On The Watch : เปิดรายชื่อ 16 ทีมสุดท้าย คิง เพาเวอร์ คัพ 2018 ... by "Arm Phukrit"

เปิดรายชื่อ 16 ทีมสุดท้าย คิง เพาเวอร์ คัพ 2018 ที่ได้เข้ามาเล่นในรอบชิงแชมป์ระดับประเทศ โดยทำการคัดเลือกมาจาก 6 ภาคทั่วประเทศไทย เพื่อหา 1 ทีมที่จะเป็นผู้ชนะและรับเงินรางวัลมูลค่า 1 รางวัล พร้อมกับถ้วยแชมป์ คิง เพาเวอร์ คัพ ไปครอง

การแข่งขันศึกฟุตบอล “คิง เพาเวอร์ คัพ 2018” รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี พร้อมกับเฟ้นหาสุดยอดเยาวชนไทยฝีเท้าดีจำนวน 10 คน เพื่อเข้าร่วมโครงการนักเตะเยาวชน “ฟ็อกซ์ ฮันท์” รุ่นที่ 4 ไปฝึกทักษะฟุตบอลแบบมืออาชีพ ที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศอังกฤษ เป็นเวลา 2 ปีครึ่ง

ขณะนี้ เดินทางมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นที่เรียบร้อย สำหรับคอนเทนต์นี้ ทางทีมงาน TrueID Sports จะพาไปรู้จักกับ 16 โรงเรียน ในรอบน็อคเอาท์

1. โรงเรียนกีฬาจังหวัดตรัง (ภาคใต้)

สำหรับ โรงเรียนกีฬาจังหวัดตรัง ในรอบคัดเลือกโซนภาคใต้ ในนัดแรกสามารถเอาชนะ โรงเรียนกำแพงวิทยา จากจังหวัดสตูล ไปได้ 5-1 และในนัดที่สองก็ถล่ม โรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์ จากจังหวัดสตูลอีก 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกไปพบกับ โรงเรียนกีฬาจังหวัดยะลา ถือเป็นทีมเต็งอีกทีมที่น่าจะเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ไม่สามารถทำอะไร โรงเรียนกีฬาจังหวัดตรังได้ ที่ฮึดสู้จนชนะ 2-0 ส่งผลให้ทีมจากจังหวัดตรัง เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

ทั้งนี้ โรงเรียนกีฬาจังหวัดตรัง ยังมีนักเตะที่ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ในรอบคัดเลือกภาคใต้อีกด้วย นั่นคือ “มีน”ธนวัฒน์ แซ่ลิ่ว กองหลังกัปตันทีม นั่นเอง

2. โรงเรียนจริยธรรมวิทยา (ภาคใต้)

สำหรับ โรงเรียนจริยธรรมวิทยา จากจังหวัดนราธิวาส ในนัดแรก โดนยินำไปก่อนจากนั้นพลิกแซงเอาชนะ โรงเรียนสวนศรีวิทยา จากชุมพร ไปได้ 3-1 ต่อมาในเกมที่สอง พวกเขาได้พบกับ โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญาในพระอุปถัมภ์ จากภูเก็ต โดยเสมอกันในเวลา 1-1 ซึ่งต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ และเป็นทาง โรงเรียนจริยธรรมวิทยา เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์รวม 4-3 ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกไปพบกับ โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครสุราษฏร์ธานี และผลการแข่งขันเสมอกันในเวลาอีก 1-1 ต้องหาผู้ชนะในการดวลจุดโทษ และผลการแข่งขันเป็นทางด้าน โรงเรียนจริยธรรมวิทยา ที่เอาชนะไปด้วยสกอร์เดิม

โดย โรงเรียนจริยธรรมวิทยา ได้ทาง อนาวิน รอวี ผู้รักษาประตูของทีมที่ช่วยเซฟทีมถึง 2 วัน โดยเซฟจุดโทษรวมกันได้ 6 ลูก พาทีมตีตั๋วเข้าไปเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้สำเร็จ

3. โรงเรียนหนองโพวิทยา (ภาคกลางและภาคตะวันตก)

สำหรับ โรงเรียนหนองโพวิทยา ในนัดแรกเก็บชัยเหนือทางด้าน โรงเรียนธนาคารออมสิน จากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปได้ 3-0 และนัดที่สองถล่ม โรงเรียน อบจ.ชัยนาท ไปได้ถึง 5-0 นัดที่สามรอบตัดเชือกต้องมาเจอกับของแข็งอย่าง โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1 ซึ่งมีนักฟุตบอลทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ติดอยู่ในทีมชุดนี้ด้วย แต่ทว่า โรงเรียนหนองโพวิทยา ฮึดสู้เฉือนเอาชนะไปได้ 2-1 คว้าตั๋วรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

ทั้งนี้ ผู้ที่ทำประตูนัดที่สามให้กับทีมตีตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้สำเร็จคือ ศิลา สีหาโบราณ ศูนย์หน้าของทีม ซัดฟรีคิกด้วยหลังเท้าเข้าประตูไปอย่างงดงาม

4. โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครปฐม (ภาคกลางและภาคตะวันตก)

สำหรับ โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครปฐม นัดแรกได้ประตูโทนจากลูกจุดโทษ เอาชนะ โรงเรียนเทศบาล5 พหลโยธินรามินทรภัคดี ไปได้ 1-0 ในนัดที่สอง พวกเขาเสมอกับ โรงเรียนหนองหญ้าไซวิทยา ในเกม 1-1 และเอาชนะด้วยการตัดสินที่ลูกจุดโทษไป ด้วยสกอร์รวม 4-2 ทำให้ได้เข้าไปเล่นในวันที่สามรอบตัดเชือก พบกับ โรงเรียนกีฬาสุพรรณบุรี ที่ชนะคู่แข่งมาด้วยสกอร์ที่ขาดลอยทั้ง 2 นัด แต่นัดนี้ โรงเรียนกีฬาสุพรรณบุรี ไม่สามารถทะลวงประตูของ โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครปฐม ที่รอสวนกลับและทำไปได้ 2-0 ทำให้ โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครปฐม เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

ทั้งนี้ โรงเรียนกีฬาเทศบาลนครปฐม ยังมีนักเตะที่ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ในรอบคัดเลือกภาคกลางและภาคตะวันตก อีกด้วย นั่นคือ ภูวเนตร ทองคุ่ย ศูนย์หน้ากัปตันทีมโรงเรียนกีฬาเทศบาลนครปฐม นั่นเอง

5. โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา (ภาคตะวันออกและปริมณฑล)

สำหรับ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา เปิดตัวได้สวยหรู ด้วยการถล่ม โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมุทรสาคร ไปได้ 7-2 และในแมต์ที่สองเครื่องก็ยังร้อนอยู่อัด โรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี ไปอีก 4-0 และนัดสุดท้ายรอบตัดเชือก ก็ปิดบัญชีเก็บ โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ไปได้ 3-0 โดยเข้าไปเป็นตัวแทนจากภาคตะวันออกและปริมณฑล ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เรียบร้อย

สำหรับในรอบนี้ โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ได้นักเตะตัวเก่งของทีม “โอ๊ต”เผด็จ แก้วมณี ยิงไปทั้งหมด 8 ประตูจาก 3 นัด และเขายังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ในรอบคัดเลือกโซนภาคตะวันออกและปริมณฑลไปครองอีกด้วย

6. โรงเรียนวัดเขียนเขต (ภาคตะวันออกและปริมณฑล)

สำหรับ โรงเรียนวัดเขียนเขต หรือทีมอะคาเดมี่ ของสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด นัดแรกไม่ไว้น่าเจ้าถิ่น อัด โรงเรียนระยองวิทยาคมปากน้ำ ไปถึง 6-0 และนัดที่สอง เอาชนะ โรงเรียนอ่างศิลาพิทยาคม ที่มี อุดร พิม์ภาค อดีตนักเตะทีมชาติไทย U17 เป็นโค้ช ไป 4-1 ทะลุเข้ารอบตัดเชือกไปพบกับ โรงเรียนโพธินิมิตรวิทยาคม หรือทีมอะคาเดมี่ ของสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และเฉือนเอาชนะไป 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ได้สำเร็จ

โดย โรงเรียนวัดเขียนเขต มีนักเตะในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเก่งอย่าง ธนกฤต ละออไขย์ เรียกได้ว่าเป็นตัวความหวังของ ผู้เล่นเยาวชนของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เลยก็ว่าได้

7. โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (กรุงเทพมหานคร)

ถือเป็นผลงานที่สวยหรูเลยทีเดียว สำหรับ ทัพชมพู-ฟ้า สามารถเก็บชัยชนะ 3 นัดรวด 9 คะแนนเต็ม ยิงประตูไปได้ 17 ประตู ไม่เสียประตูแม้แต่เกมเดียว โดยเอาชนะ รร.เศรษฐบุตรบำเพ็ญ และ รร.ฐานปัญญา ไป 5-0 และนัดสุดท้ายเอาชนะ รร.นวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ไป 7-0 รักษาคลีนชีตได้สำเร็จ

จนทำให้กองหลังของทีม “ข้าวปั้น”ถิรวัฒน์ สรวลสรรค์ ปราการหลังตัวเก่งของทีม ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ โซนกรุงเทพมหานคร ไปครองได้สำเร็จ โดยปราการหลังจอมแกร่งรายนี้ ยังเป็นน้องชายของ “ข้าวปุ้น”ถิรวุท สรวลสรรค์ ฟ็อกซ์ ฮันท์ รุ่นที่ 2 อีกด้วย

8. โรงเรียนอัสสัมชัญ (กรุงเทพมหานคร)

สำหรับ ทัพอินทรีแดง ในปีนี้ ถือว่าผลงานยังคงเป็นที่น่าพอใจเมื่อเก็บชัยชนะ 3 นัดติดต่อกันและเป็น 9 คะแนนเต็ม ผลงานในนัดแรก เอาชนะ รร.ประเทืองทิพย์วิทยา ไปได้ 2-1 ส่วนในนัดที่สอง รร.นวมินทราชินูทิศ บดินทร์เดชา ขึ้นนำไปก่อน 2-0 จากนั้น อัสสัมชัญ กรุงเทพฯ มาไล่ตามไป 2-2 และเอาชนะจุดโทษไปได้ ส่วนในนัดสุดท้าย เอาชนะได้อย่างไม่พลิกโผ โดยเอาชนะ รร.โยธินบูรณะ ไปได้ 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายไปในฐานะ ทีมอันดับ 1 สายบี

สำหรับ ทัพอินทรีแดง พวกเขาไม่ได้มีดีแค่เพียงฝีเท้าเท่านั้น แต่ทีมนี้ยังมีนักเตะหล่อบอกต่อ อยู่ในสนามกันอีกด้วย

9. โรงเรียนทวีธาภิเศก บางขุนเทียน (กรุงเทพมหานคร)

สำหรับ ทวีธาภิเศก บางขุนเทียน ถือว่าเป็นทีมที่ต้องอาศัยเรื่องของโชคลาง เข้ามาเกี่ยวข้องเนื่องจากทีมในสายซี มีแต้มเท่ากันหมดทั้ง 3 ทีมคือ 6 คะแนน ต้องหาทีมหนึ่งเดียวในสายผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป และเป็นทางด้าน ทวีธาภิเศก บางขุนเทียน ดวงดีที่สุด จับฉลากเข้ารอบมาได้

โดยผลงานของพวกเขา ในนัดแรกเอาชนะ รร.ปทุมคงคา มา 2-1 ต่อมาในนัดที่สอง เสมอ รร.พรตพิทยพยัต ในเวลามา 1-1 และไปแพ้จุดโทษอย่างน่าเสียดาย 3-4 ส่วนในนัดที่สาม ถล่ม รร.ศึกษานารีวิทยา ไป 6-0

10. โรงเรียนเทพศิรินทร์ (กรุงเทพมหานคร)

ทัพ ลูกแม่รำเพย ถือเป็นการโชว์ฟอร์มที่น่าประทับใจเมื่อพวกเขา เก็บชัยชนะได้ 3 นัดติด เก็บ 9 คะแนนเต็ม และไม่เสียประตูในเวลา 70 นาที โดยในนัดแรกถล่ม รร.สารสาสน์ธนบุรี ไปได้ 5-0 ในนัดที่สอง อัด รร.นวมินทราชูทิศ กรุงเทพฯ ไป 3-0 ส่วนในนัดสุดท้าย เป็นศึกสายเลือดเสมอกับ รร.เทพศิรินทร์ร่มเกล้า ไป 0-0 ก่อนที่จะมาชนะจุดโทษ 5-3 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มดี

11. โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี (กรุงเทพมหานคร)

ทัพ บลูอาร์มี่ ในปีนี้มาเงียบๆ แต่ก็มา โดยนัดแรกเสมอกับ รร.ราชวินิตบางแคปานขำ ในเกมไป 1-1 ก่อนจะมาเรียกความมั่นใจยิงจุดโทษชนะไปได้ 5-4 ในนัดที่สอง มาชนะ รร.ซางตาครู้สศึกษา ไปได้ 2-0 ส่วนนัดสุดท้าย มาอัด รร.ฤทธิณรงค์รอน ไปอย่างขาดลอย 4-0 ส่งผลให้มี 9 คะแนนเต็ม จากชัยชนะ 3 นัด รั้งเป็นจ่าฝูงของกลุ่มอี ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ไปได้

12. โรงเรียนวิชูทิศ (กรุงเทพมหานคร)

ถือว่าต้องลุ้นเป็นอย่างหนักสำหรับ รร.วิชูทิศ (กีฬา กทม.) เพราะว่าในเกมแรก เสมอมา 1-1 และเอาชนะจากการดวลจุดโทษกับทาง รร.มัธยมวัดบึงทองหลาง มาได้ 4-3 ส่วนในนัดที่สอง พลาดท่าแพ้ให้กับ รร.อิสลามวิทยาลัย ไป 2-1 และนัดสุดท้ายมาถล่ม รร.มัธยมวัดสิงห์ ไป 6-0 ทำให้มี 6 แต้ม เท่ากันกับอีก 2 โรงเรียน คือ อิสลามวิทยาลัย และ มัธยมวัดบึงทองหลาง ทำให้ต้องจับฉลากหาเพียง 1 ทีมเพื่อเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย และเป็นทาง รร.วิชูทิศ (กีฬา กทม.) เข้ารอบได้สำเร็จ

13. โรงเรียนกีฬาจังหวัดขอนแก่น (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

เจ้าถิ่นจากภาคอีสาน ถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยระบบทีมเวิร์คที่ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ในนัดแรกเปิดหัวได้อย่างดุเดือด เอาชนะ รร.เขื่องในพิทยาคาร ไปได้ 6-0 ในนัดที่สอง อัด รร.พระกุมารร้อยเอ็ด ไปอีก 4-0 ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกไปพบกับ รร.เทศบาลวังสะพุง 2 บ้านบุ่งไสล่ จ.เลย และก็ไม่มีปัญหาเอาชนะไปได้ 2-1

สำหรับ รร.กีฬาจังหวัดขอนแก่น มีนักเตะที่น่าจับตามองอยู่หลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มิดฟิลด์ตัวรุกของทีม พันธกิจ ป้อมบุปผา เจ้าของตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ของรอบคัดเลือก โซนภาคอีสาน

14. โรงเรียนพิชญบัณฑิต (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)

ทีมอะคาเดมี่ของ สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี ทีมจากศึกไทยลีก2 ในครั้งนี้ถือว่าทำผลงานได้ดี สำหรับในนัดแรกเอาชนะ รร.ด่านเกวียนวิทยา ไปได้ 3-0 ในนัดที่สองเล่นได้ดีกว่า รร.บุญเหลือวิทยานุสรณ์ หรือทีม อะคาเดมี่ของ “สวาทแคท”นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ไปได้ 2-0 ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกไปพบกับ รร.เทศบาล 2 มุขมนตรี รองแชมป์เก่า คิง เพาเวอร์ คัพ ปีที่แล้ว (2017) และก็ถล่มไปได้ 4-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยการรักษาคลีนชีตได้สำเร็จ

สำหรับ รร.พิชญบัณฑิต มีนักเตะที่น่าจับตามองอีกด้วยคือ พัทธพล จ้อยนุแสง แนวรุกของทีม และทางด้าน โค้ชเชวง คงโนนกอก ผู้ฝึกสอนโรงเรียนพิชญบัณฑิต ยังได้รับตำแหน่ง ผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม ประจำทัวร์นาเมนต์ ของรอบคัดเลือก โซนภาคอีสานด้วย

15. โรงเรียน อบจ.เชียงราย (ภาคเหนือ)

ทีมวางจากเมืองเจียงฮาย มีดีกรีเป็นถึงอะคาเดมี่ของ สโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึกโตโยต้า ไทยลีก ถือเป็นทีมที่มีระบบการเล่นที่ยอดเยี่ยม และทักษะเฉพาะตัวที่ร้ายกาจของน้องๆ ในนัดแรกถล่ม รร.สามัคคีวิทยา2 แบบไม่ไว้หน้าไป 7-0 ส่วนในนัดที่สอง โกงความตายสุดมันส์ ในการเจอกับ รร.วชิราลัย จ.เชียงใหม่ โดนนำไปก่อน 2-0 จากนั้นไล่ตีเสมอเป็น 2-2 จนต้องตัดสินจากการยิงจุดโทษ และก็เป็น อะคาเดมี่กว่างโซ้ง ที่ทำได้ดีกว่าเอาชนะไป 5-4 เข้าสู่รอบตัดเชือก พบกับ รร.กีฬา อบจ.พิษณุโลก และเอาชนะไปได้ 2-0 ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

สำหรับตัวผู้เล่นที่น่าจับตามองมีหลายคนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น อัครพงษ์ ประมูลสิน, เพชรตะวัน นพเก้า ที่ทำแฮตทริกในเกมแรก และ อิมมานูแอล พงศกร แฟมี่ ออบาทโย ลูกครึ่งไทย-ไนจีเรีย

16. โรงเรียนเทศบาลวัดจอมคีรีนาคพรต จ.นครสวรรค์ (ภาคเหนือ)

ทีมอันดับที่ 4 คิง เพาเวอร์ คัพ ปีที่แล้ว (2017) ถือเป็นทีมสุดท้ายที่ตีตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในปีนี้ เส้นทางของพวกเขา นัดแรก ปากน้ำโพดาร์บี้แมตช์ เจอกับ รร.กีฬาจังหวัดนครสวรรค์ เอาชนะไป 4-1 ส่วนในนัดที่สองเอาชนะ รร.ท่าข้ามวิทยาคม จ.แพร่ มาได้ 2-0 และนัดสุดท้าย เอาชนะ รร.กีฬาจังหวัดลำปางไป 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบที่ไม่ต้องลุ้นเหนื่อยอะไร

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 17 มกราคม 2562 จะมีการจับฉลากแบ่งสายในรอบ 16 ทีมสุดท้ายกันต่อไป และ จะทำการแข่งขัน ณ สนามซ้อมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จ.นนทบุรี ระหว่างวันที่ 10-16 กุมภาพันธ์ 2562 ส่วนในนัดชิงชนะเลิศ จะทำการแข่งขัน ณ สนามศุภชลาศัย กรุงเทพฯ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2562

“Arm Phukrit”

ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ กดเลย

ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID

ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!

ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports