7 วิธีแก้ไอ กินอะไรแก้ไอ คันคอ ด้วยวิธีธรรมชาติ
ไม่สบายทีไร ถ้าไอด้วยคือทรมานสุดๆ! เรามี 7 วิธีแก้ไอ ด้วยวิธีธรรมชาติ มาให้แล้ว! กินอะไรแก้ไอ คันคอ ไอมีเสมหะ ไอแห้ง หรือไอกลางคืน มาดูรายละเอียดและนำไปทำตามกันได้เลย!
ส่วนลดพิเศษ! เมื่อปรึกษาแพทย์รพ.พระรามเก้า ผ่านระบบ VDO Call
ใช้ได้ถึง 31 ธ.ค. 2566
1.วิธีแก้ไอ ด้วยผักชีลาว
คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของผักชีลาวคือ น้ำมันหอมระเหย ที่มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียและยังช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โดยเอนไซม์ที่ชี่อว่า Glutathione-S-Transferase จะช่วยยึดจับโมเลกุลของกลูตาไธโอนเข้ากับโมเลกุลที่ก่ออนุมูลอิสระ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อร่างกาย และทำให้กลายเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแทน
วิธีใช้ผักชีลาวแก้อาการไอที่ได้ผลดีที่สุดคือ การเคี้ยวผักชีลาวสดๆ (อย่าลืมล้างให้สะอาดก่อน) เพราะการเคี้ยวสดจะทำให้ได้รับประโยชน์จากน้ำมันหอมระเหยอย่างเต็มที่ และการไม่ผ่านความร้อนก็ยังทำให้ได้รับคุณค่าวิตามินซีในผักชีลาวแบบเต็มๆ อีกด้วย
2.วิธีแก้ไอ ด้วยมะนาว (ทั้งเนื้อและเปลือก)
มะนาวมีกรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดซิตริก กรดมาลิค วิตามินซี และส่วนของน้ำมันหอมระเหยจากผิวมะนาว ยังมีวิตามินเอ และซี รวมถึงแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในน้ำมะนาวอีกด้วย
นอกจากมะนาวจะมีวิตามินซีสูงแล้ว กากสีขาวในเนื้อและเปลือกยังมี ไบโอฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงและควบคุมการดูดซึมสารต่างๆ ผ่านผนังเส้นเลือดได้ดีขึ้น โดยนักโภชนาการแนะนำว่า เราควรได้รับวิตามินซีและไบโอฟลาโวนอยด์ควบคู่กันในอัตราส่วน 5:1 เช่น หากทานวิตามินซี 500 มิลลิกรัม ก็ควรทานไบโอฟลาโวนอยด์ 100 มิลลิกรัม เป็นต้น เพราะจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของวิตามินซีให้ดีขึ้น และป้องกันไม่ให้วิตามินซีถูกทำลายจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
วิธีแก้ไอด้วยมะนาวที่ได้ผลดีมากก็คือ การทานทั้งเนื้อและเปลือกแบบสดๆ แนะนำให้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้ทานง่ายขึ้น หรือโรยน้ำผึ้งเล็กน้อยก็จะช่วยเพิ่มรสชาติ และทำให้ชุ่มคอยิ่งขึ้น
3. วิธีแก้ไอ ด้วยน้ำผึ้ง
น้ำผึ้งเป็นยาระงับอาการไอตามธรรมชาติที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลในเด็กและผู้ใหญ่ สามารถนำไปชงดื่มเองหรือเติมลงในชาหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ได้หลากหลาย จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Pediatrics พบว่าน้ำผึ้งมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Dextromethorphan (เดกซ์โทรเมทอร์แฟน) ซึ่งเป็นยาระงับอาการไอที่จำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป น้ำผึ้งจึงเป็นยาที่ใช้กันมายาวนานนับพันปี
วิธีใช้น้ำผึ้งเพื่อรักษาอาการไอ:
- รับประทานน้ำผึ้ง 1 ช้อนชาก่อนนอน
- เติมน้ำผึ้งลงในชาหรือน้ำอุ่น
- ผสมน้ำผึ้งกับน้ำมะนาว
- ทำยาแก้ไอน้ำผึ้ง ผสมน้ำผึ้ง 1 ถ้วยกับน้ำ 1/2 ถ้วยและน้ำมะนาว 1/4 ถ้วย อุ่นส่วนผสมจนน้ำผึ้งละลายเข้ากับน้ำมะนาวดีแล้ว ปล่อยให้ส่วนผสมเย็นสนิท และเก็บไว้ในภาชนะที่ปิดสนิทในตู้เย็น ก็นำมาทานเป็นยาแก้ไอได้ โดยใช้ยาแก้ไอ 1 ช้อนโต๊ะทุก 4 ชั่วโมงตามต้องการ
*สิ่งสำคัญคือ ไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปีทานน้ำผึ้ง เนื่องจากอาจเสี่ยงต่อโรคโบทูลิซึมได้
4. วิธีแก้ไอ ด้วยการใช้น้ำเกลือกลั้วคอ
การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือสามารถช่วยละลายเสมหะและบรรเทาอาการเจ็บคอได้ ทำให้รู้สึกทรมานจากอาการไอน้อยลง และอาจช่วยให้ไอลดลงได้
วิธีแก้ไอด้วยเกลือ ทำได้ง่ายมาก เพียงผสมเกลือ 1/2 ช้อนชากับน้ำอุ่น 8 ออนซ์ บ้วนปากและกลั้วลำคอต่อเนื่องเป็นเวลา 30 วินาทีแล้วบ้วนทิ้ง และสามารถทำได้มากกว่า 1 ครั้งต่อวัน
5. วิธีแก้ไอ ด้วยน้ำอุ่น
การดื่มน้ำอุ่น เช่น ชา ซุป หรือน้ำผสมน้ำมะนาวอุ่นๆ สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอและเสมหะได้ แต่ไม่ควรอุ่นจัดเกินไปเพราะจะทำให้ระคายเคืองลำคอแทน นอกจากนี้การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยให้คุณหายไว ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นด้วย
ทั้งนี้ไม่ควรเลือกเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะนอกจากจะขับน้ำแล้วยังอาจทำให้ระคายคอมากขึ้นกว่าเดิมได้
6. วิธีแก้ไอ ด้วยการเพิ่มความชื้นในอากาศ
การทำให้อากาศชื้นขึ้นสามารถช่วยให้เสมหะคลายตัวและลดอาการไอได้ในระดับหนึ่ง คุณสามารถใช้เครื่องทำความชื้น อาบน้ำอุ่น หรือต้มน้ำในหม้อแล้วสูดไอน้ำก็ได้เช่นกัน โดยลองสังเกตอาการตัวเองร่วมด้วยว่ารู้สึกดีขึ้นหรือไม่ หากไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์เพราะอาการไอเกิดได้จากหลายสาเหตุ และบางสาเหตุก็อาจไม่เหมาะกับวิธีนี้
7. วิธีแก้ไอ ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณแข็งแรงและฟื้นตัวไวขึ้น เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว ผัก และธัญพืช ซึ่งมีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย รวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารทอดๆ มันๆ และอาหารรสจัด ซึ่งจะทำให้ไอมากขึ้นกว่าเดิม คลิกดูเพิ่มเติม เป็นหวัดกินอะไรหาย จัดไป! อาหารแก้หวัด ลดน้ำมูก ดื่มอะไรแก้หวัด ให้หายหวัดแบบเร่งด่วน
และข้อสุดท้ายก็คือ การพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญสุดๆ ที่จะช่วยให้คุณหายจากอาการไอได้เร็วขึ้น แต่ถ้าหากทำตามวิธีด้านบนแล้วอาการไอของคุณยังรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ก็ควรไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจมีโรคประจำตัวที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเฉพาะเจาะจง หรือใช้ยาอื่นๆ ร่วมด้วยนั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง
- 7 อาหารสุขภาพ กินแล้วสุขภาพดี ลดน้ำหนัก แถมหน้าเด็ก! สำหรับผู้ชาย 2023
- 20 เมนูเครื่องดื่ม แคลน้อย ดื่มอะไรแล้วไม่อ้วน ที่ผู้ชายลดน้ำหนักต้องเลือก!
- 5 โรคที่ผู้ชายเป็นบ่อย รู้ก่อนเป็น ช่วยลดเสี่ยง!
-------------------------------------------------
วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!
รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่
อัพเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก
หรือ อัพเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก