รีเซต
ผู้ชายลดน้ำหนัก 3 เดือน ลดยังไงให้หุ่นเฟิร์ม และปลอดภัย

ผู้ชายลดน้ำหนัก 3 เดือน ลดยังไงให้หุ่นเฟิร์ม และปลอดภัย

ผู้ชายลดน้ำหนัก 3 เดือน ลดยังไงให้หุ่นเฟิร์ม และปลอดภัย
SportTrendy
18 พฤษภาคม 2566 ( 18:08 )
4.4K

     ผู้ชายลดน้ำหนัก 3 เดือน ลดได้กี่กิโล? ลดยังไงให้หุ่นเฟิร์ม และปลอดภัย สร้างความมั่นใจ สร้างภาพลักษณ์ และลดความเสี่ยงจากโรคอ้วน การลดน้ำหนักถ้าไม่มีความตั้งใจลดจริงๆ มันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องมีวินัยทั้งเรื่องการออกกำลังกาย การใช้ชีวิต และการควบคุมอาหาร ทำให้หลายๆ คนท้อไปตามๆ กัน แต่ถ้าเรารู้เคล็ดลับ การลดน้ำหนัก 3 เดือนก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป จะมีวิธีอะไรบ้าง มาติดตามกัน

 

เวย์โปรตีน GNC ราคาพิเศษ!

ลูกค้าทรูลด 500 บาท เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ GNC ราคาปกติ 1,500 บาทขึ้นไป แถมบัตรสมาชิกฟรี

หมดเขต 31 ธันวาคม 2566

 

 ผู้ชายลดน้ำหนัก 3 เดือน ลดยังไงให้หุ่นเฟิร์ม และปลอดภัย

 

 

ผู้ชายลดน้ำหนัก 3 เดือน ลดได้กี่กิโล?

     เป้าหมายที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ และเป็นไปได้จริงคือการลดน้ำหนัก 0.5 ถึง 1% ของน้ำหนักตัวต่อสัปดาห์ 

สำหรับผู้ชายปกติ สามารถลดน้ำหนัก 0.5-1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ หรือลด 6 ถึง 12 กิโลกรัมในระยะเวลา 3 เดือน

ผู้ชายอ้วน (มีไขมันในร่างกายมากกว่า 25%) สามารถลดน้ำหนักได้ 1 ถึง 2 กิโลกรัมต่อสัปดาห์โดยไม่มีปัญหา นั่นหมายความว่าคนที่มีน้ำหนักมากสามารถลดน้ำหนักได้ตั้งแต่ 11 ถึง 22 กิโลกรัมในระยะเวลา 3 เดือน

 

ผู้ชายลดน้ำหนัก 3 เดือน : การรับประทานอาหาร

     หากต้องการลดน้ำหนักแบบ ไม่เน้นออกกำลังกาย มีวิธีดังนี้

1.กินให้น้อยกว่าที่ใช้ : ปกติผู้ชายใช้พลังงานประมาณ 2000 – 2500 แคลอรีต่อวัน แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่เกี่ยวข้อง เช่น อายุ เพศ น้ำหนัก ที่ทำให้แต่ละคนต้องการพลังงานในแต่ละวันแตกต่างกัน หากเราเลือกรับประทานอาหารให้พอดี ให้มีแคลอรีต่ำกว่าที่ใช้ไป เพื่อให้เกิดการเผาผลาญของส่วนเกินทิ้ง ก็จะเป็นการลดน้ำหนักแบบง่ายๆ โดยปรับแค่สิ่งที่รับประทานเข้าไปเพียงอย่างเดียว 

2.กินอาหารที่มีโปรตีนสูง : โปรตีนจะช่วยให้อิ่มได้นานขึ้นและหิวน้อยลง เพราะร่างกายจะใช้เวลาย่อยโปรตีนนานกว่าการย่อยคาร์โบไฮเดรตหรือแป้ง นอกจากนี้โปรตีนยังช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและความแข็งแรง ทำให้รูปร่างเฟิร์มไปพร้อมๆ กับการลดไขมันอีกด้วย 

 

ผู้ชายลดน้ำหนัก 3 เดือน : การออกกำลังกาย

1.เวทเทรนนิ่ง (Weight training) หรือการยกเวท : การออกกำลังกายประเภทนี้ไม่เพียงช่วยให้คุณสร้าง (หรือรักษา) กล้ามเนื้อเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณลดไขมันจากการเผาผลาญที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง แม้เลิกออกกำลังกายไปแล้วก็ตาม แต่สำหรับคนที่ไม่สะดวกในการหาอุปกรณ์ อยู่บ้านเราก็สามารถออกกำลังกายได้โดยใช้น้ำหนักตัว (บอดี้เวท) ของเราได้เช่นเดียวกัน

2.การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอเพื่อเผาผลาญไขมัน : ออกกำลังกายให้หัวใจเต้นอยู่ในโซน 2 อย่างต่อเนื่องนาน 30 นาที ร่างกายจะเริ่มเข้าสู่ภาวะ Burn Fat ไขมันที่สะสมไว้จะถูกดึงมาเผาผลาญเป็นพลังงาน ควรออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ทำร่วมกับการควบคุมอาหาร จะช่วยให้ลดน้ำหนักและควบคุมน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น

3.ตื่นตัวอยู่เสมอ : ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างจริงจังเพื่อเร่งการลดไขมัน ก็สามารถเพิ่มการเผาผลาญแคลอรีได้อย่างมาก ด้วยการขยับหรือการเคลื่อนไหวร่างกายทุกครั้งที่สามารถจะทำได้ตลอดทั้งวัน เช่น การเดินเร็ว การขึ้นเดินบันไดแทนการใช้บันไดเลื่อน ทำงานบ้าน การล้างรถ และจอดรถให้ห่างจากที่ทำงานมากกว่าปกติ เพื่อให้เราได้เคลื่อนไหวออกกำลังกายอย่างแท้จริง ดังนั้น พยายามหาวิธีทำกิจกรรมต่างๆ ให้ได้มากที่สุด กิจกรรมที่กระฉับกระเฉงเหล่านี้อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ทำกิจกรรมดังกล่าว สามารถเผาผลาญแคลอรีได้หลายร้อยแคลอรี่ต่อวันเลยทีเดียว

     ทุกอย่างที่กล่าวมาคุณต้องทำอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 3 เดือนก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีตามมาแน่นอน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

-------------------------------------------------


วิธีการดูบอลพรีเมียร์ลีก 2022/23 ที่ TrueID : แพ็กเกจชมครบทุกคู่ - ซิมทรูชมทีมโปรดฟรี!

รวมข้อมูลแก้ไขปัญหาการใช้งาน รับชม หรือโปรโมชันกิจกรรมต่างๆ << คลิกที่นี่

อัปเดทข่าว ผลบอล พรีเมียร์ลีก แบบทันใจ พร้อมวิเคราะห์คู่เด่นในรอบสัปดาห์ ส่งถึงมือคุณ
คลิกเลย!! หรือ กด *301*32# โทรออก

หรือ อัปเดทข่าวบอลไทยลีก กด *301*36# โทรออก

ยอดนิยมในตอนนี้