ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21 : "สเปอร์ส" กับการปีนกลับขึ้นสู่บิ๊ก 4 อีกครั้ง
ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
บทสรุปผลงานซีซั่นก่อน
หากจะบอกว่าผลงานในฤดูกาลที่แล้วของ สเปอร์ส ให้เปรียบเทียบก็คงเป็น "ขึ้นต้นร้าย แต่ปลายก็โอเคนะ" ก็น่าจะได้อยู่ กับทีมที่ก่อนเปิดซีซั่นถูกคาดหวังว่าจะทำผลงานดีต่อเนื่อง ทว่าเอาเข้าจริงกลับเริ่มต้นได้ย่ำแย่สุดๆ กระนั้นทีมก็ยังกลับตัวกลับใจทันเวลา จนมาจบอันดับที่ 6 ของตาราง คว้าตั๋วไปเตะฟุตบอลยุโรปได้แบบไม่น่าเชื่อ
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่าทัพ "ไก่เดือยทอง" ที่ทะลุเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปีก่อนนู้น จะกลายเป็นทีมที่ออกสตาร์ทในพรีเมียร์ลีกซีซั่นที่ผ่านมาได้ย่ำแย่สุดๆ เก็บชัยชนะเพียงแค่ 3 นัด จากการลงเล่น 12 นัดแรกใส่เก็บได้เพียง 14 คะแนน รั้งอันดับ 14 ของตาราง และมีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูงในเวลานั้น ถึง 20 คะแนน กันเลยทีเดียว
จากผลงานอันย่ำแน่นี้เอง ทำให้บอร์ดบริหารได้ลงมือจัดการเชือด เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ ด้วยการปลดจากตำแหน่ง ปิดตำนานการคุมทีมที่ยาวนานถึง 5 ปีลง และได้แต่งตั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ สุดยอดผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกส เข้ามารับหน้าที่เป็นหัวหน้าเล้าไก่คนใหม่แทน ในเวลาต่อมา
ถึงในตอนนั้นที่ น้ามู เข้ามารับงานคุมทัพ สเปอร์ส ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะทำให้ทีมไต่กลับขึ้นไปเกาะกลุ่มทีมหัวแถวได้ เพราะอันดับและแต้มก็ค่อนข้างห่างอย่างมากเลยทีเดียว และยิ่งฟอร์มการเล่นในช่วงแรกๆ ของการทำทีมของ มูรินโญ่ ก็ต้องบอกว่ามันไม่น่าจะมาขึ้นไปสู่ข้างบนได้ เพราะเฮียแกมาสไตล์เดิมๆ รูปแบบเดิมๆ เหมือนกับที่เคยใช้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนถูกไล่ออกมาแล้วนั่นเอง
แต่เดี๋ยวก่อน เฮียมู เค้าเปลี่ยนไปแล้ว แม้ว่าแผนการเล่นจะคล้ายๆ เดิม แต่มันก็มีบางอย่างที่เปลี่ยนไปในวิธีการเล่นของ สเปอร์ส และด้วยตัวนักเตะที่ค่อนข้างพร้อมโดยเฉพาะแนวรุก ทั้ง แฮร์รี่ เคน, ซน เฮือง มิน, ลูคัส มูร่า, โจวานี่ โล เซลโซ่ รวมทั้งตัวที่เข้ามาใหม่ในช่วงเดือนมากราคม อย่าง สตีเว่น เบิร์กไวจ์น ที่ต่างก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้ทีมมีเกมรุกที่เฉียบขาดอย่างมาก
แม้ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่ง เคน ดาวยิงอันดับหนึ่งของทีมจะได้รับบาดเจ็บต้องพักยาว ทว่าทีมก็ไม่ได้อ่อนกำลังลงเลย เพราะ ซน เฮือง มิน ดาวเตะพลังกิมจิ กลับระเบิดฟอร์มการเล่นได้อย่างร้อนแรง ช่วยทีมยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง จนทำให้การขาดหายไปของดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ไม่ส่งผลกระทบต่อทีมมากนัก จนทำให้ทีมกลับมามีลุ้นที่จะทำแต้มไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้อีกครั้ง
และหลังจากที่ลีกต้องพักแข่งเพราะการระบาดของโควิด-19 ซึ่งกลายเป็นความโชคดีของ สเปอร์ส เพราะกลายเป็นว่า เคน ก็หายเจ็บกลับมา ขณะที่ ซน เฮือง มิน ก็ไปฝึกทหารที่บ้านเกิดจนเสร็จสิ้น ทำให้ทีมกลับมาเต็มร้อยอีกครั้ง และในช่วงโค้งสุดท้ายนี้เอง ที่ มูรินโญ่ โชว์กึ๋นการเป็นยอดกุนซือ ด้วยการนำทีมเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายสามารถเข้าป้ายในอันดับที่ 6 ได้สำเร็จในนัดสุดท้ายของฤดูกาล
ขุมกำลังซีซั่นนี้
หากจะบอกว่า มูรินโญ่ เป็นคนที่ถนัดซื้อมากกว่าสร้าง ก็คงไม่ผิดเท่าไหร่ เพราะหากดูจากทีมเก่าๆ ที่เจ้าตัวเคยรับงานมา น้อยมากที่กุนซือชาวโปรตุเกสจะใช้บริการบรรดาเด็กๆ ดาวรุ่งของสโมสร เพื่อให้มาเป็นแข้งกำลังหลักของทีมในการสู้ศึก ส่วนใหญ่จะเป็นนักเตะที่ซื้อทั้งนั้น
แต่ทว่า การมารับงานคุม สเปอร์ส ในครั้งนี้ น้ามู น่าจะรู้อยู่แล้วว่าทีมไม่ได้มีเงินถุงเงินถังให้ช้อปนักเตะชื่อดังเหมือนการคุมทีมที่แล้วๆ มา ดังนั้นในซีซั่นใหม่ที่จะถึงนี้ แน่นอนว่าการซื้อยังมีอยู่แน่นอน แต่คงไม่ใช่นักเตะระดับเกรด A หรือ B+ อย่างแน่นอน
เห็นได้จาก 3 แข้งใหม่ ที่ดึงเข้ามาสู่ทีม ทั้ง โจ ฮาร์ท นายทวารตัวเก๋า ที่เซ็นเข้ามาแบบฟรีๆ, ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก กองกลางตัวรับที่สอยมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ และ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ แบ็กขวาตัวเก่งของ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ราคา 15 ล้านปอนด์ ซึ่งทั้งสามคนจัดได้ว่าเป็นนักเตะระดับกลางๆ ไม่ได้เด่นดังมาก แถมค่าตัวก็ไม่แรงมาก
หากมองดูแล้ว 3 แข้งใหม่ที่ดึงเข้ามา อาจจะไม่ใช่นักเตะที่หวือหวา หรือจะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบเฉียบพลันให้กับทีม แต่ว่ากันว่า ทั้งสามคนนี้แหละจะเข้ามาเป็นแบ็คอัพ และส่วนเติมเต็มให้กับทีมของ มูรินโญ่ ที่ดีในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ให้แน่นยิ่งขึ้น เพราะในซีซั่นที่ผ่านมา ทีมมีปัญหาในแนวรับฝั่งขวา กับกองกลางตัวรับอย่างมาก ต้องหมุนเวียนสลับนักเตะกันเป็นว่าเล่น ทั้ง ฮอยจ์เบิร์ก และ โดเฮอร์ตี้ จะเข้ามาแก้ปัญหาตรงนี้ได้อย่างเด็ดขาดมาก
และถึงแม้ว่าทีมจะปล่อยนักเตะ ออกไปหลายคน ทั้ง ไคล์ วอล์คเกอร์ ปีเตอร์ส, แยน แฟร์ตองเก้น, มิเชล ฟอร์ม รวมทั้ง ทรอย แพร์รอตต์ แต่ขุมกำลังที่เหลือต้องบอกว่ายังแข็งแกร่งพอสมควร โดยเฉพาะในแนวรุกที่ยังสามารถรั้ง แฮร์รี่ เคน ไว้กับทีมได้ บวกกับแข้งใหม่ที่มาเติม ก็ต้องบอกว่าทีมของ น้ามู ในซีซั่นใหม่ที่จะถึงนี้ ไม่หวือหวา แต่ว่าเต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
คีย์แมนที่น่าจับตามอง
หากเป็นทีมอื่นๆ นักเตะสำคัญที่น่าจับตามองโดยส่วนใหญ่จะเป็นผู้เล่นใหม่ที่ทีมดึงเข้ามาร่วมทีม แต่กับ สเปอร์ส ในฤดูกาลใหม่นี้คงไม่ใช่ เพราะ 3 นักเตะใหม่ที่ดึงเข้ามา ณ เวลานี้ จริงๆ ก็ถือว่าเป็นส่วนสำคัญของทีม แต่คงไม่ใช่คีย์แมนหลักที่จะทำให้ "ไก่เดือยทอง" ตัวนี้ ทะยานได้สูงขึ้นกว่าเดิม
นักเตะคนสำคัญของทีม ที่อยากให้จับตาในซีซั่นหน้า แน่นอนว่าเลยว่า แฮร์รี่ เคน กองหน้าตัวเก่ง ยังคงเป็นคีย์แมนหลักเบอร์หนึ่งของทีม ในซีซั่นก่อนๆ ที่ผ่านมา การที่ สเปอร์ส ขึ้นไปอยู่ในกลุ่มบิ๊ก 4 ของตารางคะแนน ส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ มาจากผลงานการถล่มประตูของ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษคนนี้นี่เอง
และจากจากที่ทีมสามารถรั้งให้ หัวหอกวัย 27 ปี อยู่กับทีมต่อไปได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีงามอย่างมาก เพราะยากมากที่จะหากองหน้าจอมถล่มประตูอย่างนี้เข้ามาสู่ทีมได้ ถึงแม้จะมีเงินก็ตาม ดังนั้น ในซีซั่นใหม่นี้ ผลงานของทีมจะออกมาดีไม่ดี ก็ขึ้นอยู่กับฟอร์มการถล่มประตูของ เคน นี่แหละ
อีกคนนึง ซึ่งทีมจะต้องพึ่งพาอย่างมากในซีซั่นหน้า คงไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจาก "โอปป้าแดนกิมจิ" ซน เฮือง มิน นั่นเอง เมื่อซีซั่นที่แล้ว ดาวเตะทีมชาติเกาหลีใต้ พัฒนาฝีเท้า และฟอร์มการเล่นของตัวเองได้อย่างสุดยอดอย่างมาก กลายเป็นนักเตะตัวหลักที่ทีมจะขาดไม่ได้เลย ยิ่งในช่วงที่ เคน ได้รับบาดเจ็บ เจ้าตัวก็ยิ่งแสดงความเก่งกาจ กลายเป็นเดอะแบกของทีม เป็นตัวชี้เป็นชี้ตายให้ทีมได้ในหลายๆ นัดอีกด้วย
ซึ่งในซีซั่นหน้า หากเจ้าตัวยังรักษาฟอร์มร้อนแรงไว้ได้ หรือจะให้ดีสามารถยกระดับการเล่นของตัวเองให้สุดยอดกว่านี้ เชื่อแน่ว่า ซน เฮือง มิน จะกลายเป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะช่วยให้ทีมก้าวขึ้นไปสู่ระดับท็อปของลีกได้อีกครั้งอย่างแน่นอน
บทวิเคราะห์และทำนายอันดับ
การจบอันดับ 6 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ถือว่า มูรินโญ่ ทำผลงานได้ค่อนข้างดี นำทีมที่อยู่ท้ายตารางกลับมาคว้าตั๋วไปเตะบอลยุโรปได้ แถมยังทำอันดับเหนือกว่า "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ทีมคู่รักคู่แค้นร่วมกรุงลอนดอนอีกต่างหาก
แน่นอนว่า เมื่อทำดีแล้ว มันก็ต้องรักษาความดีให้ต่อเนื่อง กุนซือจอมอหังการชาวโปรตุเกสคงต้องการนำ สเปอร์ส ได้อันดับที่สูงกว่าในซีซั่นที่แล้ว และถ้าจะให้ดีต้องพาทีมขึ้นไป ติด 1 ใน 4 เพื่อได้ไปเตะยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก จะเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุด
แต่ก็อย่างที่รู้กันสมรภูมิการแย่งชิงอันดับ 1-4 หรือแม้กระทั่ง 5-6 ในศึกพรีเมียร์ลีก มันค่อนข้างดุเดือดเลือดพล่าน ถ้าไม่แน่จริง หรือเจ๋งจริงอยู่ไม่ได้แน่นอน และหากมองดูขุมกำลังของ น้ามู ที่มีอยู่ แล้วเอาไปเทียบกับทีมอื่นๆ ในระดับเดียวกัน ก็ต้องบอกว่ายังเป็นรองหลายทีม แต่ก็พอสู้ได้กับอีกหลายทีม
นอกจากขุมกำลังที่จัดอยู่ในระดับ B ค่อนๆ ไปทาง B+ แล้ว อีกอย่างหนึ่งที่ต้องจับตาดูคือฝีมือการทำทีมของ มูรินโญ่ เพราะที่ผ่านมา หลายคนมองว่ากุนซือโปรตุเกสเป็นผู้จัดการทีมที่กำลังจะตกยุค แผนการเล่นต่างๆ ค่อนข้างล้าสมัย และจับทางได้ง่าย แต่อย่าลืมว่าซีซั่นที่แล้ว น้ามู เข้ามาคุมทีม และรับไม้ต่อจาก โปเช็ตติโน่ อาจจะยังปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เต็มที่ แต่ในซีซั่นใหม่ที่กำลังจะเปิดฉากนี้ เจ้าตัวสามารถวางแผน คัดเลือกนักเตะ และวางรูปแบบการเล่นได้เต็มที่
ซึ่งหากมองจากผลงานการคุมทีมที่ผ่านๆ มาของ มูรินโญ่ เจ้าตัวเป็นกุนซือที่ไม่เคยหนีห่างจากความสำเร็จ ไปอยู่ทีมไหนทีมนั้นอย่างน้อยต้องได้แชมป์ ไม่บอลลีก ก็บอลถ้วย ซึ่งจากจุดนี้ก็ทำให้มั่นใจว่า สเปอร์ส ในซีซั่นใหม่นี้ อาจจะได้แชมป์บอลถ้วยสักหนึ่งรายการก็เป็นได้ ส่วนในลีกนั้นไอ้เรื่องลุ้นแชมป์ตัดทิ้งไปได้เลย ยากที่จะไปถึง ส่วนการติดท็อป 4 ของตาราง ถ้าเอาตรงๆ ก็ค่อนข้างยาก เพราะมีกระดูกชิ้นใหญ่ขวางหน้าหลายทีม ดีที่สุดของ น้ามู อาจจะพาทีมไปได้แค่อันดับ 5 เท่านั้น
อันดับที่คาด : อันดับที่ 5
ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21
• ลิเวอร์พูล
• แมนเชสเตอร์ ซิตี้
• แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด .. กับปีที่ต้องมองไกลกว่าท็อปโฟร์
• เชลซี .. กับการนำ สิงห์บลูส์ ตัวนี้กลับมาผงาด
• เลสเตอร์ ซิตี้ .. กับการทวงคืนอันดับ 4 ที่พลาดไป
• สเปอร์ส .. กับการปีนกลับขึ้นสู่บิ๊ก 4 อีกครั้ง
• วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส .. กับความหวังในการไปยุโรป
• อาร์เซน่อล .. กับภารกิจทวงความยิ่งใหญ่
• เอฟเวอร์ตัน .. กับฤดูกาลพิสูจน์ฝีมือ คาร์โล อันเชลอตติ
• ลีดส์ ยูไนเต็ด .. กับการคัมแบ็กสู่พรีเมียร์ลีกในรอบ 16 ปี