้อมถ่ายเลือดเป็น "ทีมพลังหนุ่ม" อย่างแท้จริง

ตลอด 1-2 ฤดูกาลที่ผ่านมา มิเกล อาร์เตต้า ได้ทำให้เห็นถึงแนวทางที่ค่อนข้างชัดเจน ในการสร้างทีมโดยใช้นักเตะดาวรุ่งอายุน้อยเป็นแกนหลักมาโดยตลอด กระทั่งตลาดซื้อขายในรอบนี้ พวกเขาก็ได้ตอกย้ำปรัชญาดังกล่าว ด้วยการเสริมทัพที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้ทุ่มเงินคว้าแข้งหนุ่มมาร่วมทีมหลายรายเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็น มาร์ควินญอส แนวรุกดาวรุ่งวัย 19 ปี จาก เซา เปาโล (3 ล้านปอนด์), ฟาบิโอ วิเอร่า กองกลางเลือดฝอยทอง วัย 22 ปี จาก ปอร์โต้ (30 ล้านปอนด์) รวมถึงการกระชากตัว 2 แข้ง ดีกรีแชมป์พรีเมียร์ลีก ซีซั่นก่อน มาจากเรือใบสีฟ้า ทั้ง กาเบรียล เชซุส (45 ล้านปอนด์) และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (32 ล้านปอนด์)

ทั้งนี้ คงต้องมารอลุ้นกันว่า สุดท้ายแล้วการลงทุนทุ่มเงินเกินกว่า 100 ล้านปอนด์ ในตลาดรอบนี้ของ อาร์เซน่อล จะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุดหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ มันได้ทำให้แฟนบอลได้เห็นถึงความตั้งใจและแนวทางของพวกเขาอย่างชัดเจน ที่ต้องการจะใช้แข้งวัยหนุ่มเป็นแกนหลักในการสร้างทีมในระยะยาวต่อไป

 

คีย์แมนที่น่าจับตามอง

ซีซั่นที่ผ่านมา มีนักเตะในแนวรุกของ อาร์เซน่อล หลายคนที่โชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, บูกาโย่ ซาก้า หรือ เอมิล สมิธ โรว์ แต่คงต้องยอมรับว่า หากจะพูดถึงศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ พวกเขายังไม่สามารถฝากผีฝากไข้ไว้กับใครได้เลย นับตั้งแต่ที่ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ย้ายออกจากทีมไป ไม่ว่าจะเป็น อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ หรือ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่ต่างก็มีช่วงเวลาที่ฟอร์มดีและฟอร์มฝืด ยังไม่มีความสม่ำเสมอด้วยกันทั้งคู่

แล้วยิ่ง ลากาแซตต์ ก็อำลาทีมไปอีกคนแล้วด้วย ทำให้ตำแหน่งหัวหอกของทีม ยิ่งตกอยู่ในคำถาม จนทำให้สุดท้ายแล้ว พวกเขาจึงต้องตัดสินใจดึงตัว กาเบรียล เชซุส ดาวยิงแซมบ้า มาจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวถึง 45 ล้านปอนด์ เพื่อหวังให้มาเป็นที่พึ่งในแดนหน้า

ซึ่งก็ดูเหมือนว่า เชซุส ในวัย 25 ปี น่าจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ของ อาร์เซน่อล ได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งในแง่ของตำแหน่ง อายุ รวมทั้งประสบการณ์กับทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีก ที่เจ้าตัวได้พิสูจน์ตัวเองมาในระดับหนึ่งแล้ว นอกจากนั้น เขายังสามารถเปิดตัวกับทีมได้อย่างยอดเยี่ยม หลังระเบิดฟอร์มซัดไปแล้วถึง 4 ประตูในเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่น (นับถึงเกมชนะ เชลซี 4-0) รวมทั้งยังเข้ามามีบทบาทสำคัญในเกมรุกของทีมปืนใหญ่อย่างเห็นได้ชัดทันที แบบที่แทบไม่ต้องเสียเวลาปรับตัวอะไรเลย

นั่นจึงทำให้เชื่อว่า เชซุส น่าจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวแปรและฟันเฟืองสำคัญ ในเกมรุกของปืนใหญ่ซีซั่นหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งหากเขาประสานงานกับบรรดาแนวรุกคนอื่นๆ ได้อย่างเข้าขาลงตัวแบบนี้ต่อไป เกมรุกของ อาร์เซน่อล ก็คงจะน่ากลัวและอันตราย ไม่แพ้ทีมใดในลีกเลยทีเดียว

 

บทวิเคราะห์และทำนายอันดับ

แน่นอนว่า เป้าหมายของ อาร์เซน่อล ในซีซั่นนี้ คงจะต้องเป็นการคว้าโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้อีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากที่พวกเขาห่างหายจากการโม่แข้งในศึกถ้วยใหญ่ของยุโรปถึง 6 ปีเต็มเข้าไปแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ อาร์แซน เวนเกอร์ เคยสร้างมาตรฐาน คว้าตำแหน่งท็อปโฟร์ได้มาโดยตลอด

ทั้งนี้ แม้ว่าการเสริมทัพ ฟอร์มการเล่นในช่วงปรีซีซั่น รวมทั้งแนวทางและวิธีการทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า จะกำลังเป็นไปได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่คงต้องยอมรับว่า กุนซือหนุ่มชาวสเปน คงต้องพบกับงานหนักไม่น้อย และน่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากคู่แข่งของพวกเขานั้น ต่างก็ยังคงแข็งแกร่ง และมีมากมายหลายทีมเหลือเกิน โดยหากวิเคราะห์ตามมาตรฐานและความน่าจะเป็นแล้ว ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะยังคงคว้าตั๋ว 2 ใบแรกไปครองได้อย่างไม่ยากเย็น ทำให้จะเหลือตั๋วอีกเพียง 2 ที่นั่งเท่านั้นให้ทีมอื่นแย่งชิงกัน

ดังนั้นแล้ว คาดว่า อาร์เซน่อล จึงน่าจะยังคงต้องแข่งขันและต่อสู้กับทั้ง เชลซี, สเปอร์ส, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมถึงทีมที่เตรียมที่จะสอดแทรกขึ้นมาอีก เช่น เลสเตอร์ ซิตี้ และ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ด้วย ซึ่งด้วยศักยภาพของนักเตะที่มี และรูปแบบการเล่นที่ดูดีมีอนาคต ทำให้โอกาสที่พวกเขาจะกลับไปยึดท็อปโฟร์ได้อีกครั้ง ก็มีความเป็นไปได้ไม่น้อยเช่นกัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดของพวกเขา น่าจะอยู่ที่เรื่องของ "ความเขี้ยว" และ "ประสบการณ์" ของทั้งตัวกุนซือและนักเตะ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาต้องอกหักไปในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่นที่แล้ว เพราะหากเทียบความเก๋าเกมของผู้จัดการทีม และความนิ่งของนักเตะแกนหลักในทีมแล้ว ทัพปืนใหญ่ยังคงดูเป็นรองยักษ์ใหญ่ทีมอื่นๆ อยู่เล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานการณ์การแข่งขันที่มีความกดดันสูง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ อาร์เซน่อล จะต้องพิสูจน์ตัวเองและก้าวข้ามมันไปให้ได้เสียที

โดยหากว่า ปืนใหญ่ ลดความผิดพลาดที่เคยเป็นปัญหาในซีซั่นก่อน และรักษาฟอร์มการเล่นให้สม่ำเสมอได้จนถึงช่วงท้ายซีซั่น เราก็คงจะได้คำตอบและบทสรุปว่า มันถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่พวกเขาจะทวงบัลลังก์ท็อปโฟร์กลับมาได้อีกครั้ง

อันดับที่คาด : อันดับที่ 6

 

ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 22/23

 

"เอกกี้รีพอร์ต"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

ดูสด ดูฟรี ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ... พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม
ต้อง App TrueID เท่านั้น โหลดเลย!!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ