TRUE FOCUS : ที่สุดส่งท้ายฟุตบอลโลกในความทรงจำ ... by "ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์"

ส่งท้ายกลิ่นอายฟุตบอลโลกที่เพิ่งจบลงไป สำหรับ World Cup 2018 ตามแบบฉบับ รัสเซีย ดินแดนที่เดายากหน่อยว่าจะได้เห็นอะไรบ้างจากพวกเขา ปีผมค่อนข้างโชคดีได้มีส่วนร่วมกับฟุตบอลโลกมากกว่าทุกครั้งในชีวิตซึ่งบทบาทส่วนใหญ่ที่ได้รับมาตลอดชีวิตคือแฟนบอล
ทว่า 2018 โชคดีเป็นพิเศษผมได้รับเกียรติจากทรูวิชั่นส์ เลือกให้มารับผิดชอบบรรยายเกมฟุตบอลโลกตั้งแต่รอบแรกไล่จนถึงนัดชิงชนะเลิศแน่นอนว่าความประทับใจ และความทรงจำที่เกิดขึ้นมีมากมายวันนี้ขออนุญาติแจกจ่ายความประทับใจกันครับ
อ้อ ทั้งหมดที่จะเขียนถึงผมนั่งบรรยาย และเห็นเอง
ที่สุดเกมประทับใจ
นั่งเลือกอยู่นานทีเดียวเพราะมีหลายเกมที่ชอบใจทั้ง “เกาหลีใต้” ซัด “เยอรมัน” กลับบ้าน ฝรั่งเศส ทุบ อาร์เจนติน่า เกมอึดปวดประสาทของ โครเอเชีย เดนมาร์ก ต่างมีความน่าประทับใจต่างกันออกไป
หากนับเพียงเกมเดียวแล้วโดนใจที่สุด ขอเลือกเกมแรกที่บรรยายในรายการนี้นั่นคือ โปรตุเกส ซัด สเปน ผมเชื่อว่าเกมนี้คงมีหลายคนชอบใจ เหตุผลไม่ยากเลยด้วยความมันส์จากเกมที่เปิดแลก ความสวยงามในการครองบอลเปิดเกมเข้าทำตลอดเวลาของ สเปน
ระเบียบวินัย และหัวใจที่สู้ไม่ถอยของ โปรตุเกส กลับมาขอแบ่งแต้มจนได้ในช่วงท้าย
สิ่งที่ส่วนตัวประทับใจที่สุดนั่นคือมาตรฐานของเกมนี้ที่เต็มไปด้วยแทคติก และหัวจิตหัวใจของทั้ง 2 ทีมที่แสดงให้เราเห็นว่าฟุตบอลระดับโลกแท้จริงเขามีวิธีเล่นวิธีคิดอย่างไรภาพนอนถ่วงเวลาหาได้ยากมากเช่นกันกับการระเบิดอารมณ์วิ่งตรงเข้าใส่คู่แข่งหรือโจทก์อย่าง ผู้ตัดสิน
ไม่ต่างจากวิธีบอกตัวเองให้เชื่อมั่นจนตามมาซึ่งความสำเร็จ หรือที่ภาษาจิตวิทยากีฬาเรียกว่า Imagine technically ของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ในจังหวะที่กล้องซูมเข้าไปก่อนยิงฟรีคิกซัดแฮตทริกพาทีมกลับมาเสมอ 3-3 จากฟรีคิกบรรลือโลก ภาพที่ออกมาผมมั่นใจทันทีว่าลูกนี้ได้ลุ้นแน่ๆ และมั่นใจลึกๆว่ามันจะเข้า ด้วยความมุ่งมั่นที่ถ่ายทอดออกมาจากสายตา อากัปกริยาที่ออกมาบ่งบอกส่งสานส์ไปยังคู่แข่งแบบไม่เกรงใจ
“มึงโดนแน่”
และก็เป็นไปตามนั้น ฟรีคิกปลิดวิญญาณลอยข้ามกำแพงแล้วมุมลงตามที่ใจคิด
ตลอดการเล่น 90 นาทีได้เห็นศาสตร์ และศิลปะเกมรุกของ สเปน ปะทะกับจิตใจแกร่งของโปรตุเกส และความเหนือชั้นของ โรนัลโด้ แถมมาตั้งแต่นัดแรกของรอบแรก แถมเป็นเกมแรกที่ได้บรรยาย แน่นอนว่าไฟในตัวลุกโชนทันทีทั้งในการบรรยาย และสำคัญที่สุดในฐานะแฟนบอล ทั้ง 22 คนในสนามพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าฟุตบอลที่สนุกสวยงามยังมีอยู่จริงในโลก เช่นเดียวกับเกมหนักใส่กันยับแต่ยังอยู่ร่วมกันในกติกา
ฟุตบอลโลก ครั้งนี้สำหรับผม พิเศษขึ้นอีกหลายเท่าทวีหลังจบเสียงนกหวีดในเกมนั้น…
เกมชวน Skip
แน่นอนฟุตบอลทัวร์นาเมนต์แม้จะสั้นแค่ 64 เกมแต่มันต้องมีสักเกมที่เราอยากจะ กรอข้ามไปข้างหน้า(แก่ดีไหม) หรือถ้าสมัยนี้คงต้องบอก Skip ไป จากโอกาสดีได้รับหน้าที่บรรยายเกมฟุตบอลโลกครั้งนี้ มีเกมที่ประทับใจมากมายแต่ก็มีเกมที่ชวนหน่ายอยู่เหมือนกัน
เกมนั้นก็คือ ฝรั่งเศส แชมป์โลกลงส่งท้ายรอบแรกกับ เดนมาร์ก ในภาวะที่หากทั้งคู่ไม่แพ้ก็เข้ารอบร่วมกันสบายๆไม่จำเป็นต้องสร้างภาวะเสี่ยงทั้งผลการแข่งขัน หรืออาการบาดเจ็บที่ส่งผลต่ออนาคตในรอบต่อๆ ไป
ด้วยเกมในนัดสุดท้ายรอบแรกของกลุ่มที่ผ่าน ออกมาไฟแลบไม่ว่าทีมนั้นจะมีหรือไม่ลุ้นผลเลยหมายใจว่าเกมนี้ยังไงก็คงออกรสบ้างละ ทว่าผลที่ออกมาสาแก่ใจอีแป้นแท้ลุ้นอยู่ 20 นาที สุดท้ายเขี่ยกันไปมาไม่มีใครเดินไปข้างหน้าเสมอ 0-0 แบบไม่เกรงใจแฟนบอลในสนาม และการถ่ายทอดสด
โชคดีที่นี่คือเกมเดียวที่จบลง 0-0 ไม่อย่างนั้นความกร่อยคงมาเยือนบ่อยกว่านี้ ว่าไปแล้วเกมนี้อาจเข้าข่ายรอยด่างเดียวของแชมป์โลกฝรั่งเศส ทีเดียวสำหรับเกมนี้
Fair Rule Maybe Unfair Truth
สิ่งคาใจไม่แพ้กันในฟุตบอลโลกคนนี้นั่นคือ กติกาหาทีมเข้ารอบน็อคเอาท์ ที่เกิดมาจากเกมที่สูสีแต้มเท่ากัน ได้เสียเท่ากัน ยิงได้เท่ากัน สิ่งที่นำมาวัดในรายการนี้ก็คือ ค่า Fair Play
อ่านแล้วดูดีเนอะ แต่มันก็คือใครเสียใบเหลืองแดงน้อยกว่ากันชนะนั่นแหละ ไม่มีอะไรหรูเหรอหรือแฟร์ ยุติธรรม ที่ไหน ใช่ครับผมกำลังพูดถึงเกม ญี่ปุ่น กับ โปแลนด์ ใน 10 นาทีสุดท้าย ญี่ปุ่นที่ตามหลัง 0-1 เลือกที่จะไม่ส่งบอลขึ้นหน้าอีกต่อไปเพราะรู้ว่าแพ้สกอร์นี้เข้ารอบได้ เพราะพวกเขามีผลใบเหลืองแดงที่ดีพอจะเข้ารอบ
โปแลนด์ ที่ตกรอบไปตั้งแต่ 2 เกมแรกก็ไม่รู้จะวิ่งไล่เตะทำไม เพราะไม่มีผลแถมเกมนี้ก็ชนะอยู่แล้วภาพที่ออกมาเลยพะอืดพะอมทั้งคนเล่นคนบรรยายสุดท้ายเข้ารอบแบบไม่สง่างาม แต่ไม่มีทางใช้คำว่าแฟร์ต่อทีมอย่าง เซเนกัล หรือผู้ชมที่ไม่ใช่แฟนบอลญี่ปุ่นๆ แท้ๆ ได้ แต่ถ้าเปลี่ยนชื่อว่าเข้ารอบเพราะกฏ Less Card น่าจะดีกว่า
เรื่องนี้ถามว่าผิดไหมก็ไม่กลับกันถูกต้องตามกติกาทุกอย่างกระนั้นมันคงขัดต่อความรู้สึกไม่น้อยทีเดียว
(My) Best Moment
สุดยอดช่วงเวลาที่มีในฟุตบอลครั้งนี้ผมชอบที่สุดคือเกมรอบ 8 ทีม โครเอเชีย เฉือนเจ้าภาพ รัสเซีย ไปถึงขั้นฏีกา แตกเอาชนะดวลจุดโทษได้สำเร็จ ตลอดทั้งเกมมันเหมือนคนโรคจิตเดินหน้าใส่กันไม่ยั้งทั้งทีมนำทีมตามหมายประกัตถ์ประหารให้ด้ายดิ้นด้วยผลแพ้ชนะไม่มีท่าทีอิดออดร้องขอความได้เปรียบที่ไม่สง่างามแต่อย่างใด
หากประวิงเวลานั่นคือช่วงเซตบอลขวางสนามไม่มีนอนรอร้องโอดโอยเกินความจำเป็นแถมเร่งออกบอลเสมอ
ไคลแม็กซ์ในเกมนั้นผมประทับใจที่สุดคือช่วงที่ โครแอต พิการ ขึ้นนำเจ้าบ้าน 2-1 ช่วงต่อเวลาพิเศษ
ภาพที่ตามมาคือคนรัสเซีย แฟนบออลหรือแม้แต่นักเตะทีมงานสตาฟโค้ชช็อก และยืนนิ่งกันหมด ในสนามช่างเงียบกริบผู้ชมในสนามเริ่มร่ำไห้เช่นกันกับนักเตะหลายๆ คนที่ยังเงยหน้าไม่ขึ้นเพราะหนักอึ้งไปด้วยความผิดหวังเพราะความจริงที่ว่าเทพนิยายฉบับเคลือบว็อดกากำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว
ทว่าสถานการณ์ต้องการฮีโร่ ต้องการผู้นำเพื่อเปลี่ยนบรรยกาศและเขาคนนั้นก็คือ สตานิสลาฟ เชอร์ชาซอฟ เฮดโค้ชเจ้าบ้าน แม้จะได้ยินเต็มสองหูว่าเขาพูดอะไรแต่ความไม่กระดิกภาษารัสเซียเลยไม่เข้าใจนักแต่เชื่อว่ามันไม่ใช่ประโยคสุภาพแบบไม่เป็นไรครับ เอาหน่อย แน่ๆ
หากให้เดามันน่าจะ เป็นห่าอะไร ลุกสิวะ ยังไม่แพ้ ลุกเร็วเข้า พวกมึงทำได้เห็นไหนคนทั้งประเทศยังเชียร์เราอยู่ ลุกเร็วๆ
ทันใดนั้นเขาหันไปหาคนดูในสนามพร้อมยกมือปลุกระดมขอเสียงหน่อยแล้วชี้ไปที่ลูกทีมในสนามของเขาที่อิดโรยทั้งร่างกายแ ละจิตใจเต็มที่ ราวกับว่าพวกเขาไม่มีอาวุธใดจะทำร้ายหรือกลับเข้าเกมเพื่อยิงโครเอเชียอีกแล้วนอกจากเสียงเชียร์
แปลกที่มันได้ผลคนดูทั้งสนามได้สติต่างโห่ร้องบ้างกรี้ด บ้างตะโกนไม่เป็นภาษา รู้แต่ว่าเสียงในสนามผ่านหูฟังเข้าหูผมมันดังมากก่อนที่เริ่มครึ่งหลังของช่วงต่อเวลาพิเศษ จะมีต้นเสียงตะโกน รัส-เซีย-ย่า (รัสเซียนั่นแหละแต่ออกสำเนียงบ้านเขา) ดังเป็นจังหวะจะโคน นักเตะรัสเซียที่หมดสภาพแปลงกายราวหนุมานใกล้ตายแต่ได้พระพายพัดปลุกชีพไม่ผิดเพี้ยน
ผมนึกไปถึงฉากคลาสสิกของตำนานการ์ตูนญี่ปุ่นอย่าง ดราก้อนบอล ฉากที่หงอคง ใช้พลังหมัดอะไรสักอย่างที่ต้องรวบรวมพลังจากสิ่งมีชีวิตทั้งโลกเพื่อปราบจอมมารบูตัวร้าย ทีแรกใช้พลังแต่คนรู้จักในที่นี้ก็คงเพื่อนร่วมทีมในสนามแต่มันไม่พอ แม้เพื่อนๆ ของหงอคง จะช่วยบิ้วเต็มที่ แต่จอมมารบู (โครเอเชีย) เก่งเกินกว่าคนกลุ่มเล็กจะปราบไหว ต้องอาศัย มร.ซาตาน ฮีโร่ของโลก (สตานิสลาฟ เชอร์ชาซอฟ) ปลุกระดมจึงสำเร็จ
วินาทีถือเป็นภาพและเสียงที่เกินบรรยายผมยอมรับว่าปากสั่น หายใจไม่ทั่วท้องน้ำตารื้นไปพร้อมๆกับเกมจนสารภาพว่าในใจผมอยากให้มันไปวัดกันที่จุดโทษเพราะสิ่งที่เกิดขึ้น รัสเซีย แพ้ไม่ได้จริงๆ แล้วก็อย่างที่ทราบเกมนั้นจบที่ ดวลจุดโทษสมใจ
จบเกมช่วงเดินกลับบ้านกับคู่หู (ธีรยุทธ บัญหนองสา) เราคุยกันเล่นๆ เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีคิวบรรยายในฟุตบอลโลกอีกไหม แต่คิดเหมือนกันว่าหากส่วนร่วมในฟุตบอลโลกจบลงตรงนั้น ก็ไม่เป็นไรเพราะเราได้สัมผัสโมเมนต์ที่ดีที่สุดอีกครั้งในชีวิตผู้บรรยายแล้ว
นี่คือความทรงจำของผม แล้วคุณหล่ะครับจำฟุตบอลโลกครั้งนี้แบบไหน ?
“ต็อกตั้ม พรรษิษฐ์”
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/2HtYS2N
ดูสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี คลิก >>http://bit.ly/TrueIDSportsLive
LINE |
TrueID Application |