รีเซต
Sports Profile : ประวัติ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลางจอมขยัน เด็กปั้นจากรั้ว "ปีศาจแดง"

Sports Profile : ประวัติ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลางจอมขยัน เด็กปั้นจากรั้ว "ปีศาจแดง"

Sports Profile : ประวัติ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กองกลางจอมขยัน เด็กปั้นจากรั้ว "ปีศาจแดง"
BALLYSLAM
25 ธันวาคม 2563 ( 21:00 )
3.1K

ข้อมูล และประวัติล่าสุดของ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ มิดฟิลด์เลือดเนื้อเชื้อไขของ อะคาเดมี่ ฟุตบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังก้าวขึ้นเป็นเป็นกำลังสำคัญ ที่จะพาทีมรักของเขากลับมาสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

ข้อมูลนักเตะ

ชื่อเต็ม : สกอตต์ ฟรานซิส แม็คโทมิเนย์ (Scott Francis McTominay)

เกิด : 8 ธันวาคม 1996 ที่เมืองแลงคาสเตอร์ ประเทศอังกฤษ

อายุ : 24 ปี

สัญชาติ : สกอตแลนด์

ตำแหน่ง : กองกลาง

ส่วนสูง : 193 เซนติเมตร

เส้นทางลูกหนัง

อย่างที่บอก แม็คโทมิเนย์ คือเลือดเนื้อเชื้อไข ที่ถูกกลั่นมาจากผลผลิตของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดังนั้น สถานที่แรกที่เจ้าหนูน้อยเข้ามาฝึกวิชาลูกหนังก็ต้องคือที่นี่ เขาเข้ามาสู่ทีมเยาวชนของ "ปีศาจแดง" ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ และได้ร่ำเรียนวิชาลูกหนัง และฝึกฝนฝีเท้าที่ที่ศูนย์ฝึก เพรสตัน แห่งนี้ นั่นเอง

แรกเริ่มเดิมที เจ้าตัวเล่นในตำแหน่งกองหน้า ก่อนจะค่อยๆ ขยับปรับเปลี่ยนมาเรื่อยๆ จนมาจบกับบทบาทกองกลาง สมัยที่ วอร์เรน จอยซ์ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเยาวชน ซึ่งเขาเห็นหน่วยก้าน และแววการเล่นบางอย่างของเจ้าหนูแม็คโทมิเนย์ ว่าเล่นกองหน้าต่อไปคงไม่รุ่ง ถอยต่ำลงมานิดเป็นมิดฟิลด์น่าจะเวิร์กกว่า

และด้วยความมุ่งมั่น การขยันฝึกซ้อม และการพัฒนาความแข็งแกร่งของร่างกาย ตลอดจนฝีเท้าอันยอดเยี่ยม ทำให้ แม็คโทมิเนย์ ถูกจับตามองจากบรรดาทีมงานสตาฟฟ์โค้ชอย่างมาก จนสุดท้ายเขาก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2013 ซึ่งเวลานั้นเขามีอายุเพียง 16 ปี กว่าๆ เท่านั้น ซึ่งถือว่ารวดเร็วอย่างมากหากเทียบกับวัยของเขาเอง

เมื่อเซ็นสัญญาอาชีพแล้ว แม็คโทมิเนย์ ได้มีโอกาสขึ้นมาซ้อมกับทัพ "ปีศาจแดง" ชุดใหญ่ ได้เข้ามาเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับนักเตะระดับชั้นนำของโลก แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่มีโอกาสได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่แม้แต่วินาทีเดียวเลยก็ตาม แต่นั่นก็เป็นประสบการณ์ชั้นยอดของจ้าหนูวัยเพียง 16 ปี คนนี้

อย่างที่บอกไป แม้จะได้ขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ แต่ด้วยความที่เจ้าตัวยังเด็ก และไม่มีประสบการณ์ในการเล่นบอลระดับสูง ทำให้เขาไม่สามารถเบียดบรรดารุ่นพี่ลงเล่นเป็นตัวจริง หรือสำรองได้เลย ทำให้เจ้าตัวต้องลงไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการเล่นกับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ก่อน และที่นี่เองคือจุดเริ่มต้นของ แม็คโทมิเนย์ ที่กำลังจะก้าวขึ้นไปเป็นกำลังสำคัญของ แมนยู ในอนาคตต่อไป

ด้วยความที่เป็นนักเตะที่ทุมเทตลอด 90 นาที ขยันวิ่ง ขยันเข้าบอล และมีจังหวะตัดบอล อ่านเกมที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขากลายเป็นนักเตะตัวหลักของทีมเยาวชนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่จะขาดไม่ได้เลย โดยในฤดูกาล 2016–2017 เขาทำผลงานได้อย่างร้อนแรงอย่างมาก ลงเล่นไป 21 นัด แถมยังยิงไปอีก 3 ประตู จากการเล่นมิดฟิลด์ตัวรับ ทำให้ฝีเท้าของเขาเริ่มไปเข้าตา โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือของทีมชุดใหญ่ในเวลานั้น

จากนั้นไม่นาน มูรินโญ่ จึงได้ดึงตัว แม็คโทมิเนย์ กลับขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ของทีมอีกครั้ง และก็ได้ส่งชื่อเขาเป็นตัวสำรองในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ แมนยู เปิดบ้านพบกับ สวอนซี ซิตี้ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2017 อีกด้วย ทว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้ถูกเปลี่ยนลงสนามแต่อย่างใด ยังคงต้องรอโอกาสต่อไป

แต่แล้วต่อมาไม่นาน ความฝันของของ แม็คโทมิเนย์ ก็เป็นจริงจนได้ เมื่อเขาถูกส่งลงสนามเป็นครั้งแรก ในแมตช์ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกไปเยือน อาร์เซนอล ที่สนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2017 นั่นเอง และยังมาได้ลงอีกครั้ง ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2016-17 เป็นเกมทีทีมเจอกับ คริสตัล พาเลซ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม นั่นเอง

ฤดูกาลต่อมา เป็นปีที่ แม็คโทมิเนย์ ได้เริ่มมีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่ของ แมนยู มากยิ่งขึ้น เนื่องจากการผลักดันของ มูรินโญ่ ที่ชื่นชอบในฝีเท้าของเขา โดยในฤดูกาลนี้ แมตช์ที่ทำให้แฟนบอลติดตาตรึงใจ และจำชื่อของเขาได้เป็นอย่างดี เกิดขึ้นใน "ศึกแดงเดือด" ที่ดวลกับ ลิเวอร์พูล คู่รักคู่แค้นตลอดกาล โดยเกมนั้นเจ้าตัว เล่นได้อย่างโดเด่นมาก วิ่งพล่านไปทั่วสนาม และตัดเกมแดนกลางของ "หงส์แดง" จนไปไม่เป็น จนสามารถช่วยให้ต้นสังกัดเอาชนะไป 2-1 ซึ่งหลังจากแมตช์นี้เขาก็ได้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของทีมแบบถาวร

ในฤดูกาล 2018-2019 เป็นปีที่ แม็คโทมิเนย์ ขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีม แมนยู ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นยุคของ มูรินโญ่ หรือในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือคนใหม่ ที่เข้ามารับตำแหน่งแทน มูรินโญ่ ที่โดนไล่ออกไป ในช่วงปลายปี 2018 แต่แมตช์ที่น่าจะอยู่ในความทรงจำ และทำให้เขากลายมาเป็นขวัญใจของสาวก "ปีศาจแดง" นั่นก็คือในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย ในเกมที่ 2 ที่ทีมต้องบุกไปเยือน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยักษ์ใหญ่ของลีกฝรั่งเศส ซึ่งในเกมนั้น เขาเล่นได้อย่างโดดเด่น เป็นหัวใจสำคัญในแดนกลาง วิ่งไล่ตัดบอลแบบไม่มีหมดตลอด 90 นาที จนมีส่วนช่วยให้ทีม บุกไปเอาชนะ เปแอชเช ได้ถึงถิ่น 3-1 ผ่านเข้ารอบด้วยกฏประตูทีมเยือน แบบสุดเหลือเชื่อ

ฤดูกาล 2019-2020 เรียกได้ว่า เป็นปีที่ แม็คโทมิเนย์ ได้เล่นแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย และลงตัวจริงให้ทีมอย่างต่อเนื่องเลยก็ว่าได้ เนื่องจาก มีช่วงหนึ่งที่ เนมานยา มาติช และ ปอล ป็อกบา ได้รับบาดเจ็บต้องพักยาวไปพร้อมกัน ทำให้ดาวเตะชาวสกอตแลนด์ ได้กลายมาเป็นกำลังหลักให้ทีม โดยเข้าจับคู่กับ เฟร็ด กองกลางชาวบราซิล และทำผลงานได้ค่อนข้างดี จนมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมจบอันดับ 3 ของตาราง และคว้าตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ อีกครั้ง

จนมาถึง ฤดูกาล 2020-2021 แม็คโทมิเนย์ ยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และได้กลายมาเป็นตัวหลักของทีมในแดนกลางไปแล้วในตำแหน่งกองกลางตัวรับ เท่านั้นไม่พอเจ้าตัวยังได้ยกระดับฝีเท้าให้ยอดเยี่ยมขึ้นมาอีก ไม่จำกัดเฉพาะการเล่นเกมรับ แต่ยังเพิ่มความอันตรายในการเล่นเกมรุก และการยิงประตู หลักฐานที่ชัดที่สุดคือเกมที่ แมนยู เปิดบ้านถล่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด 6-2 เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม ในเกมนั้นเขาเหมาซัดคนเดียว 2 ลูก และเป็นการยิงได้ภายใน 3 นาทีแรกของเกมเท่านั้น แถมยังอีก 1 แอสซิสต์ จนสามารถคว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครองแบบสุดยอดอย่างมาก

ผลงานทีมชาติ

เป็นที่น่าประหลาดใจมาก เมื่อไปดูสถิติการติดทีมชาติของ แม็คโทมิเนย์ ที่ผ่านมาๆ เจ้าตัวไม่เคยลงเล่นในระดับเยาวชนชุดต่างๆ ให้กับ สกอตแลนด์ เลยแม้แต่เกมเดียว ดาวเตะแมนยู กระโดดขึ้นมาเล่นทีมชาติชุดใหญ่เลย และได้ลงสนามให้ทัพ "ตราหมากรุก" ครั้งแรก ในวันที่ 23 มีนาคม 2018 ในเกมอุนเครื่องที่ทีมแพ้ให้กับ คอสตาริก้า ไป 0-1 ซึ่งในเวลานั้นเจ้าตัวอายุ 21 ปี

และจนถึงปัจจุบัน แม็คโทมิเนย์ ติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว 19 นัด และยังมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ สกอตแลนด์ ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายของฟุตบอลยูโร 2020 เป็นครั้งแรกในรอบ 23 ปี ได้อีกด้วย

เกียรติประวัติ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

  • แชมป์พรีเมียร์ลีก รุ่นอายุต่ำกว่า 21 ปี 2015-2016

-------------------------------------------------

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> Sports Profile : ประวัติ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวยิงผู้ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกในรอบ 30 ปี

>> Sports Profile : ประวัติ เจมี่ วาร์ดี้ จากเด็กโรงงานทำขาเทียม สู่ดาวยิงระดับแชมป์พรีเมียร์ลีก

-------------------------------------------------

ดูสดฟรี!! ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ทุกสัปดาห์ พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม ต้อง App TrueID เท่านั้น

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ >> คลิกที่นี่

เก็งไม่มีพลาด! ฟันธงคู่ไหนเด็ด! เจาะลึกก่อนเกมพรีเมียร์ลีก สมัครทาง SMS พิมพ์ R1 ส่งมาที่ 4238066 หรือคลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างนี้

 

ยอดนิยมในตอนนี้