ทิ้งญี่ปุ่นไม่เห็นฝุ่น! “จุฑาธิป” ผงาดแชมป์สเตจ 1 ทัวร์ตราด - ลั่นอยากพาเพื่อนไปโอลิมปิกอีก 2 คน
“บีซ” ไม่ทำให้กองเชียร์ชาวไทยผิดหวัง หลังผงาดเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ในศึกสองล้อทางไกล “ทัวร์ ออฟ ตราด” สเตจที่ 1 โดยชนะ “ยูมิ คาจิฮาร่า” คู่ปรับคนสำคัญจากญี่ปุ่น ขาดลอยถึง 3 ช่วงรถ พร้อมเหมาเสื้อมาครองคนเดียวทั้ง 3 ตัว เผยอยากเก็บแต้มพาเพื่อนร่วมทีมไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ให้ได้เป็น 3 คน ด้าน “เสธ.หมึก” มั่นใจนักปั่นไทยทำได้ไม่พลาดเป้า
การแข่งขันจักรยานทางไกลสตรีนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ตราด 2019” ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี ระดับ “ยูซีไอ 2.1” เมื่อวันที่ 24 พ.ค. เป็นการแข่งขันประเภทสเตจเรซ ในสเตจที่ 1 เส้นทางจากหน้าศาลากลางจังหวัดตราด ไปบ้านแหลมกลัด แล้วกลับมาเข้าเส้นชัยที่ศาลากลางจังหวัดตราด ระยะทาง 83.5 กิโลเมตร
สำหรับพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เป็นประธานร่วมกับ “เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายวิเชียร ทรัพย์เจริญ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด
โดยประธานได้เปิดกรวยถวายเครื่องราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นผู้นำในการลงสนามถวายพระพรชัยมงคล พร้อมร้องเพลงสดุดีจอมราชา ในการนี้ พล.อ.เดชา ได้มอบจักรยานจำนวน 50 คัน ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อไปมอบต่อให้แก่เด็กนักเรียน ที่มีบ้านอยู่ห่างไกลต้องเดินมาเรียน ก่อนจะร่วมกันปล่อยตัวนักกีฬาจากจุดสตาร์ต
หลังจากปล่อยตัวนักปั่นต่างเกาะกลุ่มใหญ่กันไปจนผ่านไป 26 นาที ประมาณ กม.ที่ 20 อภิญญา เทียงแก้ว จากทีมชาติไทย โดนคู่แข่งทีมอื่นเบียดแล้วเกี่ยวแฮนด์จนเสียหลักไปชนกับ แอนนา อิวาโมโตะ จากทีมชาติญี่ปุ่น ล้มกลิ้งไปด้วยกัน แล้วทำให้ พรพิศชาณ์ ฆ้องนอก และ ธนัญญา ใจช่วง จากทีมโรยัล สกาย ล้มไปด้วย นอกจากนี้ ยู ซอน ฮา นักปั่นทีมชาติเกาหลีใต้, เคท โบนเนอร์ จากเวโลฟิต ออสเตรเลีย และ “แพร” เพรดารินทร์ สมราช จากไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม มาชนซ้ำอีก แต่ยังดีที่เบรกทัน ไม่ได้ล้มลงกับพื้น แต่ก็ทำให้เสียเวลาไปมาก
อย่างไรก็ตาม เพชรดารินทร์ ก็ไม่ท้อ ยังปั่นตามมาจนไล่กลุ่มใหญ่ทัน รวมทั้งนักปั่นคนอื่น ๆ ด้วย
ช่วงการชิง “เจ้าความเร็ว” หรือ IS จุดที่ 1 “บีซ” จุฑาธิป มณีพันธุ์ นักปั่นสาวไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม พยายามสปรินต์เพื่อแย่งชิงอันดับกับ ยูมิ คาจิฮาร่า นักปั่นทีมชาติญี่ปุ่น แต่ปรากฏว่า คาจิฮาร่า เฉือนชนะไปอย่างหวุดหวิด โดย “บีซ” เข้าอันดับที่ 2 รวมทั้งใน IS2 คาจิฮาร่า ยังไม่พลาดเก็บคะแนนด้วยการเข้าที่ 1 อีกครั้ง ตามด้วย จุฑาธิป ซึ่งเข้าอันดับ 3
หลังจากนั้นก็มีการกระชากหนีกันเป็นระยะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า ๆ ลี ยูมิ นักปั่นเกาหลีใต้, เคอิ ฟูรูยาม่า นักปั่นญี่ปุ่น, จียูเนล เมคห์เตียวา นักปั่นรัสเซีย และ “แพร” เพชรดารินทร์ เร่งเครื่องกระชากหนีกลุ่มใหญ่ออกไป ทำเวลาห่าง 30-45 วินาที แต่ก็ค่อย ๆ ผ่อนลงมา สุดท้ายโดนกลุ่มใหญ่ไล่ทัน และโดนรวบไปในที่สุด
เข้าสู่ช่วง 5 กม.สุดท้าย นักปั่นไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม และทีมชาติไทย ยึดตำแหน่งหัวแถวของกลุ่มเพื่อกันไม่ให้คู่แข่งทีมอื่นแซงขึ้นมาได้ จนก่อนถึงโค้งสุดท้าย จุฑาธิป เบียดคู่มากับ คาจิฮาร่า และนักปั่นญี่ปุ่นอีก 1 คน แต่พอเข้าโค้งซ้าย จุฑาธิป ฉลาดกว่าด้วยการแย่งเสียบเข้าโค้งใน และเมื่อเข้าสู่ทางตรง 200 เมตร จุฑาธิป สปรินต์สุดแรงเกิด ทะยานเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก โดยทิ้งห่าง คาจิฮาร่า ถึง 3 ช่วงรถทีเดียว
สรุปผลการแข่งขัน แชมป์สเตจที่ 1 “บีซ” จุฑาธิป มณีพันธุ์, ที่ 2 ยูมิ คาจิฮาร่า (ทีมชาติญี่ปุ่น), ที่ 3 คิม ฮุน จิ (ทีมชาติเกาหลีใต้) เวลา 1.57.50 ชั่วโมง เท่ากัน แต่มีคะแนนและแต้มโบนัสต่างกัน และตำแหน่งผู้นำเวลารวม ตกเป็นของ จุฑาธิป ได้รับ “เสื้อเหลือง” ไปครอง พร้อมเงินรางวัลพิเศษจากสมาคมกีฬาจักรยานฯ จำนวน 20,000 บาท, ที่ 2 ยูมิ คาจิฮาร่า และ ที่ 3 คิม ฮุน จิ
ผู้ชนะเลิศอาเซียน ประจำสเตจที่ 1 “บีซ” จุฑาธิป, ที่ 2 “ไก่” ศุกภักษร นันตะนะ (ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม), ที่ 3 ไออุสติน่า เดเลีย พริแอตนา (ทีมชาติอินโดนีเซีย) ทำให้ จุฑาธิป ได้รับ “เสื้อฟ้า” ไปครองอีกตัว ขณะที่รางวัลนักบู๊ประจำสเตจที่ 1 ได้แก่ ลี ยูมิ นักปั่นเกาหลีใต้
รางวัลเจ้าความเร็ว IS1 อันดับ 1 ยูมิ คาจิฮาร่า (ทีมชาติญี่ปุ่น), อันดับ 2 “บีซ” จุฑาธิป, อันดับ 3 ไดอาน่า คลีโมว่า (ทีมชาติรัสเซีย), รางวัลเจ้าความเร็ว IS2 อันดับ 1 ยูมิ คาจิฮาร่า, อันดับ 2 จุฑาธิป, อันดับ 3 ฮุง คยุง คัง (ทีมชาติเกาหลีใต้)
อย่างไรก็ตาม ผู้นำคะแนนรวมเจ้าความเร็วก็ตกเป็นของ “บีซ” ได้รับ “เสื้อเขียว” ไปครองอีก 1 ตัว สรุปว่าในสเตจที่ 1 นี้ “บีซ” จุฑาธิป เหมาเสื้อไปคนเดียวทั้ง 3 ตัว คือ เสื้อเหลือง, เสื้อฟ้า, เสื้อเขียว พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท
ด้านแชมป์ประเภททีมประจำสเตจที่ 1 อันดับ 1 เป็นของ ทีมชาติเกาหลีใต้, อันดับ 2 ทีมชาติญี่ปุ่น, อันดับ 3 ทีมชาติรัสเซีย เวลาเท่ากันที่ 5.53.30 ชั่วโมง อีกทั้ง 3 ทีมยังยึงตำแหน่งทีมนำเวลารวมโดยเรียงกันไปตามลำดับ
ส่วนประเภททีมอาเซียนประจำสเตจที่ 1 อันดับ 1 เป็นของ ไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม, อันดับ 2 ทีมชาติอินโดนีเซีย, อันดับ 3 ทีมชาติไทย และทั้ง 3 ทีมก็รั้งตำแหน่งทีมนำเวลารวมอาเซียน เรียงไปตามลำดับ ด้วยเวลาที่เท่ากันคือ 5.53.30 ชั่วโมง
หลังการแข่งขัน พล.อ.เดชา กล่าวว่า นักกีฬาจักรยานของเราซ้อมมาดีมาก ต้องขอขอบคุณทีมงานทุกคน โดยเฉพาะนักปั่นไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม และทีมชาติไทย ที่ช่วยกันทำงานเป็นทีมจนประสบความสำเร็จ พอเห็น จุฑาธิป เข้าเส้ยชัยเป็นอันดับ 1 ก็ใจชื้นขึ้นเยอะ การแข่งขัน 2 วันที่เหลือ เราจะต้องเก็บแต้มให้ได้ทั้งหมด เพื่อคว้าโควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 2 คน ตามเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้นักกีฬาของเราก็ยังต้องเดินสายเก็บแต้มต่อไปให้ได้มากที่สุด รายการใหญ่ครั้งต่อไปจะมีขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย ราวเดือน ก.ย. เราก็ต้องไปแข่งขัน รวมทั้งในระดับ 2.2 ด้วย
“ใน 2 วันที่เหลือ ต้องระวังคู่แข่งจากเกาหลีใต้ให้ดี เพราะเขายิงหนีตลอด ส่วนญี่ปุ่นก็น่ากลัว ต้องให้สตาฟฟ์โค้ชไปวางแผนว่าจะแก้ไขและสู้เขายังไง ตอนนี้ผมได้กำชับนักกีฬาไว้ 2 อย่าง คือ 1.ต้องรักษาสุขภาพ อย่าให้เจ็บไข้ได้ป่วย 2.ต้องแพ็คทีมช่วยกันเพื่อเก็บคะแนนให้ได้ทั้ง 2 ประเภท คือ สเตจเรซ และ วันเดย์เรซ หากทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย ก็มั่นใจว่านักกีฬาไทยได้โควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2 คนแน่นอน” พล.อ.เดชา กล่าว
“วันนี้รูปเกมดุเดือดมาก นักปั่นเกาหลีใต้ยิงหนีตลอด ต้องชื่นชมทุกคนทำหน้าที่ได้ดี หน้าที่ใครหน้าที่มัน และร่วมมือร่วมใจกันแพ็คทีมช่วงสปรินต์เข้าเส้นชัย ไม่ปล่อยให้ใครหนีออกมาได้”
“ทุกแต้มที่ได้ไม่ใช่มาจาก จุฑาธิป คนเดียว แต่มจากทุกคน ทั้งไทยแลนด์ วีเมนส์ ไซคลิง ทีม และ ทีมชาติไทย แต่ก็ยอมรับว่าวันนี้เหนื่อยมาก พวกเราเหนื่อยกันมานานตั้งแต่ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ ต่อด้วย ทัวร์ ออฟ จงหมิง ไอส์แลนด์ และมาทัวร์ ออฟ ตราด ยังไม่เคยได้หยุดพักเลยสักวัน ซ้อมหนักกันตลอด เพื่อเป้าหมายไปโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งตนอยากให้เพื่อร่วมทีมไปด้วยกัน ไม่ใช่ไปคนเดียว ในใจลึก ๆ อยากคว้าโควต้าให้ได้ถึง 3 คน” จุฑาธิป ทิ้งท้าย
ช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดทาง TrueID
ดูบอลสดผ่านแอปพลิเคชั่น ทรูไอดี คลิก!
ดูบอลสดผ่านเว็บไซต์ ทรูไอดี ฟรี คลิก!
ติดตามข่าวสารกีฬาได้ที่ TrueID App หรือร่วมพูดคุยกันผ่านทาง Line @TrueID ร่วมไปถึงแฟนเพจ TrueID Sports