รีเซต
มองอย่างเจี๊ยบ 2022 : คุยกันหลังจบ 'เวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์' รายการส่งท้ายปี

มองอย่างเจี๊ยบ 2022 : คุยกันหลังจบ 'เวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์' รายการส่งท้ายปี

มองอย่างเจี๊ยบ 2022 : คุยกันหลังจบ 'เวิลด์ทัวร์ไฟนอลส์' รายการส่งท้ายปี
TNN ช่อง16
14 ธันวาคม 2565 ( 00:00 )
197

สวัสดีครับ! พบกันอีกครั้งในช่วงปลายปีกับ "มองอย่างเจี๊ยบ" คอลัมน์สำหรับคนรักแบดมินตัน ที่จะพาแฟนขนไก่ไปพูดคุยกับ "อ.เจี๊ยบ" ธนัช อัศวนภากาศ รองเลขาธิการสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ รวมทั้งเป็นผู้บรรยายกีฬาขนไก่จากทางทรูสปอร์ต โดยเราพบกันครั้งนี้เป็นฉบับที่ 23 จากการที่คุยกันล่าสุด เมื่อหลังจบศึกชิงแชมป์โลก 2022 ราวๆ เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา

ฉบับนี้ เราจะมาพูดถึงควันหลังจากศึก เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ รายการส่งท้ายปี 2022 ที่เพิ่งจบลงไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา อย่างยิ่งใหญ่ โดยรายการนี้มีหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจ ทั้งการที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันแบบเร่งด่วน จากการที่ประเทศจีนมีปัญหาไวรัสโควิด-19 ระบาดอีกหน รวมถึงผลงานนักกีฬาไทย และตำแหน่งแชมป์ ทั้ง 5 ประเภท ซึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจทั้งหมด เราจะไปอภิปรายพร้อมกับ อ.เจี๊ยบ กันเลยครับ

Q : สวัสดีครับ อ.เจี๊ยบ อันดับแรกคงต้องถามถึงที่มาที่ไปของการที่ไทยได้จัดแข่ง เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2022 มันมีกระบวนการอย่างไร ดำเนินการอย่างไร เล่าให้ฟังหน่อยครับ ?

อ.เจี๊ยบ : แรกเริ่มคือการแข่งขันรายการ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ จะจัดที่กวางโจว ซึ่งจะจัดแบบบับเบิ้ล นักกีฬาทุกคนทุกประเภท จะต้องเดินทางด้วยเครื่องบินลำเดียวกัน ไดเรคไฟลท์ เข้ากวางโจว  จึงจำเป็นที่จะต้องแวะที่ประเทศใดประเทศหนึ่ง เพื่อทำการตรวจหาเชื้อโควิด 2 ครั้ง ภายใน 48 ชม. BWF ได้ขอให้ประเทศไทย ช่วยดำเนินการ ให้ทุกคนมารวมตัวกันที่ประเทศไทย เพื่อตรวจหาเชื้อกันที่นี่ พร้อมทั้งจัดเตรียมที่พัก สนามฝึกซ้อม และตั๋วเครื่องบินไดเรคไฟลท์ จากกรุงเทพฯ ไปกวางโจว

จนกระทั่งมีการประชุมของ BWF ในช่วงต้นเดือน พ.ย. ปรากฏว่าสถานการณ์ที่จีนในช่วงเวลานั้น โควิดฯ กลับมาระบาด จนไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ แน่นอนที่สุด มีหลายประเทศที่เสนอตัวขอจัด รวมทั้งประเทศไทย คุณหญิงปัทมาเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในบอร์ดของ BWF มีการประสานต่อสายประชุมด่วน ทีมงานทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมาที่ประเทศไทย ให้รีบหาสถานที่ สรุปประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อนำเสนอ BWF ในการจัดการแข่งขันที่ประเทศไทย

ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน ก็มีการหาสถานที่กันหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น อิมแพ็ค อารีน่า, อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก, อาคารนิมิบุตร หรือแม้จะเป็นที่พัทยา ก่อนที่สุดท้ายแล้ว จะเป็นนิมิบุตร ที่เราใช้จัดการแข่งขัน เนื่องด้วยหลายๆ ที่ ติดการจัดกิจกรรมอื่นๆ ไปหมดแล้ว ตรงนี้ทางสมาคมฯ ก็ต้องขอบคุณอธิบดีกรมพลศึกษาด้วย เพราะแท้จริงแล้ว อาคารนิมิบุตร จะต้องจัดกิจกรรม ในช่วงประมาณวันที่ 9-10 ธ.ค. ในงานเฉลิมฉลองวันคล้ายวันสถาปนากรมพลศึกษา แต่ท่านก็อนุเคราะห์ให้เราใช้ และเลือกย้ายสถานที่ไปจัดที่โรงแรมอโนมาแทน

อีกทั้งทาง BWF ก็มั่นใจว่าไทยสามารถจัดการแข่งขันได้ จากผลงานที่เราเคยจัดการแข่งขัน 3 รายการติดต่อกันช่วงต้นปี 2021 ในรูปแบบของบับเบิล นี่คือที่มาของการทำให้เราได้จัดการแข่งขัน โดยมีการเลื่อนวันแข่งขันเร็วขึ้น 1 สัปดาห์ เป็น 7-11 ธ.ค. จากกำหนดการเดิม คือ 14-18 ธ.ค. แต่ช่วงเวลานั้น ไม่มีสถานที่ว่างจัดการแข่งขันจริงๆ ก็มีการประสาน พูดคุยกันตลอดเวลากับหลายฝ่าย จนลงตัวออกมาแบบนี้ครับ

Q : ฟีดแบคของฝ่ายจัดการแข่งขัน, นักกีฬาต่างชาติ รวมถึงกองเชียร์ไทยในการแข่งขันครั้งนี้ เป็นอย่างไรบ้างครับ ?

อ.เจี๊ยบ : ก็ต้องบอกว่า นักกีฬาทุกคนยินดีมากที่ไทยได้จัดการแข่งขัน เพราะนักกีฬาส่วนใหญ่ก็ชอบประเทศไทยกันอยู่แล้ว รวมทั้งเรื่องของการเลื่อนวันแข่งขัน จากกำหนดการเดิมเร็วขึ้นมา 1 สัปดาห์ กลายเป็นกระแสตอบรับที่ดีของพวกเขา เพราะทำให้เขามีเวลาพักผ่อนปลายปีมากขึ้น ก่อนที่จะเตรียมตัวกลับมาลงเล่นฤดูกาล 2023 ในช่วงต้นเดือน ม.ค. 66

นอกจากนี้เราสามารถจัดงานกาลาดินเนอร์ได้ด้วย ยิ่งทำให้เป็นโมเมนต์ที่ทุกคนมีความสุข ได้ผ่อนคลายก่อนแข่งขันวันแรก มันต่างจากรูปแบบบับเบิล ที่ทุกคนต้องอยู่แต่ในห้อง ไม่สามารถออกมาเดินเที่ยว หรือไปไหนมาไหนได้

และที่สำคัญมากอีกจุดหนึ่ง ก็คือ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ ครั้งนี้ ไม่ได้จัดมาในรูปแบบของสามรายการติดต่อกัน ทำให้เราจะเห็นได้ว่า นักกีฬามีความสด มีความพร้อมและความแข็งแรงกันมากๆ เพราะได้พักกันมาเต็มที่ หนึ่งเดือนเต็มๆ

ส่วนในมุมของแฟนกีฬาไทย ตั้งแต่มีประกาศออกมาว่าจะแข่งที่นี่ ตั๋วเข้าชมที่มีการเปิดจอง ตั๋วรอบรอง และรอบชิงในวันเสาร์ อาทิตย์ ก็ขายหมดตั้งแต่สองวันที่เปิดจอง โดยที่เรายังไม่ทราบกันเลยว่า จะมีนักกีฬาไทยเข้ามาถึงตรงนี้มั้ย

อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยการแข่งขันครั้งนี้ BWF เป็นฝ่ายที่ดูแลการจัดการแข่งขันทั้งหมด ทำให้ตั๋วต่างๆ ที่เราจะจัดสรรภายในประเทศ ทั้งแขก VIP, สโมสรสมาชิก หรือหน่วยงานต่างๆ ถูกลดไปกว่าครึ่ง ส่วนที่แฟนๆ เห็นมีที่นั่งในสนามบางจุดว่าง ในวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ตั๋วขายหมด ตรงนี้ผมก็ต้องเรียนว่า มันเป็นกฏระเบียบ เป็นสัญญาของการจัดการแข่งขัน ที่เป็นข้อบังคับของ BWF ในการจัดที่นั่งจุดที่ดีที่สุดให้กับทีมงานและแขกของทาง BWF สปอนเซอร์การจัดการแข่งขัน รวมทั้งเป็นที่นั่งของนักกีฬา และทีมงานของพวกเขาด้วยครับ ตรงนี้ผมในฐานะตัวแทนของสมาคมฯ ก็คงต้องกราบขอโทษแฟนๆ บางส่วนด้วยนะครับ ที่ไม่สามารถเข้ามาชมเกมได้

Q : หลายคนสงสัยว่า ทำไม "กุลวุฒิ วิทิตศานต์" ไม่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขัน ทั้งที่เป็นรองแชมป์โลก และผลงานในปีนี้ถือว่าดีมาก ?

อ.เจี๊ยบ : จริงๆ แล้ว กฏกติกาการแข่งขันรายการนี้ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนกฏในปีหน้าเนี่ย ก็คือจะมีการนำนักกีฬาที่มีการเก็บคะแนนสะสมรายการ เวิลด์ ทัวร์ ตลอดทั้งปีที่ดีที่สุด 8 คน หรือ 8 คู่แรกของโลก โดยที่จะมีสิทธิ์พิเศษให้แชมป์โลกหนึ่งคน ในกรณีที่แชมป์โลกไม่ติด ซึ่งตรงนี้ น่าเสียดายที่ กุลวุฒิ ไม่ได้ไปแข่งสองรายการสุดท้ายที่ เยอรมนี กับ ออสเตรเลีย ทำให้คะแนนไม่ถึง โดยไม่มีการนำคะแนนจากศึกชิงแชมป์โลก, ชิงแชมป์เอเชีย หรือชิงแชมป์ยุโรป มาคิดแต่อย่างใด รวมถึงอันดับโลกอีกด้วยครับ แต่ถ้าวันนั้น วิว ได้แชมป์โลกจะได้โควต้าพิเศษเข้ามาแข่งทันทีครับ

Q : อยากให้ อ.เจี๊ยบ พูดถึงภาพรวมผลงานนักกีฬาไทย แบบรายคน ที่ไม่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศครับ

บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์

ในรายการนี้ จะเห็นได้ว่าการเล่นแต่ละแมตช์ น้องครีม มีความคล่องตัวมากขึ้น เล่นลูกหน้าเน็ตดีขึ้น แต่สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ เล่นเกมบุกน้อยไปนิดนึง แต่อีกจุดก็ต้องยอมรับว่า ในกลุ่มของน้องครีมก็หนักมากด้วย เพราะอยู่กับอดีตมือหนึ่งของโลกถึงสองคน (รัชนก อินทนนท์ และ ไต้ จื่ออิง) รวมทั้ง เหอ ปิงเจียว ที่นาทีนี้ฟอร์มการเล่นก็กำลังขึ้นสุดมากๆ ด้วยเทคนิคฝีมือ น้องครีมยังเป็นรองสามคนนี้ครับ

รัชนก อินทนนท์

ก็ต้องบอกว่าน่าเสียดายในวันที่สองที่พลาดแพ้ เหอ ปิงเจียว เพราะตลอดการเล่น เมย์ นำตลอด แต่มาโดนปาดหน้าแซงเข้าวิน ในช่วงท้ายเกมทั้งสองเกม ทำให้การเล่นในวันสุดท้ายกับ ไต้ จื่ออิง เป็นอะไรที่กดดันมาก ซึ่งการเล่นในวันนั้นก็ถือว่าสูสี ได้กันไปคนละเกม แต่เกมสามต้องยอมรับว่า สภาพความแข็งแรงของ ไต้ จื่ออิง ยังทำได้เยี่ยมกว่า ทิ้งคะแนนไปไกล ทำให้น้องเมย์ ไม่สามารถกลับเข้าสู่เกมได้

จงกลพรรณ กิติธรากุล & รวินดา ประจงใจ

อันที่จริงผมเชื่อว่าแฟนแบดมินตันหลายคน ก็คงพอจะทราบและเป็นห่วง น้องกิ๊ฟ กับปัญหาอาการบาดเจ็บหลังจากรายการที่เยอรมนี ร่างกายไม่ได้พร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้เล่นได้ไม่เต็มที่ พอลงสนามติดๆ กันแล้ว ก็เริ่มออกอาการ ซึ่งต้องบอกว่าน่าเสียดายมากสำหรับ กิ๊ฟ & วิว เพราะเราชนะสองครั้งในรอบแบ่งกลุ่ม แต่มีสถิติเกมได้เกมเสีย เป็นรองเกาหลีใต้ ทำให้เราตกรอบไปครับ จากการนับเกมได้เกมเสีย

สุภัค จอมเกาะ & ศุภิสรา เพียวสามพราน

ถือว่าเป็นความโชคดีที่เราได้ตั๋วใบสุดท้ายจากการที่ ยูตะ วาตะนาเบะ & อาริสะ ฮิกาชิโนะ ของญี่ปุ่น มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ถอนตัวไป โดยรวมต้องยอมรับว่า ยังเป็นรอง บาส & ปอป้อ รวมทั้งจีนและมาเลเซีย ที่อยู่กลุ่มเดียวกัน แม้น้องสองคนจะเล่นดีมากตลอดสามวันก็ตาม อาจต้องมีการปรับปรุงจุดเล็กๆ น้อย และรายละเอียดของเกม เชื่อมั่นได้เลยว่าจะเป็นอีกคู่ผสมความหวังในอนาคตของเราครับ

Q : รีวิวรอบชิงชนะเลิศทั้ง 5 ประเภท ?

หญิงเดี่ยว : อากาเนะ ยามากูชิ พบ ไต้ จื่ออิง

ก็ต้องบอกว่าเป็นสองนักแบดมินตันหญิงเดี่ยว ที่แฟนขนไก่ไทยรักและชอบกันมาก ไม่ว่าใครจะชนะแฟนชาวไทยก็คงจะยินดีทั้งคู่ ซึ่งตลอดการเล่นทั้งสองคนเล่นกันได้ดีและสนุกมากๆ ตลอดการเล่นมีเสียงเชียร์ตลอดเวลาจากแฟนๆ กับหลายๆ ช็อตการเล่นระดับเทพ

แต่สุดท้ายแล้วเกมบุกของ ไต้ จื่ออิง บุก อากาเนะ ไม่อยู่ และกลายเป็นตีเสียเองเยอะ พอจะปรับมาเล่นเกมรับ แม้จะทำได้ดี แต่ท้ายที่สุดก็ยังพลาด เพราะ อากาเนะ เร็วและหลากหลายมากกว่า แม้ว่า ไต้ จื่ออิง พยายามจะเล่นเน้นเกมรับมากขึ้น เหมือนในวันที่เล่นเกมรับใส่ เหอ ปิงเจียว ที่ตามหลัง 5-11 แล้วรันแต้มติดต่อกันยาว 13-1 ก่อนจะเอาชนะไป แต่ก็ยังไม่สามารถต้านเกมบุก อากาเนะ ได้ ก่อนจะแพ้ไป 0-2 เกม แต่แต้มถือว่าไม่ขาดนะครับ และเป็นแมตช์ที่สนุกมากๆ เป็นที่ชื่นชอบของแฟนแบดมินตัน เรียกได้ว่า ดูคู่นี้คู่เดียวก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว

ชายคู่ : โมฮาหมัด อาซาน & เฮนดร้า เซเทียวาน พบ หลิว ยู่เฉิน & อู ซวนยี่

เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมาก สำหรับนักแบดมินตัน วัย 38 (เซเทียวาน) กับ 35 (อาซาน) ยังเล่นได้อย่างสุดยอดตลอดการแข่งขัน และพาตัวเองเข้ามาในรอบชิงชนะเลิศ เวิลด์ ทัวร์ ไฟนอลส์ 2022 ได้ รวมทั้งเคยเป็นแชมป์เก่ามาถึงสามสมัย

การเจอกับ คู่ใหม่มาแรงของจีนในครั้งนี้ พวกเขาก็ยังคงความยอดเยี่ยม อาศัยจังหวะการเล่นหน้าเน็ตเล่นงานจีน แต่ด้วยวันนี้จีนก็มาดี ไม่ได้เน้นตบตลอด หาจังหวะเผาแรงอินโดฯไปเรื่อย หลอกตัดบ้าง เซฟกระชากบ้าง หาจังหวะเล่นเกมยาว รวมทั้งเกมหน้าเน็ตก็สู้ได้ดี

ซึ่งพอมาถึงเกมสามก็จะเห็นได้เลยว่า อาซาน & เซเทียวาน หมดถังสนิท นี่เป็นภาพที่เราเห็นกันบ่อยในหลายปีหลัง หากมีการดึงไปถึงเกมสาม คู่อินโดฯคู่นี้ จะยากในการต่อกรกับคู่ต่อสู้ ด้วยวัย ด้วยสภาพร่างกายครับ หลังเกมการแข่งขัน เราจะเห็น หลิว ยู่เฉิน ซึ่งนับถือและให้ความเคารพ เซนเทียวาน เสมือนหนึ่งเป็นพี่ชาย ก็ได้เข้ามากอด และยังไปร่วมทานอาหารกันต่อด้วย แทบจะเรียกชื่อเล่นๆ ได้ หลิว เซนเทียวาน (แทนที่ หลิว ยู่เฉิน) 

หญิงคู่ : นันทน์กาญจน์ เอี่ยมสอาด & เบญญาภา เอี่ยมสอาด พบ เฉิน ชิงเฉิน & เจี่ย ยี่ฟาน

ก่อนอื่นขอย้อนผลงานในรอบรองชนะเลิศของ อันนา & มูนา ครับ นี่แหละคือที่มาของคำพังเพย ที่ว่า "งูเหลือมกับเชือกกล้วย" มันมีอยู่จริง เราสามารถเอาชนะ จอง นาอึน & คิม แฮจอง ของเกาหลีใต้ ที่เป็นถึงมือ 5 ของโลก และเคยได้แชมป์ เวิลด์ ทัวร์ 750 ที่ญี่ปุ่นมาแล้ว แต่เหมือนแพ้ทาง อันนา & มูนา เพราะเราชนะเขามาแล้ว 4 ครั้งติดต่อกัน รายการนี้พี่น้องดาวรุ่งของเราเล่นได้ดีมาก สร้างความสุขให้แฟนๆขนไก่ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมบุก ที่น้องทั้งสองคนมีลูกตบที่หนักทั้งคู่ ยิ่งหน้าเน็ต มูนา ก็มีเซนส์ในการดักได้ยอดเยี่ยมมากๆ อาจจะมีข้อที่ต้องปรับปรุงบ้าง คือเกมรับที่ยังไม่นิ่งเท่าไหร่หนัก และการผิดพลาดเองถ้ามีการแรลลี่ยาว

ส่วนในรอบชิงชนะเลิศ น้องทั้งสองคนทำได้ดี เพียงแต่ว่าการมาเจอกับ เฉิน ชิงเฉิน & เจี่ย ยี่ฟาน นาทีนี้เป็นอะไรที่ยากมาก อดีตแชมป์โลก 3 สมัย แข็งแกร่งมากๆ แม้เราจะพยายามบุกอย่างหนัก แต่พวกเขาต้านเราอยู่ กลับกันเวลาจีนบุก เราต้านได้ไม่นาน อีกทั้งเกมหน้าเน็ต เฉิน ชิงเฉิน พรีเมียมมาก เพราะเคยเป็นอดีตคู่ผสมมือหนึ่งโลก ทำให้ข่มใส่ มูนา ที่ปกติหน้าเน็ตวางลูกฉลาด แต่เมื่อเป็นฝ่ายช้ากว่าจีน  ก็เลยเสร็จไป แม้จะแพ้ แต่ก็ได้รับเสียงเชียร์จากแฟนๆ เต็มสนาม และจะเป็นคู่ความหวังใหม่ของไทยแน่นอนครับ

ชายเดี่ยว : วิคเตอร์ อเซลเซ่น พบ แอนโทนี่ กินติ้ง

ทุกคนมองว่ารอบชิงชนะเลิศ น่าจะมีโอกาสพลิกล็อกได้ เนื่องด้วยรอบรองชนะเลิศ โคได นาราโอกะ ได้แสดงวิธีการเล่นที่บ่งบอกถึงการมีโอกาสชนะ วิคเตอร์ ให้เห็นแล้ว ด้วยเกมที่อาศัยความไว เอาลูกลงเร็ว โยกซ้ายขวาตลอดเวลา น่าเสียดายที่วันนั้น วิคเตอร์ กลับตัวได้ทัน ทำให้เอาตัวรอดมาได้

พอมาถึงรอบชิงชนะเลิศ แอนโทนี่ กินติ้ง ซึ่งมีสไตล์การตีที่คล้ายกับ นาราโอกะ แต่ไวกว่า เกมบุกหนักกว่า และมีประสบการณ์มากกว่า น่าจะต่อสู้ได้สนุก แต่พอมาลงสนามจริงๆ วิคเตอร์ ก็ทำการบ้านมาเช่นกัน เพราะรู้ว่า กินติ้ง ต้องเล่นแบบเดียวกับ นาราโอกะ แน่ วิคเตอร์ จึงเน้นเกมเข้าหน้าเน็ตเร็วบีบเข้าใส่ กินติ้ง ทำให้ กินติ้งต้องยก ขึ้นลูกให้ วิคเตอร์ บุกตบ และต้านเกมบุกไม่อยู่ ต้องยอมรับว่านาทีนี้ วิคเตอร์ อเซลเซ่น สมบูรณ์แบบ และยากที่จะโค่นลงได้มากๆ หากไม่มีอาการบาดเจ็บ ก็น่าจะอยู่ในจุดแบบนี้ไปอีกยาวนานแน่นอน

คู่ผสม : เดชาพล พัววรานุเคราะห์ & ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย พบ เจิ้ง ซีเว่ย & หวง ย่าเฉียง

เป็นคู่ที่แฟนๆ แบดมินตันเฝ้ารอคอยในศึกแห่งศักดิ์ศรี ของอดีตแชมป์โลก และ อดีตมือ 1 โลก โคจรมาพบกันในรอบชิง ซึ่ง บาส & ปอป้อ ก็เล่นได้ดีมากๆ ในรายการนี้ ท็อปฟอร์มมาก รวมทั้งเกมในวันชิงชนะเลิศ ก็ออกสตาร์ทได้ดีกว่าคู่ เจิ้ง & หวง มีการประกบหน้าเน็ตสู้กับ หวง ย่าเฉียง ได้ยอดเยี่ยม ความหนักและเร็วของ บาส ก็ไม่ได้เป็นรอง เจิ้ง ซีเว่ย

แต่จุดเปลี่ยนเกมแรก คือเรานำ 19-17 แล้วไปโดนเค้าปาด ทำให้โมเมนตัมเสียไปพอสมควร แม้เราจะสามารถกลับมาในเกมสองได้ แต่เกมที่สามในขณะที่เกมกำลังสูสี มาจนถึงกลางเกม เรามีอาการอ่อนแรงลง จากการต้านเกมบุกจีนมาต่อเนื่อง โดนฉีกในช่วงกลางเกมแล้วไล่ไม่ทัน

ส่วนภาพรวมของ บาส & ปอป้อ ก็ทำได้ดีในรายการนี้ รอบแบ่งกลุ่มชนะสบาย ตัวบาสเอง ในรายการนี้แสดงให้เห็นถึงความเร็ว ที่เหนือกว่าผู้ชายคนอื่นๆ ในคู่ผสม เปรียบดังซูเปอร์คาร์เลย ชั่วโมงนี้ตบหนักมากด้วย ตัวปอป้อเอง ก็ประกบหน้าเน็ตดี แม้จะไม่ใช่จุดเด่นก็ตาม แต่จุดเด่นของปอป้อ คือมีความเหนียวแน่นในการเล่นเกมรับ ป้องกันลูกตบของ เจิ้ง ซีเว่ย ได้สบายๆ เป็นอีกคู่ที่ทำให้แฟนๆ ชื่นใจว่า เราอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้งครับในช่วงครึ่งปีหลัง

Q : ภาพรวมของแชมป์ 5 ประภทเป็นอย่างไรบ้างครับ ?

อ.เจี๊ยบ : ภาพรวมของแชมป์ทั้ง 5 ประเภทในรายการนี้ ถือว่านักกีฬาแต่ละคน แต่ละคู่ที่ครองแชมป์ในวันนี้ เป็นนักกีฬาที่คว้ารางวัลยอดเยี่ยมประจำปี ที่เล่นได้สมศักดิ์ศรีจริงๆ ชายเดี่ยว ก็เป็น วิคเตอร์ อเซลเซ่น, หญิงเดี่ยว ก็เป็น อากาเนะ ยามากูชิ และคู่ผสม ก็เป็น เจิ้ง ซีเว่ย & หวง ย่าเฉียง ยิ่ง เจิ้ง & หวง สุดยอดมากๆ ลงเล่น 13 รายการ คว้าแชมป์ 11 รายการ ตกรอบรองฯ 2 รายการ คว้าแชมป์ติดกัน 7 รายการ สุดยอดมากจริงๆครับ

Q : ตลอดการบรรยายทั้ง 5 วัน มีแมตช์ไหนที่สนุกครบรส และประทับใจที่สุดบ้าง ?

อ.เจี๊ยบ : เอาจริงๆ แล้ว ทุกเกมสนุกจริงๆ ในรายการนี้ อย่างแมตช์ชิงหญิงเดี่ยว แม้จะ 2-0 แต่ก็สนุกมากๆ แต่ถ้าขอเลือกแมตช์ที่สนุกตื่นเต้นจริงๆ ขอเลือกแมตช์ที่นักกีฬาไทยลงเล่น

แมตช์แรก ก็เป็นนัดชิงคู่ผสม ที่สองเกมแรก บาส & ปอป้อ สู้กับ เจิ้ง & หวง ได้สนุกมากๆ ดวลกับคู่ที่มาจากนอกโลกได้ขนาดนั้น เป็นเกมที่มีครบรส ทั้งความหนัก ความเหนียว และเทคนิคต่างๆ

ส่วนอีกนัด ก็ขอเป็นรอบรองฯหญิงคู่ นัดที่ อันนา & มูนา ที่สามารถเอาชนะคู่ จอง นาอึน & คิม แฮจอง ได้อีกครั้ง แม้สาวเกาหลีจะพยายามปรับเกมมาสู้ จากการแพ้เราในรอบแรก ด้วยการเน้นเกมบุกและแจกลูกออกด้านหลัง แต่น้องทั้งสองคนก็มีสมาธิ ปรับเกมมาสู้ได้ดีมากเช่นกัน เปลี่ยนรับเป็นรุก และเอาชนะไปได้ ผมขอเลือกสองแมตช์นี้ครับ

Q : อยากให้ผู้ถึงกลุ่มผู้เล่นที่ผลงานน่าผิดหวัง และผู้เล่นนอกสายตาที่ทำผลงานยอดยี่ยมในรายการนี้ครับ ?

กลุ่มผู้เล่นน่าผิดหวัง

- หวัง ยี่ลู่ คู่ผสมของจีน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก แสดงให้เห็นว่า สภาพความแข็งแกร่งยังไม่ดี จากปัญหาอาการบาดเจ็บที่ติดตัวมา แพ้ บาส & ปอป้อ รวมถึงคู่ ตัน เคียงเม้ง & ไล่ เป่ยจิง ที่ไม่เคยแพ้มาก่อน ตกรอบแรกไปด้วย

- โจว เทียนเฉิน ก็เป็นอีกคนที่น่าผิดหวัง ความรวดเร็ว ความแข็งแรง ความหนักก็ลดลงไปจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งผลการแบ่งสายก็ถือว่าหนัก ในการอยู่กับ โจนาธาน คริสตี้, แอนโทนี่ กินติ้ง และ โลห์ เคียน ยิว ซึ่งทุกคนมีฝีเท้าที่รวดเร็วทั้งหมด โจว เทียนเฉิน ไม่สามารถเร่งก็อกสองก็อกสามได้เลยในการแข่งขันรายการนี้

- ทอม กีเคล & เดลแฟ็ง เดอลูว์ เป็นคู่ผสมของฝรั่งเศส ที่น่าจับตามอง พัฒนาขึ้นมายอดเยี่ยมมาก ตั้งแต่กลางปีมา แต่พอรายการนี้ ทั้งสองคนกลับฟอร์มตก ความเร็วหาย เกมบุกฝืด ทำอะไรคู่ต่อสู้ไม่ได้เลย 

- วิเวียน ฮู & ลิม เซียวซิน ด้วยการที่ไปถล่มเล่นมาหลายรายการ อัดมาเยอะมาก จนทำให้มีคะแนนมาเล่นในรอบไฟนอลส์ได้ พอมารายการนี้ ต้องยอมรับว่า เทคนิค และฝีมือ ตลอดจนมาตรฐานก็เป็นรองอีก 7 คู่ที่เหลือด้วย ไม่สามารถต่อกรกับใครได้เลย แพ้ขาดลอยทั้งสามนัดในรอบแบ่งกลุ่ม

ผู้เล่นนอกสายตาผลงานเยี่ยม

- เกรกลอเลีย มาริสก้า ทุนจุง เป็นนักแบดมวยแทนที่เข้ามาจากการถอนตัวของ พีวี สินธุ ซึ่งในรายการนี้ ทุนจุง เล่นเยี่ยมมาก เอาชนะ เฉิน ยู่เฟย ได้เกมจาก อากาเนะ ยามากูชิ และ อัน เซยอง ได้ แม้จะไม่ได้ผ่านรอบแรก แต่ได้รับคำชมเยอะมาก โดยเฉพาะหัวใจนักสู้ ที่ร่างกายไม่ไหว แต่ใจยังสู้ เชื่อได้เลยว่าปีหน้าน่าจะเป็นปีที่ดีของเธอ

- โคได นาราโอกะ แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม สมกับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำปี เล่นดีมาก ปราบทั้ง พรานนอย ทั้ง หลู กวาง ซู รวมทั้งในรอบรองฯ ที่เกือบปราบ วิคเตอร์ อเซลเซ่น ได้ด้วย นิดเดียวจริงๆ อีกทั้งยังเป็นการที่คนไทยส่งใจเชียร์เขา มากกว่า วิคเตอร์ ในวันนั้นอีกด้วย

Q : สุดท้ายอยากให้เป็นตัวแทนสมาคมแบดมินตัน กล่าวขอบคุณแฟนๆ แบดมินตันชาวไทย หลังปิดฤดูกาล 2022 รวมถึงการตอบรับในรายการนี้ และขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ?

อ.เจี๊ยบ : ก็อย่างที่ผมบอกไปนะครับ ขอบคุณแฟนๆ ที่ตอบรับการจัดการแข่งขันในครั้งนี้ดีมากๆ จริงๆ จนเราปลื้มใจกันมากที่จบลงไปอย่างยิ่งใหญ่ กราบขอโทษแฟนบางส่วนที่เข้าชมไม่ได้ และอยากให้สนับสนุนนักกีฬาไทยกันต่อไปนะครับ ไม่เฉพาะแบดมินตัน ทุกคนเต็มที่ และมุ่งมั่นในการสร้างชื่อเสียงให้แฟนๆ ได้ภาคภูมิใจครับ

และนี่ก็คือ มองอย่างเจี๊ยบ ฉบับนี้ ถือเป็นการรีวิวศึกใหญ่ที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพ แม้เราจะไม่มีแชมป์ แต่ถือว่าน้องๆ ทำได้ดีมากแล้ว เดี๋ยวก่อนหมดปีนี้ เราจะมีการจัด 10 ที่สุดประจำปี 2022 กันอีกหนึ่งฉบับ ใครจะไปอยู่ในสายตาและมุมมองของ อ.เจี๊ยบ บ้าง ฝากติดตามกันด้วยครับ สำหรับวันนี้ลาไปแล้ว สวัสดีครับ

เรียบเรียงโดย : นิก ธีร์ธวัช

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-------------------------------------------------

วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

เด็ดทุกคลิป ทันทุกช็อต พร้อมผลบอลโลกก่อนใครสมัครรับ กด *301*022# 59 บ. ตลอดโปรแกรม
เน้นๆ โดนๆ เจาะลึกวิเคราะห์ คู่ต่อคู่ ชัดเจนตรงเป้า สมัครรับกด  http://bit.ly/3GYI6Ke  ราคา 3 บาท/ข้อความ

ชมช็อตเด็ด พร้อมอัพเดททุกลูกยิง สมัครกด *301*022# 59 บ. ตลอดโปรแกรม Worldcup2022
เจาะลึกทีมแข่งคู่ต่อคู่ ใครจะชนะหรือแพ้ ผลบอลเป็นแบบไหน สมัครรับกด  http://bit.ly/3GYI6Ke  ราคา 3 บาท/ข้อความ

ยอดนิยมในตอนนี้