รีเซต
แมนยู VS ลิเวอร์พูล : พรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 (ลิ้งก์ดูบอลสด)

แมนยู VS ลิเวอร์พูล : พรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 (ลิ้งก์ดูบอลสด)

แมนยู VS ลิเวอร์พูล : พรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 (ลิ้งก์ดูบอลสด)
THEO
7 เมษายน 2567 ( 12:00 )
20.6K
8

ดูคลิปไฮไลท์ และ Full Match ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกทุกคู่ ที่นี่

วิเคราะห์บอล แดงเดือด : แมนยู VS ลิเวอร์พูล

 

สภาพความพร้อม แมนยูไนเต็ด

 

แมนยู เพิ่งบุกไปพ่าย เชลซี แบบดราม่าสุดๆ 3-4 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แถมเกมดังกล่าวต้องเสียผู้เล่นบาดเจ็บทั้ง คาเซมิโร่, จอนนี่ อีแวนส์ และราฟาแอล วาราน ซึ่งไม่รู้ว่าจะหายทันเกมนี้หรือไม่

ส่วนกลุ่มผู้เล่นที่เจ็บก่อนหน้านี้ก็ยังไม่พร้อมลงสนาม ไม่ว่าจะเป็น ลุค ชอว์, ไทเรลล์ มาลาเซีย, อองโตนี่ มาร์กซิยาล, ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ทำให้เกมนี้กุนซือเอริค เทน ฮาก อาจต้องใช้ดาวรุ่งอย่าง วิลลี่ คัมบวาลา ลงมายืนเซนเตอร์ร่วมกับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โดยมี ดิโอโก้ ดาโลต์ กับ อารอน วาน บิสซาก้า รับบทฟูลแบ็กสองข้าง

ขณะที่คู่มิดฟิลด์เป็น สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ประสานงานกับเจ้าหนู ค็อบบี้ ไมนู ส่วนแนวรุกประกอบด้วย บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ช่วยกันปั้นเกมหนุนกองหน้าตัวเป้า ราสมุส ฮอยลุนด์

สภาพความพร้อม ลิเวอร์พูล

 

ฟอร์มล่าสุด ลิเวอร์พูล ออกแรงเหนื่อยเล็กน้อยกว่าจะเอาชนะทีมบ๊วย เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-1 ครองจ่าฝูงต่อไป โดยมี 70 แต้มจาก 30 นัด แต่ก็จะพลาดทำแต้มหลุดมือไม่ได้เป็นอันขาด เพราะมี อาร์เซน่อล และ แมนซิตี้ จี้มาติดๆที่ 68 และ 67 แต้มตามลำดับ

ขณะที่ขุมกำลังทีมหงส์แดงยังมีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ ได้แก่  อลีสซง เบ็คเกอร์, โฌแอล มาติป, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, ติอาโก้ อัลคันตาร่า, เคอร์ติส โจนส์, สเตฟาน บายเซติช และ ดิโอโก้ โชต้า ส่วน วาตารุ เอ็นโด ต้องรอเช็กสภาพร่างกายอีกครั้ง

เกมนี้ คาดว่ากุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ จะปรับทัพบางตำแหน่งจากเกมชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด โดยแนวรับใช้ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, อิบราฮิมา โกนาเต้, คอเนอร์ แบรดลี่ย์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ส่วนแผงมิดฟิลด์ 3 คน คาดว่า วาตารุ เอ็นโด น่าจะฟิตกลับมาทัน และประสานงานกับ โดมินิค โซบอสซ์ไล, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ขณะที่ 3 แนวรุกเป็น ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนยู : อังเดร โอนาน่า (GK), ดิโอโก้ ดาโลต์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, วิลลี่ คัมบวาลา, อารอน วาน บิสซาก้า, สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์, ค็อบบี้ ไมนู, อเลฮานโดร การ์นาโช่, มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ราสมุส ฮอยลุนด์

ลิเวอร์พูล : ควีวิน เคลเลเฮอร์ (GK), เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, อิบราฮิมา โกนาเต้, คอเนอร์ แบรดลี่ย์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, วาตารุ เอ็นโด, โดมินิค โซบอสซ์ไล, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ดาร์วิน นูนเญซ, หลุยส์ ดิอาซ, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

ฟอร์มการเล่น 5 นัดหลังสุด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  • 04/04/24 แพ้ เชลซี 3-4 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
  • 30/03/24 เสมอ เบรนท์ฟอร์ด 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
  • 17/03/24 ชนะ ลิเวอร์พูล 4-3 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
  • 09/03/24 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
  • 03/03/24 แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

ลิเวอร์พูล

  • 04/04/24 ชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก 
  • 31/03/24 ชนะ ไบรท์ตัน 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก 
  • 17/03/24 แพ้ แมนยู 3-4 (เยือน) เอฟเอ คัพ
  • 14/03/24 ชนะ สปาร์ต้า ปราก 6-1 (เหย้า) ยูโรป้า ลีก
  • 10/03/24 เสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก 

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด

  • 17/03/23 แมนฯ ยูไนเต็ด 4-3 ลิเวอร์พูล (เอฟเอ คัพ)
  • 17/12/23 ลิเวอร์พูล 0-0 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
  • 05/03/23 ลิเวอร์พูล 7-0 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
  • 23/08/22 แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
  • 12/07/22 แมนฯ ยูไนเต็ด 4-0 ลิเวอร์พูล (กระชับมิตร)

บทวิเคราะห์

เกมนี้เป็น “แดงเดือด” นัดที่ 3 ของฤดูกาล ซึ่ง 2 นัดก่อนหน้านี้ แมนยู ไม่แพ้ ลิเวอร์พูล เลย โดยเกมแรก เสมอกัน 0-0 ที่แอนฟิลด์ ส่วนเกมต่อมา ทีมผีแดงเฉือนชนะสุดดราม่า 4-3 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี่เอง

นั่นแสดงให้เห็นว่า ฟอร์มการเล่นที่ผ่านมาอาจจะเอามาวัดอะไรได้ไม่มากนัก ถึงแม้ผลงานโดยรวมของจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล อาจจะเหนือกว่า แต่เมื่อลงสนามไปแล้ว แมนยู ก็พร้อมสู้ยิบตาด้วยศักดิ์ศรีของสโมสร ยิ่งเกมนี้ได้เล่นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด บอกเลยว่าเป็นงานหนักของแข้งหงส์แน่นอน 

อย่างไรก็ตาม หากไม่นับการออกไปเป็นทีมเยือน องค์ประกอบอื่นๆของลิเวอร์พูลเหนือกว่าเกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะเกมนี้ แมนยู มีปัญหาเซนเตอร์เจ็บระนาว และอาจต้องใช้งานดาวรุ่งอย่าง คัมบวาลา ลงสนาม ซึ่งไม่รู้ว่าจะทำได้ดีแค่ไหนเมื่อต้องรับมือกับทั้ง ซาลาห์, ดิอาซ และนูนเญซ สุดท้ายเชื่อว่า ลิเวอร์พูล ซึ่งสม่ำเสมอและมีทีเด็ดทีขาดมากกว่า น่าจะบุกมาเบียดคว้าชัยได้สำเร็จ

สกอร์ที่คาด

แมนยู 1-2 ลิเวอร์พูล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2023/24 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่!
เคล็ดลับการรับชมพรีเมียร์ลีกให้มันส์จุใจในทุกช่องทาง คลิกเลย!

 

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ