รีเซต
Sport Talk : เมื่อโลกลูกหนังไม่ต้องการ "ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก"

Sport Talk : เมื่อโลกลูกหนังไม่ต้องการ "ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก"

Sport Talk : เมื่อโลกลูกหนังไม่ต้องการ "ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก"
KiTTiSaK
20 เมษายน 2564 ( 15:40 )
465
1

เรียกว่าเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ เวิลด์ ของวงการฟุตบอลเลยก็ว่าได้ สำหรับโปรเจคต์ที่บรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่เตรียมแยกตัวกันออกมาก่อตั้ง “ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก” ทัวร์นาเมนต์ที่เต็มไปด้วยทีมลูกหนังระดับท็อปของยุโรปมาร่วมวงฟาดแข้งกัน 

จากเดิมที่มี “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก” เป็นสุดยอดสังเวียนแข้ง พวกเขาเตรียมที่จะโบกมือลาเวทียูซีแอล เพื่อไปลงหวดกันในทัวร์นาเมนต์ใหม่ที่พวกเขาช่วยกันก่อตั้งขึ้นมา โดยไม่ต้องง้อสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) อีกต่อไป


สำหรับสาเหตุหลักๆ ก็ไม่พ้นเรื่อง “เงิน” นั่นแหละครับ ซึ่งบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่มองว่าพวกเขาได้รับส่วนแบ่งน้อยเกินไปจากยูฟ่า เตะกันแทบตายแต่กลับได้ไม่คุ้มเหนื่อย เพราะต้องไปแบ่งเค้กให้กับเหล่าทีมเล็กทีมน้อยด้วย 

ฉะนั้น สู้ออกมาตั้งลีกกันเอง บริหารแบ่งรายได้กันเอง แถมตัวหารก็น้อยด้วย น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในมุมมองของพวกเขา

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ หรือรูปแบบต่างๆ เชื่อว่าหลายคนคงทราบจากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ไปแล้ว ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า มันจะมีความเป็นไปได้มากน้อยขนาดไหนที่สงครามแข้ง “ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก” จะอุบัติขึ้นมาจริงๆ

หากจะว่าไป จริงๆแล้ว ประเด็นการแยกตัวไปสร้างทัวร์นาเมนต์ใหม่ของบรรดาทีมดัง ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใดครับ เพราะมีการพูดถึงเรื่องนี้ออกมาเป็นระยะตลอดหลายปีที่ผ่านมา 

เพียงแต่ว่าครั้งนี้ดูจะมีความคืบหน้า และเป็นรูปธรรมมากที่สุด ถึงขนาดมีการแถลงออกมาอย่างเป็นทางการ แถมยังเปิดเผยรายชื่อสโมสรทั้ง 12 ทีมที่พร้อมร่วมก่อตั้งออกมาชัดเจน 

ถ้าภาษาบ้านๆ ก็เรียกได้ว่าถึงเวลา "ปลดแอก" พร้อมกับเปิดหน้างัดกับยูฟ่า ให้รู้ว่าไผเป็นไผ - Who is Who กันไปเลย!!

อย่างไรก็ตาม คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่ “ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก” จะถูกทำคลอดออกมา เพราะบรรดาองค์กรลูกหนัง ไม่ว่าจะเป็น ฟีฟ่า ยูฟ่า หรือพรีเมียร์ลีก ต่างออกมาผนึกกำลังคัดค้านแบบสุดลิ่มทิ่มประตูและหน้าต่าง ถึงขนาดขู่ฟอดๆ โดยพร้อมสั่งแบนสโมสรและนักฟุตบอลที่ไปเตะยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ห้ามมาลงเล่นในรายการที่พวกเขาควบคุมดูแล  

ถ้าอยากเล่นยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก พวกคุณก็ถูกห้ามลงเล่นฟุตบอลโลก ฟุตบอลยูโร หรือแม้กระทั่งบอลพรีเมียร์ลีก...เอามั้ยล่ะ คิดดีๆ

ไม่ใช่เพียงแค่องค์กรลูกหนังที่ค้านแบบหัวชนฝา แต่แทบทุกองคาพยพในวงการฟุตบอลต่างพร้อมใจกันออกมา “ยืนตรงข้าม” กับโปรเจคต์นี้ ไม่ว่าจะเป็น นักเตะ ผู้จัดการทีม หรือแฟนบอล ซึ่งหลายคนมองว่า ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก เปรียบเสมือนทัวร์นาเมนต์ “เห็นแก่ตัว” ของเหล่าทีมใหญ่ ที่มองถึงแต่ผลประโยชน์ตัวเอง โดยไม่ได้แยแสบรรดาสโมสรอื่นๆ หรือภาพรวมของวงการเลย

ขณะเดียวกัน มันยังเป็นการทำลายประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หรือชื่อเดิมคือ ยูโรเปี้ยน คัพ ที่มีมาต่อเนื่องยาวนานหลายทศวรรษ และจะกระทบต่อเนื่องไปถึงเกมลีกในประเทศด้วย เนื่องจากทีมใหญ่ๆ จะไม่มาแคร์ผลงานในลีกสักเท่าไร เพราะไม่ว่าจะจบท็อปโฟร์ ท็อปเท็น หรือแม้กระทั่งตกชั้น พวกเขาก็จะได้ไปโกยเงินในยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก อยู่แล้วในฐานะทีมที่ร่วมวงก่อตั้งขึ้นมา

ซึ่งเท่าที่ติดตามข่าวมาถึงตรงนี้ แทบจะไม่มีนักเตะคนไหนเลยครับที่ออกมาแสดงความ “ปลาบปลื้ม” กับโปรเจคต์ดังกล่าว แม้กระทั่ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพของแมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นหนึ่งในสโมสรที่พร้อมจะร่วมวงก่อตั้งยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ยังโพสต์ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ว่า “ความฝันไม่สามารถซื้อได้” 

นอกจากนี้ยังมีนักเตะดัง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่ทะยอยกันออกมาแสดงความเห็นคัดค้านกันให้พรึ่บโดยมิได้นัดหมาย ไม่ว่าจะเป็น ชูเอา คานเซโล่, ลูคัส โพดอลสกี้, หลุยส์ ฟิโก้, เจมี่ คาร์ราเกอร์, เดยัน ลอฟเรน, อันเดร์ เอร์เรร่า หรือ เมซุต โอซิล ที่ระบุว่า...

"เหล่าเด็กๆ เติบโตมาพร้อมกับความฝันที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก และแชมเปี้ยนส์ลีก ไม่ใช่ซูเปอร์ลีกอะไรนั่น ความสนุกของเกมใหญ่ๆก็คือการที่จะได้ลงเล่นเพียง 1 หรือ 2 ครั้งต่อปีเท่านั้น ไม่ใช่เล่นกันทุกสัปดาห์ มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจได้สำหรับแฟนบอล"

ส่วนปฏิกิริยาในส่วนของแฟนบอลไม่ต้องพูดถึง เพราะพวกเขาต่าง “รับไม่ได้” กับโปรเจคต์นี้ และเริ่มมีการออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านแล้ว โดยเฉพาะแฟนบอลของทีมที่จะเข้าร่วมยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ทั้งเด็กหงส์ เด็กผี เด็กปืน หรือเด็กไก่เดือยทอง ที่ออกมาประท้วงสโมสรของตัวเอง และน่าจะมีแฟนบอลของทีมอื่นๆ ตามออกมาแอคชั่นเช่นกันแน่นอน

แต่ถึงกระนั้นก็ดี ไม่มีใครการันตีได้ว่าบรรดาสโมสรต่างๆเหล่านี้ ซึ่งปัจจุบันหลายทีมถูกเทคโอเวอร์โดยกลุ่มทุนธุรกิจต่างชาติที่อาจมองเรื่อง “ผลประโยชน์” อยู่เหนือ “อุดมการณ์” ว่าจะรับฟังเสียงสะท้อนต่างๆที่ออกมาหรือไม่ ซึ่งทางออกคงต้องอยู่บนโต๊ะเจรจาระหว่าง ยูฟ่า กับกลุ่มสโมสรยักษ์ใหญ่ นั่นแหละ

ขณะเดียวกัน หากมองในอีกมุมหนึ่งก็พอที่จะเข้าใจได้กับแนวคิดของบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ที่ต้องการผลประโยชน์ที่สมน้ำสมเนื้อ เพราะสโมสรเหล่านี้ลงทุนมหาศาลในการสร้างทีม และสร้างความนิยมให้กับทัวร์นาเมนต์

ยิ่งเมื่อเจอวิกฤตโควิด-19 เข้าไป พวกเขาแทบกระอักเลือด หลายทีมเจอสถานะการเงินติดลบตัวแดงเถือก ขณะที่ ยูฟ่า ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าการมีสถานะเป็นเพียงฝ่ายจัดการแข่งขันและควบคุมดูแลเท่านั้น

และล่าสุด ยูฟ่า ได้ประกาศแล้วว่าเตรียมปรับรูปแบบและเพิ่มจำนวนทีมที่จะเข้าร่วมศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ให้มากขึ้นโดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป ซึงนั่นหมายถึงรายได้ที่จะถูกแบ่งให้สโมสรมากขึ้นไปด้วย ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า แนวทางนี้จะเป็นที่น่าพอใจของบรรดาพี่ๆทีมใหญ่เขาหรือไม่

ถ้ายังตกลงกันไม่ได้ ก็ต้องรอดูกันว่า แต่ละฝ่ายจะงัดไพ่ใบไหนออกมาสู้ชิงเหลี่ยมในเกมนี้ต่อไป

แต่ถ้าคุยกันรู้เรื่อง ทุกฝ่ายแฮปปี้ แบ่งเค้กลงตัว สงครามก็จบโดยไม่ต้องมานับศพทหาร 

เพราะอย่างที่บอกไปตั้งแต่ข้างต้นแล้วว่า นี่คือการเคลื่อนไหวต่อรองกันเพื่อเป้าหมายคือ “ผลประโยชน์” คำเดียวล้วนๆ

"111"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> สรุปทุกมิติ : เจาะลึก “ซูเปอร์ลีก” ลีกรวมยอดทีม ที่กลายเป็นมหาสงครามโลกลูกหนัง

>> ไม่เห็นด้วย! แฟนหงส์แดง ทำป้ายต้านทีมร่วมแข่ง 'ซูเปอร์ลีก'

-------------------------------------------------

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! bit.ly/2PsYXMG หรือ กด *301*32# โทรออก

 

ยอดนิยมในตอนนี้