บันทึกอาเซียน : ฟุตซอลไทย กีฬาผูกขาดเหรียญทองที่ปัจจุบันไม่มีคำว่าง่ายอีกต่อไป | Main Stand
หากจะหาสักกีฬาที่ขุนพลทีมชาติไทยสามารถกวาดเหรียญทองมาได้อย่างต่อเนื่องมากที่สุด ฟุตซอล คือคำตอบนั้น เพราะหลังจากจัดการแข่งขันมาทั้งหมด 4 ครั้ง 8 เหรียญทองตกเป็นของทัพนักกีฬาไทยโดยไม่แบ่งใคร
แต่ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2022 ที่กำลังจะถึงนี้ คงไม่ใช่งานง่ายของทัพช้างศึกโต๊ะเล็กที่จะผูกขาดเหรียญทองเหมือนอย่างเคย เพราะการพัฒนาของทีมฟุตซอลเพื่อนบ้านที่ขยับเข้าใกล้ไทยมากขึ้นทุกขณะ
Main Stand เปิดบันทึกอาเซียน ย้อนรอยความสำเร็จของฟุตซอลไทยใน 4 ครั้งที่ผ่านมา และตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าชาติเพื่อนบ้านพัฒนาวงการฟุตซอลของพวกเขามาได้มากแค่ไหน
เจ้าเหรียญทอง 4 สมัยซ้อน
กีฬาฟุตซอลถูกบรรจุเข้าสู่มหกรรมกีฬาซีเกมส์เป็นครั้งแรกในการแข่งขันครั้งที่ 24 ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ โดยการเลือกฟุตซอลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของซีเกมส์ปีดังกล่าวนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นเป็นไปเพื่อเพิ่มโอกาสในการคว้าเหรียญทองของทัพนักกีฬาทีมชาติไทย
เนื่องจาก ฟุตซอลทีมชาติไทย ในเวลานั้นคือหมายเลขหนึ่งของภูมิภาคอาเซียน จากประสบการณ์การผ่านเข้าสู่การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2 ครั้งติดต่อกันในปี 2000 และ 2004 แถมยังเคยคว้าชัยชนะในเกมระดับโลกมาแล้วหนึ่งครั้ง ส่วนชาติอื่นในอาเซียนนั้นหากไม่เคยผ่านเข้าสู่ฟุตซอลชิงแชมป์โลกก็ล้วนไม่เคยคว้าชัยชนะในการแข่งขันดังกล่าวได้
ฟุตซอลไทย จึงสามารถแสดงผลงานที่น่าประทับใจในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2007 ด้วยการคว้าเหรียญทองทั้งชายและหญิง โดยทัพช้างศึกโต๊ะเล็กได้แสดงถึงความห่างชั้นกับเพื่อนร่วมภูมิภาคด้วยการถล่ม สปป.ลาว ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ 17-1 สร้างสถิติชนะขาดลอยมากที่สุด ก่อนที่ทีมชาติไทยจะทำลายสถิติดังกล่าวในอีก 4 ปีถัดมา
เมื่อมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2011 ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เป็นเจ้าภาพ ทีมชาติไทยลงเล่นในนัดเปิดสนามพบกับทีมชาติเมียนมา ก่อนถล่มคู่แข่งด้วยสกอร์ขาดลอย 17-0 ก่อนก้าวไปคว้าเหรียญทองได้เช่นเคย ส่วนฟุตซอลหญิงที่แข่งขันในระบบแบ่งกลุ่ม 5 ทีมพบกันหมด นักฟุตซอลหญิงไทยยังคงโชว์ความแข็งแกร่งเก็บเหรียญทองได้เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน
จากการแข่งขันฟุตซอลในซีเกมส์สองครั้งแรกจะเห็นได้ว่าทีมเพื่อนร่วมภูมิภาคอาเซียนไม่มีพัฒนาการมากนัก สวนทางกับทีมชาติไทยที่แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ทั้งนี้เพราะความทะเยอทะยานที่จะประสบความสำเร็จในการแข่งขันฟุตซอลโลก ทัพช้างศึกโต๊ะเล็กจึงจำเป็นต้องเร่งเครื่องในเวทีระดับสูงที่นำมาสู่การพัฒนาที่ก้าวกระโดดของวงการฟุตซอลไทย
ในปี 2012 ฟุตซอลทีมชาติไทยได้เขียนประวัติศาสตร์ด้วยการก้าวสู่รอบน็อกเอาต์ของการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกเป็นครั้งแรก แถมยังรับบทบาทเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกครั้งดังกล่าว นี่คือสัญญาณที่บ่งบอกว่า ฟุตซอลทีมชาติไทย อยู่คนละระดับกับเพื่อนร่วมอาเซียน และเวทีซีเกมส์ก็ไม่ต่างจากรายการเคาะสนิมของนักฟุตซอลบ้านเรา
เมื่อ ทีมฟุตซอลไทย กลับมาลงแข่งขันในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2013 ที่ประเทศเมียนมา ทัพฟุตซอลช้างศึกยังคงคว้าเหรียญทองได้ทั้งประเภทชายและหญิง ส่งผลให้ 6 เหรียญทองที่เคยแจกให้กับประเภทกีฬาฟุตซอลของซีเกมส์มาอยู่ที่ทีมชาติไทยทั้งหมด โดยประเภทชายยังคงรักษาสถิติไม่แพ้ใครตลอดทัวร์นาเมนต์เช่นเคย
แต่การผูกขาดเหรียญทองของทัพนักกีฬาฟุตซอลไทยในซีเกมส์ ส่งผลให้หลายครั้งกีฬาฟุตซอลถูกประเทศเจ้าภาพมองข้าม และไม่เลือกเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมกีฬาที่กำลังจะเกิดขึ้น
ยกตัวอย่าง ซีเกมส์ 2009 ที่เวียดนาม, ซีเกมส์ 2015 ที่สิงคโปร์ หรือ ซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ เพราะชาติเหล่านี้รู้ทั้งรู้ว่า จัดฟุตซอลไปก็มีแต่จะเพิ่มเหรียญทองฟรีให้กับทีมชาติไทยอีก 2 เหรียญ จึงหลีกเลี่ยงที่จะจัดแข่งขันกีฬาฟุตซอลหากไม่จำเป็น
นี่จึงเป็นปัญหาที่วงการฟุตซอลอาเซียนจำเป็นต้องแก้ไข เพราะถ้าหากการแข่งขันอย่างสูสีเกิดขึ้นไม่ได้ เราคงไม่ได้เห็นกีฬาฟุตซอลในซีเกมส์ทุกครั้งเป็นแน่
เวทีที่ไม่มีคำว่าผูกขาดอีกต่อไป
กีฬาฟุตซอลเริ่มส่งสัญญาณให้เห็นการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย แม้ทีมชาติไทยยังคงคว้าเหรียญทองได้ทั้งประเภทชายและหญิง แต่ถ้ามองลึกลงไปในรายละเอียดบรรดาเพื่อนสมาชิกอาเซียนได้เริ่มปรับปรุงมาตรฐานกีฬาฟุตซอลและไม่ได้เป็นของตายให้ทัพฟุตซอลไทยรอเชือดอีกต่อไป
ทัพช้างศึกโต๊ะเล็กพ่ายแพ้ในซีเกมส์เป็นครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยเป็น ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่สามารถคว้าชัยชนะได้ด้วยสกอร์ 4-2 ส่วนมาเลเซียที่เป็นเจ้าภาพก็สามารถคว้าเหรียญเงินในการแข่งขันและยังสามารถขับเคี่ยวกับทีมชาติไทยได้อย่างสูสี ก่อนพ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 3-4 ในการแข่งขันนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งในเกมนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น 5 ทีมที่ลงแข่งขันในฟุตซอลซีเกมส์ 2017 ทั้ง ไทย, มาเลเซีย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย และ เมียนมา สามารถเก็บชัยชนะในการแข่งขันได้ครบทุกทีม ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าทุกทีมฟุตซอลในชาติอาเซียนสามารถแพ้ชนะกันได้หมด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
อีกสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างชัดเจนของวงการฟุตซอลอาเซียนคือการเข้าสู่เวทีฟุตซอลชิงแชมป์โลกของ ทีมชาติเวียดนาม ในปี 2016 และพวกเขาก็ยังคงรักษาระดับของตนไว้ได้อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นทีมขาประจำในปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่า ฟุตซอลไทย ไม่ได้เป็นทีมระดับโลกเพียงทีมเดียวในภูมิภาคอาเซียนอีกต่อไป
อินโดนีเซีย ถือเป็นอีกทีมที่พัฒนาตัวเองได้ดีเช่นเดียวกัน แม้จะยังไม่มีโอกาสได้ลงเล่นในฟุตซอลชิงแชมป์โลกเหมือนไทยกับเวียดนาม แต่ในการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2022 ที่ผ่านมา พวกเขาสามารถเสมอทีมชาติไทยได้ทั้ง 2 แมตช์ ก่อนจะแพ้จุดโทษในนัดชิงชนะเลิศ นี่แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานที่ทัพช้างศึกจะประมาทไม่ได้เลย
มหกรรมซีเกมส์ 2021 ที่กำลังจะมาถึงจึงถูกจับตามองว่านี่อาจเป็นครั้งแรกที่ทีมชาติไทยพลาดเหรียญทองจากกีฬาฟุตซอล เพราะทุกทีมในภูมิภาคต่างก็พัฒนาตัวเองขึ้นมาหมด แม้แต่ ทีมชาติเมียนมา ที่เคยโดนทีมชาติไทยถล่มไป 17 ลูกก็แพ้ให้กับไทยแค่ 0-2 ในการแข่งขันฟุตซอลรายการอินวิเตชั่น ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เป็นความจริงที่ฟุตซอลไทยไม่ได้เป็นมหาอำนาจผูกขาดบนเวทีซีเกมส์และอาจไม่ส่งผลดีต่อทีมชาติไทยในแง่เหรียญรางวัล แต่ในแง่ของกีฬาฟุตซอลโดยภาพรวมนี่ถือเป็นเรื่องดีเป็นยิ่ง เพราะจะเป็นการยกระดับฟุตซอลสู่กีฬาที่หลายชาติในอาเซียนสามารถร่วมแข่งขันได้อย่างเท่าเทียม และจะสามารถแก้ไขปัญหากีฬาฟุตซอลถูกหมางเมินจากซีเกมส์
รักษามาตรฐานเพื่อการต่อยอด
แม้ก่อนหน้านี้จะมีการยืนยันว่า กีฬาฟุตซอล จะอยู่ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 4 ครั้งข้างหน้า ทั้งในปี 2023 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา, ปี 2025 ที่ประเทศไทย, ปี 2027 ที่ประเทศมาเลเซีย และปี 2029 ที่ประเทศสิงคโปร์ แต่ปรากฏว่า เจ้าภาพกัมพูชา กลับตัดสินใจไม่บรรจุกีฬาฟุตซอลในการแข่งขันครั้งถัดไป และยังไม่มีความชัดเจนว่าสุดท้ายแล้วจะมีบรรจุในการแข่งขันครั้งหน้าหรือไม่
ไม่ว่าฟุตซอลจะถูกบรรจุในการแข่งขันครั้งต่อๆไปหรือไม่ ก็คงปฏิเสธไม่ได้อีกแล้วว่า ทุกชาติต่างก็อยากได้เหรียญทองจากกีฬาฟุตซอล 2 เหรียญ ทั้งชายและหญิง
แต่หากมองในเชิงการพัฒนา การที่ฟุตซอลย่านอาเซียนมีการแข่งขันที่สนุกและสูสีมากขึ้น ย่อมทำให้การพัฒนากีฬาฟุตซอลเกิดขึ้นควบคู่กันไป และนั่นก็คือผลดีที่ประเทศไทยเคยพยายามสร้างรากฐานไว้เมื่อครั้งอดีต จนปัจจุบันแต่ละชาติมีความตื่นตัวที่จะพัฒนาทีมฟุตซอลมากขึ้น
อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลุยสนามข่าวเย็นทาง TSPORTS7 ถึงการพัฒนาของชาติในอาเซียนว่า การที่ชาติอาเซียนพัฒนาขึ้นมาใกล้เคียงกับทีมชาติไทย ถือเป้นข้อดี และเป็นสิ่งที่พยายามวางรากฐานให้เกิดขึ้น เพราะการที่ชาติอาเซียนมีผลงานที่ใกล้เคียงกัน จะเป็นการเพิ่มระดับมูลค่าของการแข่งขันฟุตซอลในย่านนี้ให้ก้าวเดินสู่ระดับเอเชีย และเป็นแรงผลักดันให้แต่ละชาติ ลุกขึ้นมาพัมนาทีมของตัวเอง เพื่อเป้าหมายประสบความสำเร็จบนเวทีระดับเอเชียและระดับโลกเองด้วย
หากฟุตซอลไทยยังคงต้องการรักษาสถิติคว้าเหรียญทองในมหกรรมซีเกมส์แบบไม่แบ่งใคร พวกเขาจำเป็นต้องแสดงผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดออกมา เพราะชาติร่วมภูมิภาคอาเซียนไม่เพียงแค่จะพัฒนาจนระดับใกล้เคียงกับไทยมากขึ้น แต่ยังพร้อมที่จะลงแข่งขันชิงชัยในรายการที่รออยู่เบื้องหน้า
หลังจากนี้จึงขึ้นอยู่กับฟุตซอลทีมชาติไทยแล้วว่าจะยังรักษามาตรฐานอันยอดเยี่ยมเอาไว้ได้หรือไม่ แน่นอนว่าในตอนนี้ไทยยังคงเป็นเบอร์หนึ่งของอาเซียน แต่ตำแหน่งนี้ไม่ได้ถูกผูกขาดอีกแล้วในปัจจุบัน หากพลาดเพียงครั้งเดียวหมายเลขหนึ่งฟุตซอลอาเซียนก็อาจหลุดมือทัพช้างศึกไปก็ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ใจเกินร้อย! เชาว์วาลา หวังโชว์ทีเด็ดพาทีมฟุตซอล ผงาดแชมป์ซีเกมส์
- พร้อมรบ!! กัปตันช้าง นำทีม ฟุตซอลไทย บุกเวียดนาม ล่าทองซีเกมส์ สมัยที่ 5
-------------------------------------------------
ดูสด ดูฟรี ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ... พร้อมกีฬาชั้นนำระดับโลกแบบจัดเต็ม
ต้อง App TrueID เท่านั้น โหลดเลย!!
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก
หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก