ประเด็นร้อนก่อนเตะ! "อาร์เซนอล VS ลิเวอร์พูล" ใครจะได้ฉลองโล่ คอมมิวนิตี้ ชิลด์!!
แมตช์สำคัญที่แฟนบอลจับตาช่วงสุดสัปดาห์ “หงส์แดง” ดวลแข้ง “ปืนใหญ่” ในศึกชิงโล่การกุศล คอมมิวนิตี้ ชิลด์ คืนวันเสาร์นี้
อาจจะไม่ใช่แมตช์สำคัญอะไรมากนัก ในแง่ของความยิ่งใหญ่หรือเกียรติประวัติของถ้วยรางวัล
แต่ไม่ว่าจะเป็นถ้วยเล็ก-ถ้วยใหญ่ เมื่อขึ้นชื่อว่า “แชมป์” แล้ว ทุกคนล้วนอยากได้เป็นเจ้าของทั้งนั้น และไม่มีใครอยากเดินออกจากสนามในฐานะผู้แพ้
นั่นรวมถึงแมตช์การกุศล “คอมมิวนิตี้ ชิลด์” ซึ่งปีนี้จะเป็นการเจอกับระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีก ดวลกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ทีมแชมป์เอฟเอคัพ ที่สนามเวมบลีย์ ในคืนวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม เวลา 22:30 น.
ใครจะได้แชมป์สมัย 16
ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล เป็นสองทีมที่มีผลงานในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ สูสีกันมาก โดยทั้งสองทีมลงเล่นรายการนี้เท่ากันที่ 22 ครั้ง และได้แชมป์เท่ากันคือฝั่งละ 15 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับสองร่วมกัน เป็นรองเพียงอันดับหนึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ฉลองโล่การกุศลนี้ไป 21 ครั้งแล้ว
ดังนั้น หลังจบเกมคืนวันเสาร์นี้จะต้องมีทีมใดทีมหนึ่งที่ได้ครองแชมป์เป็นสมัยที่ 16 และยึดตำแหน่งทีมที่ได้แชมป์มากที่สุดเป็นอันดับสองแบบเดี่ยวๆ เพียงแต่ว่าจะเป็นทีมไหนเท่านั้นเอง ระหว่าง หงส์แดง หรือ ปืนใหญ่
จับตาแข้งใหม่
หลังจากปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ทั้งสองทีมต่างมีสมาชิกใหม่เข้ามาเสริมทัพ โดยลิเวอร์พูลได้ คอสตาส ชิมิกาส ฟูลแบ็กทีมชาติกรีซ จากโอลิมเปียกอส ซึ่งมีลุ้นลงสนามในเกมนี้ด้วย หลังจากลงโชว์ฝีเท้าให้กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เห็นมาแล้วในเกมนัดอุ่นเครื่อง ระหว่างที่ทีมหงส์แดงยกพลไปเก็บตัวอยู่ที่ออสเตรีย
ขณะที่ อาร์เซน่อล ได้ วิลเลี่ยน ปีกจอมพลิ้วจากเชลซี มาเสริมอันตรายในแนวรุก นอกจากนี้ยังมี วิลเลียม ซาลิบา ปราการหลังดาวรุ่งวัย 19 ปี ซึ่งจะได้มาสวมยูนิฟอร์มปืนใหญ่เสียที หลังจากอาร์เซนอลควักกระเป๋า 27 ล้านปอนด์มาจากแซงต์ เอเตียน เมื่อเดือนก.ค. ปีที่แล้ว แต่ปล่อยให้ แซงต์ เอเตียน ใช้งานต่อไปก่อนด้วยสัญญายืมตัว 1 ฤดูกาล จนกระทั่งได้มาสวมยูนิฟอร์มปืนใหญ่อย่างเต็มตัวในซีซั่นนี้
ไม่ฟูลทีมทั้งคู่
แฟนบอลต้องเผื่อใจไว้เลยว่า ทั้งสองทีมคงไม่ได้ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มอัตราศึกในเกมนี้ เนื่องจากนักเตะหลายคนยังอยู่ในช่วงเรียกความฟิตของสภาพร่างกาย ก่อนที่พรีเมียร์ลีกซีซั่นใหม่จะเปิดฉากในวันที่ 12 กันยายน ดังนั้นกุนซือทั้งสองฝ่ายคงไม่อยากเสี่ยงส่งผู้เล่นคนสำคัญลงสนาม หากสภาพร่างกายไม่พร้อมจริงๆ
ขณะเดียวกัน อาร์เซน่อล มีปัญหาผู้เล่นถึง 4 คน ที่กลับมาซ้อมช้ากว่าคนอื่นๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้เข้าต้องเข้ารับการกักตัว หลังจากที่นักเตะกลุ่มนี้ไปฮอลิเดย์ช่วงพักฤดูกาล หรือบางคนเดินทางมาจากประเทศที่เสี่ยงต่อการติดโควิด-19 ซึ่งมีการระบุว่า 2 ใน 4 รายนั้นคือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตู และ กาเบรียล ว่าที่กองหลังตัวใหม่ซึ่งย้ายมาจาก ลีลล์ ในฝรั่งเศส ส่วนอีกสองรายที่เหลือไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นใคร
“เราจะพยายามปรับ เพื่อให้ได้ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการลงสนามวันเสาร์นี้” มิเกล อาร์เตต้า กุนซืออาร์เซนอล กล่าว
หงส์แดงสถิติข่ม
การเจอกันในช่วงหลังของสองทีมนี้เป็น “หงส์แดง” ที่สถิติเหนือกว่าค่อนข้างมาก โดย 11 นัดหลังสุดที่เจอกันในทุกรายการ ลิเวอร์พูลชนะ 6 เสมอ 4 และ อาร์เซน่อล ชนะแค่นัดเดียว
อย่างไรก็ดี นัดเดียวที่อาร์เซนอลคว้าชัยนั้นคือเกมที่เจอกันล่าสุด เมื่อช่วงกลางเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ซึ่งเกมนั้น อลีสซง เบคเกอร์ และ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ ก่อความผิดพลาดจนทำให้แฟนปืนได้เฮด้วยชัยชนะ 2-1 ซึ่งเชื่อว่าเดอะค็อปหลายคนน่าจะยังคงจำกันได้
ขณะที่ในเกมคอมมิวชิตี้ชิลด์ ทั้งคู่เจอกันมาแล้ว 3 ครั้ง ได้แก่ปี 1979 ลิเวอร์พูลชนะ 3-1 ต่อมาปี 1989 ลิเวอร์พูลชนะ 1-0 และครั้งล่าสุด ปี 2002 อาร์เซน่อลชนะ 1-0 จากประตูชัยของ กิลแบร์โต้ ซิลวา ในนาทีที่ 69
ส่วนเกมที่จะเกิดขึ้นในวันเสาร์นี้ บรรดากูรูต่างยกให้ทีมแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่าง "ลิเวอร์พูล" เป็นต่อ แต่ก็คงประมาท อาร์เซนอล ไม่ได้ เพราะทัพเดอะกันเนอร์สก็พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วจากการปราบทั้งแมนฯ ซิตี้ และ เชลซี จนผงาดแชมป์เอฟเอคัพได้ในที่สุด
อดใจรออีกนิดเดียว คำตอบทุกอย่างจะอยู่ในสนามคืนวันเสาร์นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
>> ยังกระหาย! เฮนโด้ เผย ลิเวอร์พูล ยังหวังความสำเร็จต่อเนื่อง
>> เจิมใครดี? พ่อหมอโอเว่น ฟันฉับ อาร์เซน่อล หรือ ลิเวอร์พูล มีชัยศึกชิงโล่