สนามแข่ง Formula 1 มีกี่สนามอยู่ประเทศอะไร ระยะทางเท่าไหร่ มีโค้งกี่จุด

    ในการแข่งขัน Formula 1 ตลอดฤดูกาลในแต่ละปี จะมีการแข่งขันทั้งหมด 24 สนาม โดยเวียนไปตามประเทศต่างๆ ที่เป็นผู้จัดใน Grand Prix นั้นๆ ด้วยลักษณะของภูมิประเทศที่แตกต่าง ขนาดของพื้นที่จึงทำให้ในแต่ละสนามนั้นมีความแตกต่างกัน ทั้งระยะทางที่มีผลกับจำนวนรอบในการขับแข่งขัน จำนวนโค้งในแต่ละสนาม ระยะทางและจุดที่สามารถใช้ DRS ที่แตกต่างกันจึงทำให้เสน่ห์ความสนุกของ การแข่งขัน F1 นั้นจึงมีความนั้นต่างกันไป โดยทั้งหมด 24 สนามที่แข่งในฤดูกาล 2025 นั้นอยู่ประเทศอะไร ระยะทางเท่าไหร่ มีโค้งกี่จุด มาดูกัน

สนามแข่ง Formula 1 มีกี่สนามอยู่ประเทศอะไร ระยะทางเท่าไหร่ มีโค้งกี่จุด

1.Bahrain International Circuit

     สนามบาห์เรน อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ใช้ในการจัด  Bahrain Grand Prix สนามของบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ ตั้งอยู่ที่เมืองซากีร์ ประเทศบาห์เรน ก่อสร้างในปี 2002 ปีเดียวกับสนามแข่งยาสมาริน่าเซอร์กิตในอาบูดาบี

ลักษณะเด่นของ Bahrain International Circuit

     มีโค้งทั้งหมด 15 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 57 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 855 ครั้ง สนามแห่งนี้มีทั้งโค้งความเร็วสูง โค้งกลาง และโค้งช้า โค้งหลายแห่งในสนามแห่งนี้มีความท้าทายสูง เช่น โค้งที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นโค้งที่ต้องเบรกอย่างหนักและเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงทำให้เกิดแรง G ที่เปลี่ยนแปลงไป และส่งผลต่อการยึดเกาะของรถ พื้นผิวสนามแข่งมีการเปลี่ยนแปลงตลอดการแข่งขัน สภาพอากาศที่ร้อนทำให้นักแข่งและทีมต้องวางกลยุทธ์อย่างดีในการแข่งขัน

2.Jeddah Corniche Circuit

     สนามเจดดาห์ คอร์นิช เซอร์กิต ที่ใช้ในการจัด Saudi Arabian Grand Prix  สร้างขึ้นในเมืองท่าทะเลแดงของเมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย จุดเด่นของ Jeddah Corniche Circuit เป็นสนามแข่งรถฟอร์มูล่าวันสุดอลังการริมทะเลแดง เป็นสนามแข่งมีลักษณะเป็นเส้นทางริมทะเลที่คดเคี้ยวและมีความเร็วสูง มีโค้งที่หลากหลายทั้งโค้งช้าและโค้งเร็ว ทำให้เกิดความตื่นเต้นเร้าใจในการแข่งขัน นอกจากนี้ทิวทัศน์ของทะเลแดงที่สวยงามยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของสนามแห่งนี้ สนามแข่งแห่งนี้ถูกออกแบบมาให้มีความทันสมัยและใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อรองรับการแข่งขันระดับโลก

ลักษณะเด่นของ Jeddah Corniche Circuit

     มีโค้งทั้งหมด 27 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 50 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 1,350 ครั้ง โค้งหักศอกอันเป็นเอกลักษณ์ และโค้งทั้ง 27 โค้งนั้นมีความต่อเนื่องหลายโค้งต่อเนื่อง สิ่งนี้สร้างความท้าทายให้กับระบบเบรกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโค้ง 1 รวมถึงโค้งที่แคบและคดเคี้ยว สลับกับโค้งความเร็วสูง  ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแรง G และเพิ่มความท้าทายในการควบคุมรถ ทำให้เกิดความท้าทายในการเปลี่ยนทิศทางรถอย่างรวดเร็ว และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

3.Albert Park Grand Prix Circuit

     สนามแข่งรถอัลเบิร์ต พาร์ค กรังด์ปรีซ์ ที่ใช้ในการจัด Australian Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย โดยมีลักษณะเด่นคือการใช้ถนนสาธารณะเป็นส่วนหนึ่งของสนามแข่ง ทำให้มีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากสนามแข่งอื่นๆ

ลักษณะเด่นของ Albert Park Grand Prix Circuit

     มีโค้งทั้งหมด 14 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 58 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 812 ครั้ง สนาม Albert Park มีทั้งโค้งความเร็วสูง โค้งกลาง และโค้งช้า ทำให้นักแข่งต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การขับขี่อยู่ตลอดเวลา โค้ง 1 และ 2 เป็นโค้งที่ต้องเบรกอย่างหนักและเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง เป็นจุดที่มักเกิดการแซงของนักแข่งด้วยกัน โค้ง 11 และ 12 เป็นโค้ง S ที่ต้องใช้ความแม่นยำในการขับขี่ เนื่องจากเป็นสนามแข่งบนถนนสาธารณะ ทำให้พื้นผิวถนนอาจไม่เรียบเสมอกัน และอาจมีการเปลี่ยนแปลงสภาพของพื้นผิวตลอดการแข่งขัน  สภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น ฝนตก อาจส่งผลต่อการยึดเกาะของรถ และทำให้การแข่งขันมีความตื่นเต้นมากขึ้น

4.Suzuka Circuit

     สนามแข่งรถซูซูกิ เซอร์กิต ที่ใช้ในการจัด Japanese Grand Prix  เป็นหนึ่งในสนามแข่งรถที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่เมืองซูซูกะ จังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น โดย Soichiro Honda ผู้ก่อตั้ง บ. Honda ที่ต้องการมีสนามเพื่อทดสอบรถ ซูซูกะ เซอร์กิต เป็นหนึ่งในสนามแข่งรถที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในโลก ใช้แข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 1987 ตั้งอยู่ที่เมืองซูซูกะ จังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น สนามแห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือการออกแบบเส้นทางให้เป็นรูปเลข 8 ทำให้เกิดโค้งที่หลากหลายและท้าทายนักแข่งเป็นอย่างมาก

ลักษณะเด่นของ Suzuka Circuit

     มีโค้งทั้งหมด 18 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 53 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 954 ครั้ง ซูซูกะ เซอร์กิต มีทั้งโค้งความเร็วสูง โค้งกลาง และโค้งช้าที่สลับกันไปมา ทำให้นักแข่งต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การขับขี่อยู่ตลอดเวลา โค้งเอส และโค้งหักศอกของซูซูกะเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความยากและความท้าทาย นักแข่งต้องรักษาจังหวะและความเร็วให้คงที่เพื่อผ่านโค้งนี้ไปได้อย่างราบรื่น

5.Shanghai International Circuit

     สนามแข่งรถเซี่ยงไฮ้ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ใช้ในการจัด  Chinese Grand Prix ตั้งอยู่ที่เขตเจียติง เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อมองจากมุมสูงจะคล้ายกับอักษรจีนตัว "Shang" (上) ซึ่งมีความหมายว่า "ขึ้นไป" สะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานในการสร้างสนามแข่งระดับโลกแห่งนี้

ลักษณะเด่นของ Shanghai International Circuit

     มีโค้งทั้งหมด 16 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 56 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 896 ครั้ง มีการเริ่มต้นรอบที่ไม่เหมือนใครเมื่อเข้าสู่โค้งหมายเลข 1 และ 2 ที่ค่อยๆ แคบลง ก่อนที่จะพุ่งซ้ายผ่าน 3 และ 4 โค้งที่ 11 และ 12 จะเป็นโค้ง S ซ้ายที่มีแรงดึงต่ำและช้าซึ่งนำไปสู่โค้งขวาที่ยาวเป็นจุดที่ยากในการขับอย่างมาก ก่อนถึงโค้ง 14 เป็นโค้งที่แคบและต้องใช้ความแม่นยำในการขับขี่

6.Miami International Autodrome

     สนามแข่งรถไมอามี่ อินเตอร์เนชั่นแนล ออโตโดรม ที่ใช้ในการจัด Miami Grand Prix ตั้งอยู่ที่ชานเมืองไมอามีของ Miami Gardens รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เป็นสนามแข่งชั่วคราว แต่ได้รับการออกแบบให้มีบรรยากาศถาวร ตั้งอยู่ในคอมเพล็กซ์สนามฮาร์ดร็อคสเตเดียมในไมอามีการ์เดนส์ ซึ่งให้บรรยากาศของสนาม street circuit ไม่ต่างจากอัลเบิร์ตพาร์คของเมลเบิร์น

ลักษณะเด่นของ Miami International Autodrome

     มีโค้งทั้งหมด 19 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 57 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 1,083 ครั้ง เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งที่เปิดตัวไม่นานมานี้ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการผสมผสานโค้งที่หลากหลายและท้าทาย ทำให้เป็นสนามแข่งที่น่าสนใจสำหรับทั้งนักแข่งและผู้ชม โค้งที่ 14/15  เป็นโค้ง S แคบๆ จากซ้ายไปขวาเป็นโค้งที่มีความเสี่ยงมาก

7.Autodromo Internazionale Enzo e Dino Ferrari

     สนามแข่งรถอิโมลาเซอร์กิต มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ออโตโดรโม อินเตอร์นาซิโอนาเล เอนโซ เอ ไดโน เฟอร์รารี ที่ใช้ในการจัด Emilia-Romagna Grand Prix สนามแห่งนี้ตั้งชื่อตาม เอนโซ่ เฟอร์รารี ผู้ก่อตั้งบริษัทเฟอร์รารี่ และดิโน่ เฟอร์รารี บุตรชายของเขา ซึ่งเป็นการแสดงถึงความผูกพันอันยาวนานระหว่างสนามแข่งกับแบรนด์รถสปอร์ตชื่อดัง ตั้งอยู่ในเมือง Imola ในภูมิภาค Emilia-Romagna ของอิตาลี

ลักษณะเด่นของ Autodromo Internazionale Enzo e Dino Ferrari

     มีโค้งทั้งหมด 19 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 63 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 1,197 ครั้ง สนามแห่งนี้มีทั้งโค้งความเร็วสูง โค้งกลาง และโค้งช้าที่สลับกันไปมา ทำให้นักแข่งต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การขับขี่อยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องความท้าทายและความอันตรายของโค้ง โดยเฉพาะโค้ง 2/3/4 ที่เคยเป็นจุดเกิดเหตุที่ทำให้ Ayrton Senna เสียชีวิตในปี 1994  โค้งที่ท้าทายและน่ากลัวสำหรับนักแข่ง โค้ง 6 เป็นโค้งที่ตั้งชื่อตาม Gilles Villeneuve นักแข่งชาวแคนาดา โค้งนี้เป็นอีกหนึ่งโค้งที่ต้องใช้ความเร็วและความแม่นยำสูง โค้ง 11/12/13 เป็นชุดของโค้งที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งประกอบด้วยโค้งซ้ายและโค้งขวาที่ต่อเนื่องกัน ชุดโค้งนี้ต้องใช้ความแม่นยำในการเข้าโค้งสูง

8.Circuit de Monaco

     สนามแข่งรถ เซอร์กิต เดอ โมนาโก ที่ใช้ในการจัด Monaco Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งที่ตั้งอยู่บนถนนสาธารณะในเมืองมอนเตการ์โล ประเทศโมนาโก นับเป็น Street circuit เป็นสนามแข่งรถที่เล็กที่สุดแต่ท้าทายที่สุดในโลกสนามแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของความท้าทาย ความแคบ และความสวยงามของทัศนียภาพ 

ลักษณะเด่นของ Circuit de Monaco

     มีโค้งทั้งหมด 20 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 78 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 1,560 ครั้ง โค้งส่วนใหญ่ของสนามโมนาโกมีความแคบและซับซ้อน นักแข่งต้องใช้ความแม่นยำสูงในการควบคุมรถ และความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุได้ สนามโมนาโกมีกำแพงคอนกรีตอยู่รอบๆ ทำให้ไม่มีพื้นที่สำหรับการผิดพลาด นักแข่งต้องขับรถอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการชนกำแพง การแซงในสนามโมนาโกเป็นเรื่องยากมาก เนื่องจากพื้นที่ในการแซงมีจำกัด และความเร็วของรถจะลดลงอย่างมากเมื่อเข้าโค้ง โค้งที่มีความท้าทายอย่างยิ่งคือโค้งที่ 6 เป็นโค้งหักศอกที่แคบ 

9.Circuit Gilles-Villeneuve

     สนามแข่งรถ เซอร์กิต กิลส์-วิลล์เนิฟ ที่ใช้ในการจัด Canadian Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่ง ตั้งอยู่บนเกาะน็อตเทรอดาม ในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ความพิเศษของเกาะน็อตเทรอดาม เป็นเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้นมากลางแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์ สร้างขึ้นสำหรับงาน Expo 67 World's Fair ในปี 1967 จากนั้นต่อมาได้มีการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย และสร้างสนาม Circuit Gilles-Villeneuve ในปี 1978 ชื่อของสนามใช้ชื่อ Gilles Villeneuve นักแข่งรถชื่อดังชาวแคนาดา

ลักษณะเด่นของ Circuit Gilles-Villeneuve

     มีโค้งทั้งหมด 14 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 70 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 980 ครั้ง สนามจิลส์ วิลเนิฟ โค้งตัว S หลายจุดที่ต้องใช้ความแม่นยำในการขับขี่ และมีโค้งมีความหลากหลาย และเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นักแข่งต้องหาจุดเบรกที่เหมาะสมเพื่อเข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย สนามนี้มีจุดที่ท้าทายนักแข่งมากมายอย่างเช่น โค้ง 3/4 และ 6/7 โค้งตัว S ที่ต้องใช้ความชำนาญในการเข้าโค้งสูง และโค้งที่ 10 โค้งหักศอกก็นับเป็นโค้งที่ท้าทายนักแข่งเป็นอย่างมาก

10.Circuit de Barcelona-Catalunya

     สนามแข่งรถเซอร์กิต เดอ บาร์เซโลนา-กาตาลุนญ่า ที่ใช้ในการจัด Spanish Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่ง ตั้งอยู่ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน สนามแห่งนี้มีชื่อเสียงในฐานะสนามทดสอบรถแข่งที่สำคัญของทีมต่างๆ ทั่วโลก เนื่องจากมีเลย์เอาท์ที่หลากหลายและสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการทดสอบตลอดทั้งปี

ลักษณะเด่นของ Circuit de Barcelona-Catalunya

     มีโค้งทั้งหมด 14 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 66 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 924 ครั้ง สนามนี้มีทั้งโค้งความเร็วสูง โค้งกลาง และโค้งช้าที่สลับกันไปมา ทำให้นักแข่งต้องปรับเปลี่ยนสไตล์การขับขี่อยู่ตลอดเวลา โค้งหลายแห่งในสนามแห่งนี้มีความท้าทายสูง เช่น โค้งสุดท้ายที่ต้องใช้ความแม่นยำในการเข้าโค้ง

11.Red Bull Ring

     สนามแข่งรถเรดบลูริง ที่ใช้ในการจัด  Austrian Grand Prix  เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งตั้งอยู่ที่เมืองสปีลเบิร์ก ประเทศออสเตรีย เป็นสนามแข่งรถที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เป็นสนามแข่งที่นักแข่งและแฟนๆ ต่างหลงใหล

ลักษณะเด่นของ Red Bull Ring

     มีโค้งทั้งหมด 10 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 71 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 710 ครั้ง มีโค้งความเร็วสูงหลายโค้งที่ท้าทายความสามารถของนักแข่งในการควบคุมรถ โดยเฉพาะโค้งที่ 3 โค้งความเร็วสูงที่ค่อนข้างแคบต้องใช้ความแม่นยำในการเข้าโค้ง โค้งที่ 5 เป็นโค้งที่ค่อนข้างเร็วและมีแรงเหวี่ยงสูงในการเข้าโค้ง ต่อด้วยโค้งที่ 6 โค้งที่ค่อนข้างช้า และต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าโค้ง เนื่องจากเป็นโค้งที่ตามมาด้วยโค้งเร็ว โค้ง S ของสนามเรดบูลริงมีความท้าทายสูง นักแข่งต้องเปลี่ยนทิศทางรถอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

12.Silverstone Circuit

     สนามแข่งรถซิลเวอร์สโตนเซอร์กิต ที่ใช้ในการจัด  British Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่ง อยู่ในประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองซิลเวอร์สโตน ในเขตนอร์แธมป์ตันเชอร์ ประเทศอังกฤษ สนามแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน

ลักษณะเด่นของ Silverstone Circuit

     มีโค้งทั้งหมด 18 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 52 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 936 ครั้ง ซิลเวอร์สโตนมีทั้งโค้งความเร็วสูง โค้งกลาง และโค้งช้าที่สลับกันไปมา มีทั้งโค้งเร็ว โค้งช้า โค้งแบบเอส โค้งที่ท้าทายนักแข่งและมีความยาก ได้แก่ โค้ง 1 โค้งซ้ายที่ค่อนข้างช้าและต้องใช้ความระมัดระวังในการ โค้ง 6 โค้งขวาความเร็วสูงที่ต้องใช้แรงเหวี่ยงสูงในการเข้าโค้ง โค้ง 9 โค้งขวาที่ค่อนข้างเร็วและเป็นจุดที่มักเกิดอุบัติเหตุ

13.Hungaroring

     สนามแข่งรถฮังกาโรริง ที่ใช้ในการจัด Hungarian Grand Prix  เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งอยู่ในเมืองบุดาเปสต์ ประเทศฮังการี สนามแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของความท้าทายและความร้อนของอากาศ ทำให้นักแข่งต้องเผชิญกับสภาวะที่ยากลำบาก

ลักษณะเด่นของ Hungaroring

     มีโค้งทั้งหมด 16 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 70 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 1,120 ครั้ง สนาม Hungaroring มีโค้งต่อเนื่องกันหลายโค้ง ทำให้นักแข่งต้องรักษาความเร็วและจังหวะในการเข้าโค้งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถในการควบคุมรถเป็นอย่างดี อีกทั้งสนามมีขนาดค่อนข้างแคบ ทำให้การแซงค่อนข้างยาก โค้งที่ 4 เป็นโค้งที่ต้องใช้ความแม่นยำในการเข้าโค้งสูง โค้งที่ 10, 11, 12 และ 13 ถือเป็นโค้งที่สนุกที่สุดของสนาม Hungaroring ซึ่งเป็นโค้งความเร็วปานกลาง-สูงแบบซ้าย-ขวา-ซ้าย-ขวา ซึ่งมีโอกาสพลาดได้ง่าย

14.Circuit de Spa-Francorchamps

     สนามแข่งรถ เซอร์กิต เดอ สปา-ฟรองโกชองป์ ที่ใช้ในการจัด Belgian Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่ง ตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคอาร์เดนส์ของประเทศเบลเยียม เป็นหนึ่งในสนามแข่งรถที่เก่าแก่ที่สุดและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสนามที่ท้าทายที่สุดในโลก ทำให้สนามแห่งนี้เป็นสนามทดสอบที่แท้จริงสำหรับทั้งนักแข่งและรถแข่ง

ลักษณะเด่นของ Circuit de Spa-Francorchamps

     มีโค้งทั้งหมด 19 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 44 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 836 ครั้ง โค้ง 2-3-4 เป็นกลุ่มของโค้งและเนินที่ต้องใช้ความเร็ว และแม่นยำในการเข้าโค้ง ส่วนโค้ง 5-6-7 เป็นกลุ่มของโค้งที่ต่อเนื่องกันหลายโค้ง ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถในการควบคุมรถของนักแข่ง

15.Circuit Zandvoort

     สนามแข่งรถเซอร์กิต ซานด์โฟร์ท ที่ใช้ในการจัด Dutch Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองซานด์โฟร์ท ประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ใกล้ชายหาด ทำให้มีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์และสวยงาม ผู้ชมสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวทะเลและบรรยากาศการแข่งขันที่ตื่นเต้น

ลักษณะเด่นของ Circuit Zandvoort

     มีโค้งทั้งหมด 14 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 72 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 1,008 ครั้ง สนาม Zandvoort มีโค้งที่หลากหลาย ทั้งโค้งเร็ว โค้งช้า โค้งขึ้นเนิน โค้งลงเนิน ทำให้การแข่งขันมีความน่าสนใจและท้าทายมากขึ้น รวมถึงโค้งแคบ ในส่วนโค้ง 2 โค้งที่เป็นเอกลักษณ์ของสนาม Zandvoort เป็นโค้งขึ้นเนินที่ต้องการความเร็วสูงและความแม่นยำในการควบคุมรถโค้ง 11 และ โค้ง 12 เป็นโค้งสั้นที่ต่อเนื่องมีความท้าทายสูง

16.Autodromo Nazionale Monza

     สนามแข่งรถออโตโดรโม นาซิโอนาเล มอนซา ที่ใช้ในการจัด Italian Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งที่ตั้งอยู่เมืองมอนซา ประเทศอิตาลี รู้จักกันในนาม "วิหารแห่งความเร็ว" เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สนามแห่งนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยทางตรงยาวและโค้งความเร็วสูง ทำให้นักแข่งสามารถทำความเร็วได้สูงสุด

ลักษณะเด่นของ Autodromo Nazionale Monza

     มีโค้งทั้งหมด 11 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 53 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 583 ครั้ง โค้ง 4 เป็นโค้งที่ต้องการการเบรกอย่างหนักและการเข้าโค้งที่แม่นยำ เป็นโค้งที่สำคัญในการแซง โค้ง 6 โค้ง 7 เป็นชุดของโค้งที่ต่อเนื่องกันสองโค้ง ซึ่งต้องการความสมดุลระหว่างความเร็วและการยึดเกาะ โค้ง 10 เป็นชุดของโค้งที่ซับซ้อนและต้องการความแม่นยำในการเข้าโค้ง ประกอบด้วยโค้งความเร็วสูงและโค้งช้าสลับกันไป 

17.Baku City Circuit

     สนามแข่งรถ บากูซิตี้เซอร์กิต ที่ใช้ในการจัด  Azerbaijan Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งตั้งอยู่ที่ เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน สนามแห่งนี้มีความโดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างโค้งความเร็วสูง ทางตรงยาว และส่วนที่ค่อนข้างแคบ ทำให้เกิดการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นและไม่คาดเดาได้

ลักษณะเด่นของ Baku City Circuit

     มีโค้งทั้งหมด 20 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 51 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 1,020 ครั้ง ลักษณะสนามมีความ โค้งแคบและบีบ ทำให้นักแข่งต้องใช้ความแม่นยำในการควบคุมรถสูง และยังมีโค้งความเร็วสูงหลายโค้ง ซึ่งต้องใช้ความเร็วและความเสี่ยงในการเข้าโค้ง รวมถึงผนังคอนกรีตที่อยู่ใกล้กับเส้นทาง ทำให้นักแข่งต้องระมัดระวังในการขับขี่ กลุ่มโค้งหมายเลข 8-9-10-11-12 เป็นกลุ่มโค้งที่คดเคี้ยวต่อเนื่องสร้างความท้าทายให้กับนักแข่งอย่างมาก และโค้ง 8 นั้นยังแคบเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

18.Marina Bay Street Circuit

     สนามแข่งรถ สนามแข่งรถมารีน่า เบย์ สตรีท ที่ใช้ในการจัด Singapore Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นหนึ่งในสนามที่ท้าทายนักแข่งมากที่สุดทั้งความยากของเส้นทางขับและความท้าทายของสภาพอากาศที่มีความร้อนสูงส่งผลต่อสภาพร่างกายของนักแข่ง และมักเป็นสนามที่มีสัตว์ในเขตร้อนชื้นอย่างตังเงินตัวทอง หลุดเข้ามาในสนามบ้างในบางเวลา

ลักษณะเด่นของ Marina Bay Street Circuit

     มีโค้งทั้งหมด 19 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 62 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 1,178 ครั้ง โค้ง 7-8-9 เป็นโค้งหักทั้งซ้ายขวาอย่างต่อเนื่อง  นักแข่งจำเป็นต้องรักษาสมดุลระหว่างความเร็วกับความเสถียรเพื่อรักษาเวลารอบให้ดี อีกทั้งโค้งที่ 8-9-10 เป็นโค้งที่มีมุมแคบต้องใช้ความแม่นยำในการขับเป็นอย่างมาก อีกความท้าทายหนึ่งของ สนามมารีน่า เบย์ มีผนังคอนกรีตที่อยู่ใกล้กับเส้นทางเนื่องจากเป็น สตรีทเซอร์กิตทำให้นักแข่งต้องระมัดระวังในการขับขี่เป็นอย่างมาก

19.Circuit of The Americas

     สนามแข่งรถ สนามแข่งรถสตรีทเซอร์กิต ออฟ ดิ อเมริกา ที่ใช้ในการจัด United States Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งตั้งอยู่ที่ เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โอบล้อมทิวทัศน์ธรรมชาติ สนามแข่งรถล้อมรอบด้วยเนินเขาและป่าไม้ ทำให้เป็นฉากหลังที่งดงามสำหรับการแข่งขัน

ลักษณะเด่นของ Circuit of The Americas

      มีโค้งทั้งหมด 20 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 56 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 1,120 ครั้ง โค้งที่ 4-5-6-7-8-9 เป็นโค้งซ้ายขวาต่อเนื่องที่ต้องใช้ทักษะการเข้าโค้งสูง โค้งที่ 11 เป็นโค้งหักศอกที่เมื่อผ่านโค้งนี้แล้วนักขับสามารถทำความเร็วได้เพื่อแซงคู่แข่งได้ ก่อนที่จะถึงโค้ง 12-13-14-15-16 ที่เป็นโค้งต่อเนื่องอีกชุด โค้งที่ 17-18-19 เป็นโค้งที่ผสานทั้งมุมแคบและทางยาว

20.Autódromo Hermanos Rodríguez

     สนามแข่งรถ ออโตโดรโม แอร์มาโนส โรดริเกซ ที่ใช้ในการจัด Mexico City Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก เป็นสนามที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2 กิโลเมตรผลต่อกำลังของเครื่องยนต์และการยึดเกาะของยาง อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอยู่ตลอด

ลักษณะเด่นของ Autódromo Hermanos Rodríguez

     มีโค้งทั้งหมด 17 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 71  รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 1,207 ครั้ง โค้งที่ 2-3 เป็นโค้งต่อเนื่องระยะสั้นที่นักแข่งต้องประคองความเร็วรวมถึงรักษาระดับตำแหน่งของตัวเองให้ได้ โค้งที่ 4 เป็นโค้งไฮไลต์ที่มีความท้าทายการยึดเกาะของยางก่อนเข้าโค้งที่ 5 อย่างต่อเนื่องก่อนจะเจอโค้งหักในโค้งที่ 7 ชุดโค้ง 12-13-14-15-16-17 เป็นชุดโค้งที่ซับซ้อนต้องใช้ทักษะการขับขี่สูง  เน้นความเร็วและความแม่นยำในการรักษาจังหวะ  โค้งเชื่อมต่อกันแต่มีอัตราส่วนต่างกัน  ส่งผลต่อการยึดเกาะและแรงกดของรถ  

21.Autódromo José Carlos Pace

     สนามแข่งรถ ออโตโดโร โจเซ่ คาร์ลอส แพซ (อินเตอร์ลากอส) ที่ใช้ในการจัด Sao Paulo Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล เป็นสนามแข่ง F1 เก่าแก่และสำคัญ  มีความท้าทายสูงจากการผสมผสานโค้งต่างๆ และการเปลี่ยนระดับความสูง ความท้าทายของสนาม  และสภาพอากาศร้อนชื้นที่ส่งผลต่อการเสื่อมสภาพของยางรถแข่งจึงท้าทายทักษะของทีมแข่งขันเป็นอย่างยิ่ง

ลักษณะเด่นของ Autódromo Hermanos Rodríguez

    มีโค้งทั้งหมด 15 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 71  รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 1,065 ครั้ง โค้ง 4 เป็นโค้งที่มีความเอียงท้าทายการยึดเกาะของล้อสร้างความท้าทายให้กับนักแข่ง เป็นหนึ่งในเส้นโค้งที่โดดเด่นที่สุดในสนาม ชุดโค้ง 8-9-10 เป็นโค้งซ้ายขวาต่อเนื่องที่ต้องใช้ทักษะการควบคุมรถขั้นสูงเพื่อรักษาตำแหน่งของรถก่อนที่จะเข้าสู่โค้งที่ 13 ที่เป็นโค้งความเร็วสูงเพื่อที่จะเร่งความเร็ว

22.Las Vegas Strip Circuit

     สนามแข่งรถ ลาสเวกัสสตริปเซอร์กิต ที่ใช้ในการจัด Las Vegas Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งตั้งอยู่ที่รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสนามแข่ง F1 ในลาสเวกัส  มีทั้งโค้งความเร็วสูงและโค้งช้า  พร้อมทางตรงยาว ท่ามกลางบรรยากาศหรูหราของลาสเวกัส ความท้าทายอยู่ที่สภาพอากาศความร้อน  ผนังสนามที่อยู่ใกล้เส้นทาง สนามนี้ได้รับความนิยมเพราะความหรูหรา  ความทันสมัย  และความท้าทายตลอดเส้นทางการแข่ง

ลักษณะเด่นของ Las Vegas Strip Circuit

     มีโค้งทั้งหมด 17 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 50 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 850 ครั้ง Las Vegas Strip Circuit มีเส้นทางโค้งบางจุดที่แคบต้องใช้ความแม่นยำในการขับขี่และทักษะการหลบหลีกสูง โค้งที่ 3 นับเป็นจุดสำคัญที่จะเกิดการเร่งแซง ก่อนเข้าสู่ทางตรงที่ทำความเร็วได้ ชุดโค้ง 7-8-9 เป็นชุดโค้งซ้ายขวา เป็นอีกจุดที่จะใช้ทักษะการเข้าโค้งเพื่อแซงคู่แข่งก่อนที่จะเข้าโซนที่สามารถทำความเร็วได้ ก่อนที่จะเข้าโค้ง 12 ที่เป็นโค้งเฉือนตำแหน่งตำแหน่งความเร็วของนักแข่ง

23.Lusail International Circuit

     สนามแข่งรถลูเซล อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ที่ใช้ในการจัด Qatar Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งตั้งอยู่ที่เมืองหลวงโดฮา ประเทศกาตาร์ถูกสร้างขึ้นเพื่อการแข่งขัน MotoGP ปี 2004 เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของสนามแข่งขันกลางคืนที่สวยงาม และเป็นหนึ่งในสนามแข่งรถที่ทันสมัยที่สุดในโลก

ลักษณะเด่นของ Lusail International Circuit

     มีโค้งทั้งหมด 16 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 57 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 912 ครั้ง โค้งที่ 1-2-3 เป็นโค้งที่มีโอกาสการขับแซงสูงเพื่อเข้าสู่ทางตรงเพื่อเร่งความเร็ว ก่อนที่จะเจอโค้งต่อเนื่องที่ 4-5 ที่สามารถทำความเร็วได้ปานกลางก่อนที่จะเข้าสู่โค้งที่ 6 ที่เป็นโค้งหักศอก ต่อด้วยโค้ง 7-8-9-10-11-12 ที่มีทั้งโค้งความเร็วสูง และความเร็วปานกลางผสมกัน ก่อนเข้าสู่โค้ง 14-15-16 ที่มีทางยาวตรงสามารถเร่งทำความเร็วได้

24.Yas Marina Circuit

     สนามแข่งรถยาส มารีน่า เซอร์กิต ที่ใช้ในการจัด Abu Dhabi Grand Prix เป็นสนามแข่งรถสูตรหนึ่งตั้งอยู่ที่เกาะยาส ใกล้กับเมืองอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและสวยงาม รวมถึงการแข่งขันที่จัดขึ้นในช่วงกลางคืน ซึ่งสร้างบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์อีกทั้งยังตั้งอยู่ริมทะเล ทำให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงาม

ลักษณะเด่นของ Yas Marina Circuit

     มีโค้งทั้งหมด 16 โค้งทำให้ตลอดการแข่งขันทั้งหมด 57 รอบ นักแข่งต้องเข้าโค้งทั้งหมด 928 ครั้ง สนามยาส มารีน่า มีโค้งความเร็วสูงหลายโค้ง โดยเฉพาะโค้งตรงยาวที่อยู่ระหว่างโค้ง 7 และ 8 ซึ่งเป็นจุดที่นักแข่งมักจะแซงกัน นอกจากโค้งความเร็วสูงแล้ว ยังมีโค้งช้าที่ต้องการความแม่นยำในการควบคุมรถ โค้งที่ 5 เป็นโค้งที่สามารถใช้จุดแซงเพื่อต่อไปทางตรงเพื่อเร่งความเร็วก่อนที่จะเข้าสู่โค้งที่ 6-7 ที่เป็นโค้งระยะสั้น ก่อนที่จะเข้าสู่ทางยาว แล้วเข้าสู้โค้งที่ 9 ก่อนเข้าสู่โค้งต่อเนื่อง 10-11-12-13-14

บทความที่คุณอาจสนใจ

• รวมเรื่องน่ารู้ formula 1 รู้แล้วดูสนุก! กติกาและศัพท์การแข่งขัน formula 1
• แรง G คืออะไร ทำไมสำคัญกับการแข่ง F1 นักขับต้องฝึกฝนร่างกายอย่างไร
• โปรแกรมฟอร์มูล่าวัน 2024 ลิ้งก์ดูสด ตารางเอฟวัน 2024 ผลเอฟวัน F1