นาวิน ต้าร์ บอกเล่าประสบการณ์ ไตรกีฬาสุดหฤโหด ที่ไม่ควรพลาด!!

วันนี้ ดารานักแสดงหนุ่ม หุ่นนักกีฬา  “นาวิน ตาร์”   ขอโอกาสมาบอกเล่าเรื่องราว ผ่าน อินสตราแกรม จาก  งาน Tri league series AMA amarin outdoor unlimited inter Triathlon ปีนี้ ในมุมมองของเค้ากันครับ กันครับ…

ปีนี้เป็นปีที่สองแล้วสำหรับการจัดการแข่งขันไตรกีฬาที่ชะอำ และเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย  เราจะมีการจัดลำดับนักไตรกีฬาไทยในลักษณะลีค ซึ่งงานนี้เป็นงานที่นับคะแนนเป็นงานแรกของปีครับ การแข่งขันครั้งนี้มีผู้ร่วมแข่งขันกว่า 800 คน เป็นโปร 14 คน ผมเข้าร่วมในกลุ่มมือสมัครเล่นครับ พวกเราถูกปล่อยตัวเป็นกลุ่มที่  2 ใน 15 นาที หลังจากพวกโปร ตอนนี้แหละครับ ที่ทำสมาธิ ลำบากมาก เพราะคนเยอะ ทักกันไป ทักกันมา คุยกันไม่หยุด  ผมละอยากจะออกไปกลางทะเล ซะตอนนี้ แต่ในขณะที่กำลังรอเสียงนกหวีด มันก็หวั่นๆ เหมือนกันครับ เพราะว่า คลื่นลมแรง และ มีคนบอกว่า แมงกระพรุนเยอะมากๆ!!

ขึ้นมาจากน้ำแล้วครับ! มารู้เอาภายหลังว่านักกีฬาจำนวนมากโดนพิษแมงกระพรุนเข้าไปกันเพียบ แต่ผมโชคช่วย ไม่เห็นซักตัวเลย การแข่งคราวนี้ถือว่าว่ายดีครับ ว่ายดีของผมคือมันไม่แย่มากเหมือนเมื่อก่อนนะ ระยะทาง 1.5 km ใช้เวลาไป 28:20 นาที ถือเป็น pace 1:53/100m ความจริงน่าจะทำได้ดีกว่านี้ถ้าไม่ได้ว่ายเลยทุ่นไปประมาณ 10 กว่าเมตร แต่ก็พอใจกับผลครับ

วิ่งๆไปก็เปลี่ยนเสื้อไป ตอนนี้ต้องลอกคราบออกจากชุดว่ายมาเป็นชุดปั่นวิ่ง ไตรกีฬาก็เป็นแบบนี้ครับ ต้องใช้เวลาช่วงจุดเปลี่ยนให้ดี เพราะนั่นมันอาจจะเป็นความแตกต่างระหว่างแพ้หรือชนะ ผมนี่ยิ่งเป็นประเภทอ้อยอิ่ง ทากันแดด เสริมความงามระหว่างแข่งอยู่ด้วย ที่ผ่านมาผมเคยใช้เวลาที่ transition ไปกว่า 3 นาที แต่ครั้งนี้ปรับปรุงตัวแล้ว! เป็นครั้งแรกจริงๆครับที่ทำเวลาได้เร็วมากๆ จากว่ายน้ำที่ใช้เวลา แค่ 29 นาทีไปเป็นปั่นจักรยานโลดดด!!!  มาปั่นจักรยานแล้ว ผมออกจากจุด transition มาเป็นกลุ่มกลางๆ นับเป็นที่ 12 ของกลุ่มอายุครับ เส้นทางการปั่นจักรยานที่นี่เป็นทางยาวๆตรงๆ ง่ายๆ ขอแค่ใช้แรงตามที่ฝึกมาก็พอ ปัญหาสำคัญของการแข่งครั้งนี้คือการดราฟกัน ซึ่งการแข่งคราวนี้ไม่อนุญาติให้ดราฟหรือปั่นดูดกันเป็นแถวๆครับ

แต่เนื่องจากผู้ร่วมแข่งเยอะ ทางสั้น คนทั่วไปไม่ทำตามกฎเคร่งครัด และไม่มีกรรมการมาคอยคิดตามใกล้ชิด ก็เลยเกิดปัญหานี้เยอะครับ จริงๆแล้วเราน่าจะดูกันที่เจตนามากกว่า ท้ายสุดผมเชื่อว่าทุกคนซ้อมมาหนัก เป้าหมายที่เรามีก็คือการเอาชนะตนเอง การทำผิดกติกาคือการที่เรารู้กับใจเราว่าเรายอมแพ้ใจของตัวเองซะแล้วครับ! ระยะทาง 42.8km ผมใช้เวลาไป 1:08:23 ชม. ผมซ้อมปั่นมาเยอะและถือเป็นกีฬาถนัดที่หวังผล. ก็กะมาว่าจะซัดให้หนักตอนปั่นนี่หละ วันนี้ถือว่าปั่นได้ดีครับ แถมยังเก็บแรงเหลือไว้ใช้วิ่งได้อีก ตอนนี้อันดับเริ่มขึ้นเพราะแซงมาหลายคนจนกลายเป็นที่ 6 ในกลุ่มอายุครับ เป้าหมายของผมคือ ว่ายให้โอเค ปั่นให้ทรงดีๆ และจะปล่อยทุกอย่างที่มีตอนวิ่งนี่หละครับ เข้าสู่ทรานซิชั่นเพื่อเปลี่ยนรองเท้าวิ่งต่อ ตอนนี้แดดเริ่มร้อนแล้ว

“ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเหลือแรงเอาไว้หลังจากแข่งจบ” ผมนึกในใจ ในทั้งสามกีฬา การวิ่งนี่หละที่ผมจะทำได้ดีที่สุด ผมจะแซงที่เหลือให้หมด จะได้ขึ้นไปอยู่บนโพเดี้ยม ผมคิดว่าผมจะวิ่งให้ขามันขยับไม่ออกไปเลยในตอนที่ข้าม เส้นชัยไปพอดี เราซ้อมมาเยอะและซ้อมมาพอ ตั้งสองปีที่ผมพยายามวิ่งระยะ 10 km ให้กะแรงได้พอดีๆ

วันนี้นับเป็นวันนี้ผมวิ่งไตรได้ดีที่สุดเท่าที่เคยทำมาทั้งหมดครับ ผมได้ก้าวข้ามข้ามขีดจำกัดเก่า โดยผ่าน กม.ที่ 10 ในระยะเวลา 44 นาที เข้าสู่กิโลสุดท้ายที่เหลือ อีกประมาณ 800 เมตร ดูหน้าผมตอนนี้ ถ้าจะหายใจทางผิวหนังก็ทำไปแล้ว

การสปริ้นท์ช่วง 800 เมตรสุดท้าย ผมเพิ่งมารู้ที่หลังว่าผู้ชายฝรั่งคนข้างหลังในรูปที่เห็น ซึ่งเป็นคนที่ผมไล่ตามก้นเค้ามาตลอดและสุดท้ายก็แซงมาได้ในวินาทีที่ภาพนี้จับได้  เค้าคือคนสุดท้ายที่ผมจะต้องแซง ตอนนี้ผมกำลังวิ่งนำมาในอับดับที่ 1 แล้ว ผมรู้ว่าแรงตกเมื่อไหร่จะโดนเอาตำแหน่งนี้กลับคืนทันที ตอนนี้งัดทุกอย่างเอามาใช้ให้หมด เพราะร่างกายเริ่มไม่ขยับอย่างใจเราคิด ในใจผมคิดแต่ว่าความเหนื่อยทุกอย่างมันก็แค่ร่างกาย แต่ใจผมไม่เหนื่อย ไม่เหนื่อย ไม่เหนื่อยเด็ดขาด ขอแรงอีกนิดเดียวทุกอย่างจะจบแล้ว เราพยายามมาตั้งเยอะแล้ว ถ้าทำแค่นี้ไม่ได้ก็หยุดวิ่งซะเถอะ อย่าทำมันเลยถ้าเราจะอยู่ได้แค่ครึ่งๆกลางๆ ตอนนี้ทั้งโกยทั้งสับทั้งหวดครับ

หลังจากวิ่งจูงจักรยานเข้าไปในจุดเปลี่ยน ต้องใช้ความไวในการใส่ถุงเท้ารองเท้า เรื่องถุงเท้านี่สำคัญมากครับผมเคยลืมใส่ แล้วต้องวิ่งแบบเลือดไหลจะแผลเสียดสีตลอดทาง เท้าบางคนอาจจะไม่ต้องพึ่งพาถุงเท้า แต่เท้าอันนี้ต้องเสียเวลาใส่ถุงเท้าประมาณ 30 วินาที แต่คราวนี้กลับทำได้ดีอีกครับ ผมรู้สึกว่าจะแซงมาได้อีก 2 คนในตอนแต่งตัว เริ่มออกตัววิ่ง กลายมาเป็นอันดับ 4 ในกลุ่มแล้ว! เหลือทางอีก 10.8 กิโล จะต้องใช้เวลาไม่ถึง 50 นาที ถึงเวลาระเบิดแรงที่เหลืออยู่ทั้งหมด…

เวลาที่คุณได้ทำอะไรอย่างเต็มที่แล้ว ต่อให้ผลจะดีหรือร้าย จะไม่มีใครสามารถทำให้คุณบิดพริ้วจากความจริงที่ว่า นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ดีที่สุดที่คุณควรจะได้รับ วันนี้ผมโชคดีครับ ที่เข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่งของ Age Group 35-39 ดีใจและภูมิใจมากครับ สรุปเวลา 1500m/ 28:20 mins  42.8km/1:08:23 hr 10.8km 47:42 mins รวมใช้เวลาทั้งหมด 2:26:40 hrs (นาฬิกาในภาพเริ่มจับตอนปล่อยตัวโปรซึ่งผมออกตัวหลังจากนั้น 13-14 นาที)

และนี่คือเรื่องราวบางส่วน ที่น่าประทับใจ จากประสบการณ์เข้าร่วมการแข่งขันไตรกีฬา ที่หลายคนคิดเสมอว่า สักวัน จะต้องทำเหมือนอย่างที่ หนุ่ม “นาวิน ตาร์” ได้บอกเล่ากับเรามา เช่นกัน!!

ขอขอบคุณ ภาพประกอบ และ ข้อมูลจาก
อินสตราแกรม นาวิน ตาร์  / @navintar
วันที่ 17 มี.ค.2558 เวลา 14.00น.