ช็อกโลก! สวิสไล่เจ๊าฝรั่งเศส 3-3 น.90 ก่อนแม่นเป้าดับแชมป์โลก 5-4 ลิ่วชนสเปน ศึกยูโร 2020

ฝรั่งเศส VS สวิตเซอร์แลนด์ 3-3 (4-5) | นับเป็นเกมสุดดราม่าระดับ 5 ดาว ที่มีการพลิกผันกันหลายตลบจริงๆ เมื่อ สวิตเซอร์แลนด์ ออกนำ ฝรั่งเศส ไปก่อนตั้งแต่ 15 นาทีแรก แต่ครึ่งหลังทีมแชมป์โลกยิงคืน 3 ลูกรวด ทว่าสวิสไม่ยอมแพ้ กลับมาทำ 2 ประตู ในนาที 81 และ 90 ตามตีเสมอ 3-3 จนต้องต่อเวลาพิเศษ ก่อนที่จะตัดสินกันด้วยการดวลลูกโทษ ซึ่งสุดท้ายแล้วกลายเป็น คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่ยิงไม่เข้า ส่งผลให้สวิตเซอร์แลนด์ชนะทีมตราไก่ ในการยิงจุดโทษ 5-4 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมไปพบกับ สเปน ต่อไป

ฟุตบอลยูโร 2020

ฝรั่งเศส 3-3 สวิตเซอร์แลนด์

(สวิตเซอร์แลนด์ ชนะในการดวลจุดโทษ 5-4)

ศึกฟุตบอล ยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2564 "ตราไก่" ทีมชาติฝรั่งเศส พบกับ "แดนนาฬิกา" ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่สนาม อารีน่า เนชั่นนาล่า ประเทศโรมาเนีย

GOAL!! เกมเริ่มมาถึงนาที 15 สวิตเซอร์แลนด์ สร้างเซอร์ไพรส์ ได้ประตูออกนำฝรั่งเศสไปก่อน จากจังหวะที่ สตีเว่น ซูเบอร์ ตักบอลจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษ แล้วเป็น แฮริส เซเฟโรวิช ที่กระโดดขึ้นโขกเปลี่ยนทาง บอลตกพื้นเบียดเสาเข้าประตูไป ชนิดที่ อูโก้ ยอริส หมดสิทธิ์ป้องกัน สวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นนำ 1-0

นาที 26 ฝรั่งเศสได้โอกาสลุ้น จากจังหวะฟรีคิก คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ยิงไปติดกำแพง ก่อนได้ซ้ำดาบสอง แต่คราวนี้บอลติดไซด์ ทำให้หลุดกรอบออกไป

2 นาทีถัดมา เอเดรียง ราบิโอต์ ลองส่องไกลด้วยซ้ายจากนอกกรอบ แต่บอลพุ่งหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว

ช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งแรก ทั้ง 2 ทีม ไม่มีโอกาสจบสกอร์แบบจะแจ้ง ทำให้จบครึ่งเวลาแรก สวิตเซอร์แลนด์ นำ ฝรั่งเศส 1-0

ครึ่งหลัง นาที 47 อองตวน กรีซมันน์ ลองยิงไกล แต่บอลก็ยังไม่ตรงกรอบ

นาที 55 สวิตเซอร์แลนด์ ได้ลูกโทษ จากจังหวะที่ แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ เสียบสกัดใส่ สตีเว่น ซูเบอร์ ผู้ตัดสินวิ่งไปดู VAR แล้วให้จุดโทษ ทว่า ริคาร์โด้ โรดริเกซ สังหารพลาด บอลไปติดเซฟของ อูโก้ ยอริส ทำให้สวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้ประตูที่สอง

นาที 56 ปอล ป็อกบา ไหลบอลเข้าเขตโทษให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ยิงเน้นๆ ด้วยขวา แต่บอลหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

GOAL!! กระทั่ง นาที 57 ฝรั่งเศสก็มาได้ประตูตีเสมอ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ไหลบอลให้ คาริม เบนเซม่า เกี่ยวบอลเข้าเขตโทษ ก่อนจิ้มบอลสวนตัว ยานน์ ซอมเมอร์ เข้าไปตุงตาข่าย ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

GOAL!! จากนั้นเพียง 2 นาที ทัพตราไก่ก็ได้ประตูแซงนำตามมาติดๆ จากจังหวะทำชิ่งเข้าเขตโทษ อองตวน กรีซมันน์ ฝากบอลกับ เอ็มบัปเป้ ก่อนตอกส้นไขว้หลังคืนให้ กรีซมันน์ หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้าย บอลแฉลบมือ ยานน์ ซอมเมอร์ ทำให้ลอยโด่งอยู่หน้าปากประตู แล้วเป็น คาริม เบนเซม่า ที่โหม่งแบบจ่อๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ฝรั่งเศส พลิกแซง 2-1

GOAL!! นาที 75 ฝรั่งเศสได้ประตูที่สาม ปอล ป็อกบา ได้โอกาสตั้งป้อมปั่นไซด์โป้งด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ บอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปตุงตาข่ายแบบสวยสดงดงาม ตราไก่ หนีไปเป็น 3-1

GOAL!! ทว่า สวิตเซอร์แลนด์ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มาได้ประตูตีตื้นในนาที 81 จากจังหวะที่ เควิน เอ็มบาบู ครอสบอลจากกราบขวาเข้าเขตโทษ แล้วเป็น แฮริส เซเฟโรวิช ที่พุ่งโขกเน้นๆ ส่งบอลพุ่งเข้าประตูไป สวิตเซอร์แลนด์ ไล่มาเป็น 2-3

NO GOAL!! นาที 85 สวิตเซอร์แลนด์เกือบได้ประตูตีเสมอ มาริโอ กาฟราโนวิช ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่เขายืนล้ำหน้าไปก่อน ทำให้ สวิตเซอร์แลนด์ พลาดได้ประตู

GOAL!! แต่แล้ว สวิตเซอร์แลนด์ก็สร้างเรื่องดราม่าขึ้นจนได้ เมื่อมายิงประตูตีเสมอได้สำเร็จในนาที 90 กรานิต ชาก้า แทงบอลให้ มาริโอ กาฟราโนวิช ล็อคหลบ เพรสเนล คิมเพมเบ้ แล้วสับไกตรงเส้นกรอบ 18 หลา บอลพุ่งเบียดเสาเข้าประตูไปแบบหมดจด ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 3-3

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 4 ฝรั่งเศสเกือบได้ประตูชัย คิงสลีย์ โกม็อง พักอก แล้ววอลเลย์ด้วยขวาในเขตโทษ แต่บอลพุ่งชนคานแล้วหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้หมดเวลา 90 นาที ทั้ง 2 ทีม กินกันไม่ลง เสมอกันที่ 3-3 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

นาที 93 สวิตเซอร์แลนด์ได้ลุ้น จากจังหวะเตะมุม อัดเมียร์ เมห์เมดี้ ได้ยิงตามน้ำ ทว่า อูโก้ ยอริส ยังรับไว้ได้

นาที 95 แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ จับบอลด้วยซ้าย แล้วดีดยิงด้วยขวา แต่ ยานน์ ซอมเมอร์ ปัดบอลออกไปได้แบบหวุดหวิด

ช่วงครึ่งหลังของการต่อเวลา นาที 109 คีลิยัน เอ็มบัปเป้ แปบอลจากหน้าเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาสองออกไป

นาที 110 ป็อกบา ไหลตามช่องให้ เอ็มบัปเป้ หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้าย ทว่าบอลก็ยังไม่ตรงกรอบ

ถัดมา นาที 119 เพรสเนล คิมเพมเบ้ หยอดบอลเข้าเขตโทษให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ขึ้นโขก แต่ ยานน์ ซอมเมอร์ ทว่าบอลได้ติดมือ

ทำให้จบ 120 นาที ยังไม่สามารถหาผู้ชนะได้ ต้องทำการดวลลูกโทษตัดสิน โดย สวิตเซอร์แลนด์ เป็นฝ่ายยิงก่อน

1. มาริโอ กาฟราโนวิช : เข้า

1. ปอล ป็อกบา : เข้า

2. ฟาเบียน แชร์ : เข้า

2. โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ : เข้า

3. มานูเอล อาคานจี : เข้า

3. มาร์คุส ตูราม : เข้า

4. รูเบน วาร์กัส : เข้า

4. เพรสเนล คิมเพมเบ้ : เข้า

5. อัดเมียร์ เมห์เมดี้ : เข้า

5. คีลิยัน เอ็มบัปเป้ : ไม่เข้า

ทำให้จบเกมการแข่งขัน เป็น ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่เอาชนะ ทีมชาติฝรั่งเศส ในการดวลจุดโทษ 5-4 หลังเสมอกันใน 120 นาที 3-3 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปพบกับ สเปน ได้สำเร็จ

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม

ฝรั่งเศส : อูโก้ ยอริส (GK), ราฟาเอล วาราน, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, เพรสเนล คิมเพมเบ้, แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์, ปอล ป็อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เอเดรียง ราบิโอต์, อองตวน กรีซมันน์, คาริม เบนเซม่า, คีลิยัน เอ็มบัปเป้

สวิตเซอร์แลนด์ : ยานน์ ซอมเมอร์ (GK), นิโก้ เอลเวดี้, มานูเอล อาคานจี, ริคาร์โด้ โรดริเกซ, ซิลวาน วิดเมอร์, เรโม ฟรอยเลอร์, กรานิต ชาก้า, สตีเว่น ซูเบอร์, เชอร์ดาน ชากิรี่, แฮริส เซเฟโรวิช, บรีล เอ็มโบโล่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ตารางบอลยูโร โปรแกรมแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 พร้อมช่องถ่ายทอดสด
• สรุปผลบอลยูโร 2020 รายชื่อคนยิง แมนออฟเดอะแมตช์ ทุกนัดตลอดทัวร์นาเมนต์
• ทุกคน-ทุกชาติ!! เช็ครายชื่อนักเตะ ครบทั้ง 24 ทีม ลุยศึกฟุตบอลยูโร 2020
• แข่งเมื่อไร ถ่ายช่องไหน มีทีมอะไรบ้าง! ทุกเรื่องต้องรู้กับ "ยูโร 2020" รอบสุดท้าย

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก