
จับตาดู!! เชส ฟาเบรกาส จากยอดนักเตะ สู่ยอดโค้ชของ โคโม่

การแข่งขันฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อิตาลี ฤดูกาล 2025-26 ผ่านการลงสนามไปแล้วทั้งสิ้น 11 นัด "แชมป์เก่า" นาโปลี อาจยังทำผลงานไม่ดีนักเพราะว่ามีปัญหานักเตะบาดเจ็บรบกวน โดยรายล่าสุดคือ เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพคนใหม่ชาวเบลเยียม ที่คาดว่าน่าจะกลับมาได้อีกครั้งในปี 2026 และการขาดหายไปของ "เคดีบี" ส่งผลให้ นาโปลี ชนะได้เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นจากการลงสนาม 4 เกมล่าสุดรวมทุกรายการ
ส่วนทีมที่ทำผลงานได้ดีและนำเป็น "จ่าฝูง" คือ อินเตอร์ มิลาน ที่เก็บไปแล้ว 24 แต้ม จากสถิติชนะ 8 แพ้ 3 โดยมีแต้มเท่ากับ โรม่า ภายใต้การคุมทัพของ "โค้ชจอมเก๋า" จาน ปิเอโร่ กาสเปรินี่ ที่ย้ายเข้ามารับงานในฤดูกาลนี้ อันดับที่ 3 คือ เอซี มิลาน เก็บไปแล้ว 22 แต้มเท่ากับ อันดับที่ 4 นาโปลี, อันดับที่ 5 โบโลญญ่า และ อันดับที่ 6 ยูเวนตุส
ขณะที่อันดับ 7 โคโม่ เป็นทีมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดทีมหนึ่งคือ โคโม่ แม้ว่าผลงานอาจจะไม่ได้หวือหวาแต่ถือว่ามีมาตรฐานการเล่นค่อนข้างสูง และที่สำคัญ เชสก์ ฟาเบรกัส เฮดโค้ชคนเก่งชาวสเปน ยังเป็นขวัญใจของแฟนบอลหลายๆคน(โดยเฉพาะแฟนบอลชาวไทย) เพราะว่าเขาคือนักเตะที่เก่งมากคนหนึ่งของยุโรป!
ประวัติส่วนตัว
ฟรานเชส ฟาเบรกาส โซเลร์ (Francesc Fàbregas Soler) เกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1987 ที่เมืองอาเรนีส เด มาร์ ใกล้เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ตั้งแต่เด็ก เขาหลงใหลฟุตบอลแบบถอนตัวไม่ขึ้น มีไอดอลคือ “เป๊ป กวาร์ดิโอลา” ซึ่งตอนนั้นยังเป็นมิดฟิลด์ตัวปั้นเกมของบาร์เซโลนา
ฟาเบรกัสเข้าสู่ระบบเยาวชนของ บาร์เซโลนา (ลา มาเซีย) ตั้งแต่อายุเพียง 10 ปี แต่แม้จะเป็นเด็กท้องถิ่น เขากลับถูกสโมสรจากอังกฤษแย่งตัวไปตั้งแต่อายุเพียง 16 — และนั่นคือจุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่
จากลา มาเซียสู่ลอนดอน : ดาวรุ่งในอาร์เซน่อล
ในปี 2003 อาร์เซน่อลคว้าตัวฟาเบรกัสมาร่วมทีมเยาวชน และภายใต้การดูแลของ อาร์แซน เวนเกอร์ เขากลายเป็น “เด็กมหัศจรรย์” ที่เติบโตเร็วกว่าคนรุ่นเดียวกัน เขาลงสนามในทีมชุดใหญ่ตอนอายุเพียง 16 ปี และกลายเป็นกำลังหลักของทีมในวัยไม่ถึง 20
ช่วงเวลานั้น แฟนบอลทั่วโลกต่างหลงรักการเล่นของเชสก์ — เขาครองบอลนิ่ง จ่ายทะลุช่องเฉียบคม และมีความเป็นผู้นำเกินวัย จนได้รับปลอกแขนกัปตันทีมในปี 2008 แม้อาร์เซน่อลยุคนั้นจะไม่ประสบความสำเร็จด้านถ้วยแชมป์มากนัก แต่ฟาเบรกัสคือหัวใจของทีม “The Invincibles รุ่นต่อเนื่อง” และเป็นนักเตะที่แฟนปืนใหญ่รักจนถึงทุกวันนี้
หวนคืนถิ่นคาตาลัน : บาร์เซโลนาในฝัน
ปี 2011 ฟาเบรกัสตัดสินใจกลับบ้าน — ย้ายไปบาร์เซโลนาในยุคทองที่มีทั้ง ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสต้า และลิโอเนล เมสซี่ เขาเติมเต็มระบบของเป๊ป กวาร์ดิโอลาได้อย่างลงตัว แม้จะไม่ได้เป็นตัวหลักตลอดเวลา แต่ก็ช่วยทีมคว้าแชมป์มากมาย ทั้ง ลาลีกา, โกปา เดล เรย์ และสโมสรโลก
กลับอังกฤษอีกครั้ง : เชลซีและบทบาทใหม่
ปี 2014 เขาย้ายไปเชลซีของโชเซ่ มูรินโญ่ และกลายเป็นจอมแอสซิสต์คนสำคัญทันที — จับคู่กับดีเอโก้ คอสต้า จนพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัยในปี 2015 และ 2017
ช่วงปลายอาชีพ เขาย้ายไปโมนาโกในฝรั่งเศส ก่อนแขวนสตั๊ดในปี 2023 พร้อมเปลี่ยนบทบาทเป็น “โค้ช” และที่น่าทึ่งคือ เขาเริ่มต้นงานนี้อย่างจริงจังตั้งแต่ยังหนุ่ม
สไตล์การเล่นที่โดดเด่น
หากต้องใช้คำเดียวอธิบายฟาเบรกัส คงเป็นคำว่า “อัจฉริยะด้านจังหวะ” — เขาไม่ใช่กองกลางที่เน้นพลัง แต่คือคนที่มองเห็นช่องว่างเล็ก ๆ ที่คนอื่นไม่เห็น จุดเด่นของเขาคือ การจ่ายบอลแบบเฉียบคมและสร้างสรรค์เกมรุกจากกลางสนาม โดยเฉพาะลูกแทงทะลุ (through pass) ที่กลายเป็นลายเซ็นประจำตัว
เขายังเป็นนักเตะที่มี “ไอคิวฟุตบอล” สูงมาก รู้จังหวะควบคุมเกม จะช้าหรือเร็วก็ทำได้หมด และที่สำคัญคือ เขามีความกล้า — กล้าที่จะจ่ายบอลเสี่ยงเพื่อสร้างโอกาส แม้จะไม่ใช่นักเตะที่มีร่างกายแข็งแรงที่สุด แต่ด้วยไหวพริบและเทคนิค เขาสามารถสร้างความแตกต่างได้ในทุกทีมที่ลงเล่น
เรื่องน่ารู้เพิ่มเติม
- ฟาเบรกัสเคยเป็น “เด็กเสิร์ฟบอล” ในสนามคัมป์ นู ตอนยังอยู่ลา มาเซีย
- เขาและเคราร์ด ปิเก้เป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็ก ก่อนจะกลับมาเล่นด้วยกันที่บาร์ซ่า
- เขาพูดได้ถึง 5 ภาษา (สเปน, คาตาลัน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และอิตาเลียน)
- ฟาเบรกัสเคยลงทุนร่วมกับนักเตะชื่อดังหลายคนในธุรกิจสตาร์ตอัปหลังแขวนสตั๊ด
- ปัจจุบันเขาทำงานเป็นโค้ชของทีม Como ในอิตาลี และได้รับการยกย่องว่า “มีสมองแบบเป๊ป”
FAQ : คำถามที่แฟนบอลมักสงสัยเกี่ยวกับ Cesc Fàbregas
1. ทำไมฟาเบรกัสถึงย้ายออกจากบาร์เซโลนาในตอนแรก?
- เพราะตอนนั้นเส้นทางสู่ทีมชุดใหญ่ถูกขวางโดยรุ่นพี่อย่างชาบีและอิเนียสต้า เขาอยากลงสนามมากกว่านั่งสำรอง จึงเลือกไปอาร์เซน่อลที่ให้โอกาสตั้งแต่อายุยังน้อย
2. ฟาเบรกัสกับอาร์เซน่อล มีความผูกพันอย่างไร?
- เขาเคยพูดว่า “อาร์เซน่อลคือบ้านหลังที่สองของผม” แม้จะย้ายออก แต่ยังคงรักสโมสรและแฟนบอลเสมอ
3. สไตล์ของเขาเหมาะกับตำแหน่งไหนมากที่สุด?
- เดิมทีเขาเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก (หมายเลข 10) แต่ในช่วงหลังปรับมาเป็น “regista” หรือเพลย์เมกเกอร์ตัวต่ำ คอยคุมจังหวะจากแดนกลาง
4. เขามีความสัมพันธ์กับเป๊ป กวาร์ดิโอลาอย่างไร?
- ฟาเบรกัสเคยบอกว่าเป๊ปคือ “แรงบันดาลใจในวัยเด็ก” และภายหลังได้ร่วมงานกันที่บาร์เซโลนา แม้มีแรงกดดันสูง แต่ทั้งคู่ยังเคารพกันเสมอ
5. หลังเลิกเล่น ฟาเบรกัสตั้งเป้าจะเป็นโค้ชใหญ่หรือไม่?
-ใช่ครับ เขาเริ่มต้นเส้นทางโค้ชกับ Como ในอิตาลี และตั้งใจว่าจะพัฒนาทีมให้ขึ้นสู่เซเรียอา พร้อมเปิดทางสู่การคุมทีมระดับยุโรปในอนาคต
เกียรติประวัติ (Honours)
อาร์เซน่อล (Arsenal)
แชมป์ เอฟเอ คัพ (FA Cup): ฤดูกาล 2004–05
แชมป์ คอมมูนิตี้ ชีลด์ (FA Community Shield): ปี 2004
รองแชมป์ ฟุตบอลลีก คัพ (League Cup): ฤดูกาล 2006–07
รองแชมป์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก (UEFA Champions League): ฤดูกาล 2005–06
บาร์เซโลนา (Barcelona)
แชมป์ ลาลีกา (La Liga): ฤดูกาล 2012–13
แชมป์ โกปา เดล เรย์ (Copa del Rey): ฤดูกาล 2011–12
แชมป์ ซูเปร์โกปา เด เอสปาญา (Supercopa de España): ปี 2011, 2013
แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ (UEFA Super Cup): ปี 2011
แชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ (FIFA Club World Cup): ปี 2011
เชลซี (Chelsea)
แชมป์ พรีเมียร์ลีก (Premier League): ฤดูกาล 2014–15, 2016–17
แชมป์ เอฟเอ คัพ (FA Cup): ฤดูกาล 2017–18
รองแชมป์: ฤดูกาล 2016–17
แชมป์ ฟุตบอลลีก คัพ (Football League Cup): ฤดูกาล 2014–15
แชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (UEFA Europa League): ฤดูกาล 2018–19
ทีมชาติสเปน (Spain)
แชมป์ ฟุตบอลโลก (FIFA World Cup): ปี 2010
แชมป์ ยูโร (UEFA European Championship): ปี 2008, 2012
รางวัลส่วนตัว (Individual Awards)
ลูกบอลทองคำ (Golden Ball) ฟุตบอลเยาวชนโลก U17: ปี 2003
รองเท้าทองคำ (Golden Shoe) ฟุตบอลเยาวชนโลก U17: ปี 2003
ผู้เล่นยอดเยี่ยม (Golden Player) ฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรป U17: ปี 2004
Bravo Award: ปี 2006
Golden Boy Award: ปี 2006
ติดทีมยอดเยี่ยมของยูฟ่า (UEFA Team of the Year): ปี 2006, 2008
ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนพรีเมียร์ลีก (Premier League Player of the Month): มกราคม 2007, กันยายน 2007
นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของอาร์เซน่อล (Arsenal Player of the Season): 2006–07, 2009–10
นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (PFA Young Player of the Year): 2007–08
ติดทีมยอดเยี่ยมของ PFA (PFA Team of the Year): 2007–08, 2009–10
ติดทีมยอดเยี่ยมของยุโรป (ESM Team of the Year): 2007–08, 2009–10, 2014–15
ติดทีมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ยูโร (UEFA Euro Team of the Tournament): 2008, 2012
ติดทีมยอดเยี่ยม FIFPro World XI (ทีมชุดที่ 5): ปี 2014
