รีเซต
ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21 : "เลสเตอร์ ซิตี้" กับการทวงคืนอันดับ 4 ที่พลาดไป

ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21 : "เลสเตอร์ ซิตี้" กับการทวงคืนอันดับ 4 ที่พลาดไป

ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21 : "เลสเตอร์ ซิตี้" กับการทวงคืนอันดับ 4 ที่พลาดไป
Mr.BOSTON
3 กันยายน 2563 ( 22:30 )
1K
2

ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21

เลสเตอร์ ซิตี้

บทสรุปผลงานซีซั่นก่อน

สำหรับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลที่ผ่านมา ผลงานของพวกเขาอาจจะเรียกได้ว่า "เซอร์ไพร์ส" และ "น่าผิดหวัง" ไปในปีเดียวกัน เพราะในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลที่ตีคู่มากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ในตำแหน่งหัวตารางอยู่หลายสัปดาห์ ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะทำได้ดีขนาดนั้นแน่นอน

ไม่ใช่แค่ตีคู่มาอย่างเดียว เลสเตอร์ ยังรั้งตำแหน่งท็อป 4 ได้อย่างเหนียวแน่น จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงล็อกดาวน์โควิด-19 พวกเขาก็ยังรั้งที่ 3 ของตาราง เหนือกว่าทั้ง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทว่า สถานการณ์มันมาพลิกผันหลังจากช่วงที่พ้นโควิด-19 ออกมาทำให้พวกเขาต้องจบอันดับที่ 5 และพลาดการไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในเกมสุดท้ายของฤดูกาลอย่างน่าเจ็บปวด จากการพ่ายต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด

อย่างไรก็ตาม การจบอันดับที่ 5 ทำให้ เลสเตอร์ ยังได้ไปเล่นในฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในฤดูกาลที่จะถึงนี้ ทั้งที่ก่อนเริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะขับเคี่ยวตำแหน่งท็อป 4 ได้ดีขนาดนี้ นอกจากนั้นในฟุตบอลถ้วยอย่างเอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ พวกเขาก็ทำได้ดี และเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นอย่างน้อยทั้ง 2 ถ้วย นั่นแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่พัฒนาแบบก้าวกระโดดหลังการเข้ามาของ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส

ดังนั้น หากตัดเรื่องที่พวกเขาพลาดการไปเล่นในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างน่าเจ็บปวดออกไปก็ต้องยอมรับว่า ในฤดูกาล 2019/20 ที่ผ่านมา เลสเตอร์ เป็นหนึ่งในทีมที่ทำผลงานได้อย่างน่า เซอร์ไพร์ส และกลายเป็นตัวแปรสำคัญของพรีเมียร์ลีกอีกด้วย

 

ขุมกำลังซีซั่นนี้

นอกจาก เบน ชิลเวลล์ ที่พวกเขาเพิ่งเสียให้กับเชลซี แบบไม่ระบุค่าตัว บรรดานักเตะคนอื่น ๆ ที่ย้ายออกไปจากทีม ดูเหมือนจะไม่ใช่ตัวหลักที่น่าห่วง และถึงแม้จะเสีย ชิลเวลล์ ไปแล้ว แต่เลสเตอร์ ก็เป็นสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องการ "ปั้นดินเป็นดาว" ดังนั้นเราอาจจะเห็นนักเตะหน้าใหม่ได้แจ้งเกิดในตำแหน่งของ ชิลเวลล์ อีกก็ได้

ในทางตรงกันข้าม เลสเตอร์ ได้นักเตะเข้าทีมมาแล้ว 2 ราย ได้แก่ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร จาก น็องซี่ ในลีกฝรั่งเศส ซึ่งถ้ามองตามความจริง เขาอาจจะไม่ได้มีบทบาทช่วยเหลือทีมในช่วงเวลาอันสั้น กับอีกคนที่อาจจะดูได้ลุ้นมากกว่าอย่าง ทิโมธี่ กาสตาญ ที่ย้ายมาจาก อตาลันตา ซึ่งเขาเล่นในตำแหน่งแบ็กได้ทั้งสองข้าง และจะถูกคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาแทนที่ชิลเวลล์ ที่ย้ายออกไป

เมื่อมองจากขุมกำลังตรงนี้ ก็ต้องยอมรับว่า ขุมกำลังของทีมไม่ได้อ่อนแอลงสักเท่าไหร่เมื่อเทียบจากฤดูกาล เพราะน่าจะเรียกได้ว่า บรรดาซูเปอร์สตาร์ ยังอยู่กันอย่างครบถ้วน และเหนือสิ่งอื่นใด พวกเขายังมีเวลาร่วมเดือนในการดึงนักเตะรายอื่น ๆ มาร่วมทีม

เลสเตอร์ ไม่ใช่ทีมที่ทุ่มตลาด ตรงกันข้ามพวกเขาจะคิดอย่างดีแล้วก่อนซื้อตัวใครก็ตาม แม้จะไม่ใช่นักเตะบิ๊กเนม แต่เมื่อซื้อมาร่วมทีมได้ พวกเขาจะใช้นักเตะเหล่านั้นในศักยภาพเกิน 100% ได้ ซึ่งเราเห็นได้จาก คักลาร์ โซยุนชู, เจมส์ แมดดิสัน และ วิลฟรีด เอ็ดดิดี้ ที่ก้าวขึ้นมาอย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลที่ผ่านมา

โดยตอนนี้ ทีมของ ร็อดเจอร์ส ยังมีข่าวกับ นิโคลัส ทาเกลียฟิโก้ ตัวทีมชาติอาร์เจนติน่า ของ อาแย็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, โรบิน โกเซ่นส์ ตัวทีมชาติเยอรมนี ของ อตาลันตา และ จามาล ลูอิส นักเตะทีมดาวรุ่งตำแหน่งเช็นเตอร์ฮาล์ฟของ นอริช ซิตี้ ที่เพิ่งตกชั้นลงไปด้วย

 

คีย์แมนที่น่าจับตามอง

ปฏิเสธไม่ได้ว่า คีย์แมน ของทัพ "จิ้งจอก" ยังคงเป็น เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าดาวซัลโวในฤดูกาลที่ผ่านมา แม้ในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง เขาจะอายุเข้าเลข 3 สองตัวไปแล้ว แต่คุณภาพการจบสกอร์ของเขา ยังคงไม่ตกลงไป และที่น่าตกใจไม่แพ้กันคือ สปีด ในฤดูกาลก่อนที่ควรจะถดถอยลงไปตามวัย กลับไม่ได้ลดลงไปเลย

การมีเขายืนแดนหน้า ทำให้ เลสเตอร์ มีตัวเลขในการจบสกอร์ และ ทำประตูได้น่าพึงพอใจกว่าตัวเลขที่ได้จากคนอื่น ทั้ง อิสลาม สลิมานี่ หรือ เคเลซี่ อิเฮนาโช่ อย่างเห็นได้ชัด แต่จากการพักฤดูกาลอันสั้น ก็ทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวลถึงความฟิตของนักเตะอังกฤษวัย 33 ปี รายนี้อยู่พอสมควร รวมไปถึงอาการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดกับเขาได้ นี่จึงเป็นเรื่องที่ บีร็อด ต้องบริหารจัดการให้ดี

ขณะที่ในตำแหน่งกองกลาง เจมส์ แมดดิสัน ที่เพิ่งต่อสัญญากับทีมออกไป จะกลายมาเป็นหัวใจสำคัญในการปั้นเกม รวมไปถึงการคุมจังหวะเกม และลูกนิ่งในหลาย ๆ โอกาส เขาได้แสดงออกในฤดูกาลที่แล้วว่าเป็นเพลย์เมกเกอร์ที่ยอดเยี่ยม และนั่นน่าจะมอบโอกาสในการจบสกอร์ให้กับวาร์ดี้ได้อย่างเต็มทื่ ถ้าทั้งคู่เล่นร่วมกันในสนามโดยไม่มีใครรีบบาดเจ็บไปก่อน

นักเตะอีกคนที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ คือ วิลฟรีด เอ็นดิดี้ ที่ก้าวขึ้นมาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวตักเกมได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา จนทำให้หลาย ๆ คนคิดถึงช่วงเวลาที่ทีมยังมี เอ็นโกโล่ กองเต้ จากทั้งหมดนี้ ทำให้เลสเตอร์ ยังคงเป็นทีมที่น่ากลัวอย่างปฏิเสธไม่ได้ในฤดูกาลที่จะมาถึง

 

บทวิเคราะห์และทำนายอันดับ

หลายคนก็คงเดาได้ถึงเป้าหมายของ เลสเตอร์ ในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง การจบท็อป 4 ไม่ใช่เป้าหมายที่สูงไปของพวกเขา เพราะนั่นคือการแก้ตัวจากความเจ็บปวดที่พวกเขาได้รับในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่ผ่านมา และเป็นเป้าหมายที่สมเหตุสมผลเมื่อมองจากภาพกว้าง

แต่อย่างไรก็ตามมันมี 2 เรื่องที่เราต้องนึกถึงกันก่อน เรื่องแรกคือในปีก่อน ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ล้วนมีปัญหาในครึ่งฤดูกาลแรก และปัญหาทั้งหมดถูกแก้ไขในช่วงปลายฤดูกาลที่ผ่านมา จนทำให้ทั้ง 3 ทีมได้ไปเล่นในฟุตบอลสโมสรยุโรปในบั้นปลาย

อาร์เซนอล และ ท็อตแน่ม มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งหัวหน้าโค้ช ทำให้อะไรหลาย ๆ อย่างดูลงตัวขึ้น ขณะที่การมาของ บรูโน่ แฟร์นานเดส ทำให้ ยูไนเต็ด กลายเป็นเสือติดปีก ที่ใครหลาย ๆ คนเชื่อว่าอาจจะถึง "ลุ้นแชมป์" ในปีนี้ได้เลย ดังนั้นเป้าหมายของ เลสเตอร์ จึงกลายเป็นเรื่องยากเท่าทวีเมื่อทีม "บิ๊ก 6" ล้วนแต่อยู่ในฟอร์มที่ดี

ดังนั้น เมื่อมองจากความเป็นจริง และขุมกำลังในของ บิ๊ก 6 รวมไปถึงความมั่นใจที่เกิดขึ้นกับพวกเขาเมื่อปลายฤดูกาลที่ผ่านมา เทียบกับเลสเตอร์ในตอนนี้ การลุ้นไปเล่นใน ยูโรป้า ลีก อีกฤดูกาล ก็ไม่ใช่เรื่องแย่เกินไปนัก แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกันก็ตาม การจบอันดับที่ 5-6 หรือ 7 ดูเป็นไปได้มากกว่าเป้าหมายการจบท็อป 4 แต่ก็ยังเชื่อว่า เลสเตอร์ น่าจะเป็นทืมที่ดีพอที่จะได้ไปเล่นในยูโรป้า อีกปี

 

อันดับที่คาด : อันดับที่ 6

 

ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21

ลิเวอร์พูล

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

• แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด .. กับปีที่ต้องมองไกลกว่าท็อปโฟร์

เชลซี .. กับการนำ สิงห์บลูส์ ตัวนี้กลับมาผงาด

เลสเตอร์ ซิตี้ .. กับการทวงคืนอันดับ 4 ที่พลาดไป

• สเปอร์ส .. กับการปีนกลับขึ้นสู่บิ๊ก 4 อีกครั้ง

• วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส .. กับความหวังในการไปยุโรป

• อาร์เซน่อล .. กับภารกิจทวงความยิ่งใหญ่

• เอฟเวอร์ตัน .. กับฤดูกาลพิสูจน์ฝีมือ คาร์โล อันเชลอตติ

• ลีดส์ ยูไนเต็ด .. กับการคัมแบ็กสู่พรีเมียร์ลีกในรอบ 16 ปี

 

MR. BOSTON

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

>> อัพเดท ข่าวตลาดซื้อ-ขาย นักเตะย้ายทีม ศึกพรีเมียร์ลีก 2020-2021

>> ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21 : "อาร์เซน่อล" กับภารกิจทวงความยิ่งใหญ่

ยอดนิยมในตอนนี้

สิทธิประโยชน์แนะนำ

541