TRUE TALK : ก่อนเกมรอบชิง! 4 เกมผ่านไป เราเห็นอะไรบ้างจาก กาม่า และ ยู-22 ทีมชาติไทย ... by "จอน"
ผ่านไปแล้ว 4 เกมสำหรับศึก ยู-22 ชิงแชมป์อาเซียน 2019 ของทีมชาติไทย เริ่มต้นจาก ชนะ ติมอร์-เลสเต้ 1-0, ชนะ ฟิลิปปินส์ 3-0 และ เสมอ เวียดนาม 0-0 ในรอบแรก ซึ่งทำให้ทีมชาติไทย เก็บได้ 7 แต้มจาก 3 นัด มีผลต่างประตูได้เสีย +4 จบอันดับรองแชมป์กลุ่ม ต้องโคจรไปพบกับ “เจ้าภาพ” กัมพูชา ในรอบรองชนะเลิศ เมื่อวานที่ผ่านมา
และเกมตัดเชือก “เหล่าช้างศึกจูเนียร์” ก็ทำแฟนบอลเสียวไส้ไม่น้อย หลังผ่านเข้ารอบชิงฯ ได้แบบต้องเอาชนะ กัมพูชา ในการดวลลูกโทษตัดสิน หลังเสมอในเวลาปกติ และต่อเวลาพิเศษ ที่สกอร์ 0-0 (ชนะลูกโทษ 5-3) โดยเกมรอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย จะพบ อินโดนีเซีย วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 18.30 น. ณ สนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม กรุงพนมเปญ
4 นัดผ่านไป จำนวนทั้งหมด 390 นาที
ทีมชาติไทย ชุดนี้ ในรายการนี้ พวกเขารักษาคลีนชีตได้ทุกเกม
แต่ก็ยิงได้เพียงแค่ 4 ประตูเท่านั้น กับทีมในระดับเกมเอ, บี และ ซี ของภูมิภาค
และยิงไม่ได้ติดต่อกันสองนัด ในรูปแบบเกมที่โดนเวียดนาม กับ กัมพูชา ทำเกมบุกเข้าใส่ด้วยในบางช่วง
แต่ถึงกระนั้น การผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ ก็ต้องยกเครดิตให้กับ อเล็กซานเดร กาม่า และพลพรรคนักเตะชุดอายุไม่เกิน 22 ปี เพราะจะไม่ยกเครดิตให้กับผลงานที่ทำได้ตามเป้า ก็กะไรอยู่
ตลอดสี่นัดที่ผ่านมา ก่อนเกมชี้ชะตา “แชมป์ หรือ ไม่แชมป์” ทีมชาติไทย ชุดนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงอะไรบ้าง เราลองมาว่ากันเลย….
- ทัวร์นาเมนต์ค้นหาเพชรที่เหมือนจะยังไม่เจอแบบปังๆ
กรพัฒน์ นารีจันทร์ ในตำแหน่งผู้รักษาประตู กับการเก็บคลีนชีตทุกนัด
ศฤงคาร พรหมสุภะ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ที่ยิงได้ 2 ประตู
มาร์โก บัลลินี่ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ที่โดดเด่นในเกมกับกัมพูชา
เจษฎากร ขาวงาม ในตำแหน่งกองหน้า ในเกมกับฟิลิปปินส์
จากมุมมองของแฟนบอล รวมถึงผมเองที่คอยติดตามชมทีมชุดนี้เล่น ก็อาจจะมีนักเตะอยู่บ้างที่ดูแล้วว่า “สอบผ่านตามเกณฑ์มาตรฐาน” แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า นักเตะชุดนี้ เป็นกึ่งชุดเฉพาะกิจที่ไม่ใช่ชุดเต็มตามใจของ อเล็กซานเดร กาม่า ได้ เพราะเหล่านักเตะที่เขาต้องการจริงๆ ต่างก็ติดภารกิจกับต้นสังกัด ในศึกไทยลีก 2019 ที่เปิดซีซั่นไปแล้ว
นนท์ ม่วงงาม ในตำแหน่งผู้รักษาประตู
ชินภัทร์ ลีเอาะ และ กฤษฎา กาแมน ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
กองหน้า และตัวรุก มีทั้ง สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด, วรชิต กนิษศรีบำเพ็ญ และ เอกนิษฐ์ ปัญญา
ฯลฯ (และอื่นๆ อีกมากมาย)
นักเตะเหล่านี้ ต่างก็ได้ลงสนามในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทุกคนก็เล่นได้ตามมาตรฐาน ฉะนั้น หากพูดกันตามตรง จากฟอร์มภาพรวมของทีมชุด ยู-22 นั้น ต้องยอมรับว่า คงยากที่จะสามารถเบียดตำแหน่งของแข้งคนสำคัญรายอื่นๆ ที่ผ่านการเล่นไทยลีกมาหลายสิบนัด รวมถึงเคยเป็นแชมป์ซีเกมส์, เคยเล่นเอเชี่ยนเกมส์ และบางคนเคยเล่นทีมชาติไทย ชุดใหญ่ได้แล้วด้วยซ้ำ
แต่ไม่ใช่ว่า การยังไม่ค้นพบเพชรที่เป็นโคตรเพชรจริงๆ
กาม่า จะไม่ได้อะไรเลย…
- ระบบ 3-5-2 ที่สอดคล้องกับชุดใหญ่ และของดีจากบราซิลที่ชื่อว่า กาม่า
ตลอด 4 เกม จนถึงสัมผัสสุดท้ายที่ลูกยิงจุดโทษของ มาร์โก บัลลินี่ เข้าประตูไปนั้น ทางเฮ้ดโค้ชอย่าง อเล็กซานเดร กาม่า ได้พิสูจน์แล้วว่า “เขา คือ เชฟลูกหนังที่มีมันสมองของจริงในการปรุงแต่งอาหารให้อร่อย หรืออย่างน้อย ก็ผ่านมาตรฐานตามหลักการที่ควรจะเป็น”
วัตถุดิบชั้นเลิศ ก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นอาหารอันโอชะได้
วัตถุดิบที่แสนจะธรรมดา เขาก็สามารถปรุงรสชาติได้ตามมาตรฐาน และเอาตัวรอดได้แบบใช้กึ๋น โดยอาศัยปรัชญาการทำงานแบบฉบับของตัวเอง ยิ่งในเรื่องของเกมรับแล้ว ยิ่งชัดเจนว่า “เขาของจริง”
ไม่เสียประตูเลยสี่เกม และยิงจุดโทษเข้าทุกลูกในการดวลลูกโทษตัดสิน ท่ามกลางแฟนบอลเจ้าบ้านเกือบเต็มความจุ และสภาพสนามที่โหดร้ายอย่างยิ่ง เพราะเป็นหญ้าเทียมที่เต็มไปด้วยเม็ดยาง และบางเกมต้องลงเล่นท่ามกลางอากาศร้อนจัดเวลาบ่ายสามโมง
หากเปลี่ยนวัตถุดิบ เชื่อได้เลยว่า กาม่า จะแสดงให้เห็นถึงอะไรที่ดีกว่านี้ เหมือนกับตอนที่เขาทำงานให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ในไทยลีก จนผู้คนต้องซูฮกในความสามารถ
และหนึ่งสิ่งที่จะกลายเป็นมรดกตกทอดจากทีมชุดนี้อย่างแน่นอน คือ “ระบบการทำทีมในฟอร์เมชั่น 3-5-2” ของ กาม่า ซึ่งเขาใช้มาจนชินตากับทีมในลีก
ปัจจุบัน แม้ทีมในไทยลีกส่วนใหญ่ จะใช้ระบบ 4-2-3-1 เป็นหลัก แต่ กาม่า ที่ยึดระบบ 3-5-2 ก็ไม่ได้ทำให้ทีมชาติไทย ดูเคอะเขิลกับระบบนี้เท่าไรนัก เพราะจริงๆ แล้ว ทีมชาติไทย ชุดใหญ่เอง ในช่วงเอเชี่ยนคัพ 2019 จำนวน 3 เกมหลังจากที่ปลด มิโลวาน ราเยวัช แบบฟ้าผ่า ก็ใช้งานระบบนี้ และ ทีมชาติไทย ชุด ยู-19 ที่คุมโดย อิสระ ศรีทะโร ก็ใช้งานระบบนี้ จนเกือบได้ไปฟุตบอลโลก ยู-20 มาแล้ว เมื่อปีที่ผ่านมา
สรุปง่ายๆ หาก ยู-19, ยู-22 และ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ตัดสินใจใช้ระบบ 3-5-2 จริงๆ ทุกชุด ก็จะทำให้เกิดบรรทัดฐานการใช้ระบบเดียวกันที่สอดคล้อง ต่อเนื่อง และเติมเต็มขึ้นไปตั้งแต่อายุ 18-19 ปี จนถึงชุดใหญ่ โดยที่ทีมในไทยลีกอย่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลภายในประเทศเมื่อปีที่แล้วทั้งหมด (ไทยลีก, เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ) ก็ใช้ระบบดังกล่าวเช่นเดียวกัน
- ปัญหาคือเกมรุก เกมรุกคือปัญหา
วันก่อนผมเห็นแฟนบอล นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มีการแชร์กันในเรื่องตัวเลขเกมรับของ “สาลิกาดง” ในซีซั่นนี้ โดยลูกทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ นั้น เสียประตูไปเพียง 34 ลูกเท่านั้นในฤดูกาลนี้ที่ผ่านมาแล้ว 27 เกม ซึ่งมีเพียงแค่สี่ทีมอย่าง ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้, สเปอร์ส และ เชลซี ที่เสียประตูน้อยกว่าพวกเขา
ทว่าในเรื่องของเกมรุก พวกเขาก็ยิงได้แค่ 24 ประตูเท่านั้น และมีเพียงทีมเดียวที่ยิงได้น้อยกว่าพวกเขา นั่นก็คือ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ทีมอันดับบ๊วยของตาราง
คุณแข็งแกร่งในเกมรับ แต่ยังมีปัญหาในเกมรุก นั่นก็หมายถึงความที่ยังไม่สมดุลอยู่ดี และในทัวร์นาเมนต์ ยู-22 ชิงแชมป์อาเซียน 2019 ลูกทีมของ กาม่า ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า พวกเขากำลังมีปัญหาเรื่องการจบสกอร์อย่างมาก เพราะเพิ่งยิงไปได้แค่ 4 ประตู แถมดาวซัลโวของทีมยังเป็นกองหลังในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟอีกต่างหาก
และนี่คือสิ่งที่ กาม่า ต้องทำการบ้าน และต้องแก้ไข ทันทีที่กลับมาจากกัมพูชา ซึ่งไม่ว่าทัวร์นาเมนต์นี้จะจบลงอย่างไร จะเป็นแชมป์ หรือรองแชมป์ก็ตาม สิ่งที่ผมอยากเห็นต่อไป คือ พัฒนาการของทีม เมื่อได้ตัวหลักกลับมามากขึ้น ซึ่งน่าจะได้เห็นอะไรชัดเจนกันในศึกฟุตบอล ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020 รอบคัดเลือก ในเดือนหน้าที่ประเทศเวียดนาม โดยจะเป็นทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องของทีมชาติไทย ที่ไม่ซีเรียสเรื่องผลการแข่งขัน เพราะได้สิทธิจัดการแข่งขันในรอบสุดท้ายอยู่แล้ว ต้นปีหน้า
ทว่าการที่แข่งขันในช่วงฟีฟ่าเดย์ ที่สโมสรต้องปล่อยตัวหลักออกมาเล่น เราก็อยากจะเห็นรสชาติของอาหารที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบ ยู-23 แบบชั้นเลิศจากไทยลีก ที่ถูกปรุงโดยเชฟที่เรารอคอยมานาน อย่าง กาม่า
มันต้องอร่อยแน่ๆ ผมหวังว่าอย่างนั้น…
และสุดท้ายนี้ ผมก็ขอให้น้องๆ ชุดอายุไม่เกิน 22 ปี โชคดีกับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ และประสบความสำเร็จคว้าแชมป์กลับมาฝากครอบครัว ฝากแฟนบอลด้วยนะครับ
“จอน”
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports