
Sleep Test คืออะไร หยุดหายใจขณะหลับ ตรวจอย่างไร เบิกประกันสังคมได้จริงไหม

คุณเคยไหม ทั้งที่นอนครบ 8 ชั่วโมง แต่ตื่นเช้ามาแล้วยังรู้สึกเพลีย ง่วง งุนงง เหมือนไม่ได้พักจริง ๆ
อาการแบบนี้อาจไม่ใช่แค่ “นอนดึก” หรือ “นอนไม่พอ” แต่เป็นสัญญาณของภาวะความผิดปกติขณะนอนหลับ (Sleep Disorder) ซึ่งในหลายกรณีเกี่ยวข้องกับ “ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ” (Obstructive Sleep Apnea – OSA) ที่อันตรายกว่าที่คิด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ ความดันสูง และโรคหลอดเลือดสมองได้
หนึ่งในวิธีวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุดคือ “Sleep Test” หรือ “การตรวจการนอนหลับ” ซึ่งปัจจุบันสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมเพื่อเบิกค่าใช้จ่ายได้ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
Sleep Test คืออะไร ตรวจอะไรบ้าง ทำไมถึงต้องตรวจ
Sleep Test หรือชื่อทางการแพทย์ว่า “Polysomnography” คือการตรวจวิเคราะห์คุณภาพการนอนหลับโดยละเอียด เพื่อค้นหาความผิดปกติที่เกิดขึ้นระหว่างการนอน เช่น การหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea) การนอนกรน นอนละเมอ หรือ นอนไม่หลับเรื้อรัง
การตรวจนี้จะมีเจ้าหน้าที่แพทย์ติดตั้งอุปกรณ์เซนเซอร์ไว้ตามร่างกาย เช่น ศีรษะ หน้าอก และขา เพื่อบันทึกสัญญาณชีพต่าง ๆ ขณะหลับ อาทิ
- คลื่นสมอง (EEG) เพื่อดูวงจรการหลับลึกและหลับฝัน
- การหายใจและการเคลื่อนไหวของทรวงอก เพื่อประเมินการไหลเวียนของอากาศ
- จังหวะการเต้นของหัวใจ (ECG) และระดับออกซิเจนในเลือด
- การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและดวงตา เพื่อดูว่ามีการกระตุกหรือละเมอขณะหลับหรือไม่
ข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกนำไปวิเคราะห์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อระบุว่ามีภาวะผิดปกติใด เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ระดับออกซิเจนต่ำ หรือคุณภาพการนอนไม่เพียงพอ ซึ่งผลการตรวจนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนรักษา เช่น การใช้เครื่องช่วยหายใจ CPAP หรือการปรับพฤติกรรมการนอนให้เหมาะสมมากขึ้น
กล่าวง่าย ๆ คือ Sleep Test ช่วยให้เราเข้าใจคุณภาพการนอนของตัวเองอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ “นอนนานหรือไม่นาน” แต่รู้ว่าร่างกายได้พักจริงหรือเปล่า และมีภาวะที่ซ่อนอยู่หรือไม่ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หยุดหายใจ หรือสมองไม่เข้าสู่ช่วงหลับลึก
ใครบ้างที่ควรเข้ารับการตรวจ Sleep Test
Sleep Test ไม่ได้มีไว้เฉพาะสำหรับคนกรนเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับผู้ที่มีอาการเหล่านี้ด้วย
- กรนเสียงดังจนคนข้าง ๆ ต้องสะกิด หรือมีคนบอกว่าคุณหยุดหายใจขณะหลับ
- ง่วงมากผิดปกติในตอนกลางวัน แม้จะนอนเพียงพอ
- หลับยาก ตื่นกลางดึกบ่อย หรือหลับไม่สนิท
- มีพฤติกรรมแปลก ๆ ตอนนอน เช่น ละเมอ เดินหลับ ขากระตุก หรือพูดตอนหลับ
- รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจติดขัด หรือสะดุ้งตื่นกลางดึก
หากคุณมีอาการใดอาการหนึ่งในนี้เป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการตรวจ Sleep Test โดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้อาจเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพระยะยาว เช่น ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือโรคหลอดเลือดสมอง
ตรวจ Sleep Test เบิกประกันสังคมได้ไหม
คำตอบคือ “ได้” แต่ต้องอยู่ในกรณีที่แพทย์เห็นว่า “มีความจำเป็นทางการแพทย์”
หากผู้ประกันตนมีอาการเข้าเกณฑ์ เช่น กรนเสียงดังผิดปกติ หยุดหายใจขณะหลับ หรือมีภาวะง่วงมากในเวลากลางวัน แพทย์สามารถออกใบส่งตรวจ Sleep Test เพื่อขอเบิกได้ โดยต้องเข้ารับการตรวจที่ โรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม หรือ สถานพยาบาลที่ได้รับการรับรอง เท่านั้น
อัตราค่าชดเชยที่เบิกได้ตามสิทธิ์
รายการ | วงเงินสูงสุดที่เบิกได้ |
---|---|
Sleep Test แบบเต็มรูปแบบ (Polysomnography Type 1) | ไม่เกิน 7000 บาท |
Sleep Test แบบไม่มีเจ้าหน้าที่เฝ้า (Type 2) | ไม่เกิน 6000 บาท |
เครื่องอัดอากาศแรงดันบวก (CPAP) | ไม่เกิน 20000 บาท |
หน้ากากสำหรับเครื่อง CPAP | ไม่เกิน 4000 บาท/ชิ้น |
ส่วนค่าอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่น แผ่นกรองอากาศและอุปกรณ์สิ้นเปลือง จะรวมอยู่ในค่าบริการของโรงพยาบาลตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด
เตรียมตัวก่อนตรวจ Sleep Test อย่างไรให้ผลแม่นยำ
การตรวจจะใช้เวลาประมาณ 1 คืน ผู้เข้ารับการตรวจจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ โดยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้
1. งดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนตรวจ
2. อาบน้ำและสระผมให้สะอาด เพื่อให้ติดอุปกรณ์ได้แน่นและไม่เกิดการรบกวนสัญญาณ
3. งดใช้ครีม โลชั่น หรือเจลใส่ผม เพราะอาจทำให้แผ่นตรวจหลุดง่าย
4. แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาที่ใช้อยู่ โดยเฉพาะยานอนหลับหรือยากล่อมประสาท
5. หลีกเลี่ยงการงีบระหว่างวัน เพื่อให้ร่างกายสามารถเข้าสู่การหลับลึกในช่วงตรวจ
6. รับประทานอาหารมื้อเย็นก่อนตรวจ 4–5 ชั่วโมง และไม่ควรทานอาหารมื้อหนัก
7. นำของใช้ส่วนตัวติดตัวไปด้วย เช่น หมอน ผ้าห่ม หรือตุ๊กตาที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย
การนอนที่ดีเริ่มจากการรู้จักตัวเอง
Sleep Test คือการตรวจที่ช่วยให้เราเข้าใจ “คุณภาพของการนอน” มากกว่าปริมาณชั่วโมงที่นอน หากพบความผิดปกติและเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง คุณจะรู้สึกสดชื่นขึ้น มีสมาธิ และลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังในระยะยาว
และที่สำคัญ หากคุณอยู่ในระบบ ประกันสังคม ก็สามารถใช้สิทธิ์ เบิกค่าตรวจ Sleep Test และอุปกรณ์ CPAP ได้จริง ตามเกณฑ์ที่แพทย์วินิจฉัยและโรงพยาบาลในเครือข่ายรองรับ
เพราะ “การนอนหลับที่ดี” ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความสบาย แต่คือ รากฐานของสุขภาพและคุณภาพชีวิต ที่ทุกคนควรใส่ใจตั้งแต่วันนี้นั่นเอง
บทความที่คุณอาจสนใจ
แท็ก
ยอดนิยมในตอนนี้
สิทธิประโยชน์แนะนำ

ยอดนิยมในตอนนี้
สิทธิประโยชน์แนะนำ
