รีเซต
ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21 : "เอฟเวอร์ตัน" กับฤดูกาลพิสูจน์ฝีมือ คาร์โล อันเชลอตติ

ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21 : "เอฟเวอร์ตัน" กับฤดูกาลพิสูจน์ฝีมือ คาร์โล อันเชลอตติ

ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21 : "เอฟเวอร์ตัน" กับฤดูกาลพิสูจน์ฝีมือ คาร์โล อันเชลอตติ
KiTTiSaK
7 กันยายน 2563 ( 23:30 )
706
3

ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 2020/2021

เอฟเวอร์ตัน

บทสรุปผลงานซีซั่นก่อน

คงต้องใช้คำว่า “น่าผิดหวัง” กับผลงานของเอฟเวอร์ตันในฤดูกาลที่ผ่านมา หลังจากที่พวกเขาทุ่มเงินซื้อแข้งใหม่เข้ามาเสริรมทัพกว่า 100 ล้านปอนด์ แต่ฟอร์มที่ออกมากลับสวนทางกับงบประมาณที่ลงทุนไป โดยขุนพล “ทอฟฟี่เมน” จบฤดูกาลในอันดับ 12 ของตาราง ซึ่งเป็นอันดับแย่ที่สุดในรอบ 16 เลยทีเดียว โดยอันดับต่ำที่สุดก่อนหน้านี้คือการจบอันดับ 17 เมื่อฤดูกาล 2003-2004 นู่นเลย

ด้วยผลงานอันชวนให้แฟนบอลมีรอยตีนกาขึ้นบนใบหน้า ซึ่งมีช่วงหนึ่งที่เอฟเวอร์ตันรูดลงไปวนเวียนอยู่ในโซนอันตราย ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวแม่ทัพ โดยจัดการยื่นซองขาวให้ มาร์โก ซิลวา กลายเป็นกุนซือตกงาน เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว พร้อมกับไปดึงตัวโค้ชฝีมือดี-โปรไฟล์หรูอย่าง คาร์โล อันเชลอตติ เข้ามาสวมบทผู้จัดการโรงงานลูกอม ชนิดที่แฟนบอลเซอร์ไพรส์ไปตามๆกัน เพราะไม่คิดว่าสโมสรจะสามารถดีลกับหนึ่งในกุนซือระดับท็อปมาได้สำเร็จ

หลังจาก อันเชลอตติ เข้ามานั่งแท่นบอสใหญ่ในถิ่นกูดิสัน ปาร์ก ฟอร์มของเอฟเวอร์ตันก็ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นดีเปรี้ยงปร้างพุ่งกระฉูดอะไรขนาดนั้น โดยพวกเขายังมีปัญหาเรื่องความสม่ำเสมอ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่ถ้าเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ ก็ถือว่าขุนพล “ทอฟฟี่เมน” ดูมีอนาคต ภายใต้แม่ทัพนามว่า คาร์โล อันเชลอตติ

ขุมกำลังซีซั่นนี้

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ฤดูกาลที่แล้ว เอฟเวอร์ตันใช้เงินซื้อนักเตะเสริมทัพไปกว่า 100 ล้านปอนด์ ซึ่งผลปรากฏว่า “ไม่ได้เรื่อง” เสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น อเล็กซ์ อิโวบี้, มอยเซ่ คีน ซึ่งฟอร์มไม่คุ้มค่าตัว ฟาเบียน เดลฟ์ กระดูกเปราะเดี้ยงแล้วเดี้ยงอีก หรือ ฌอง ฟิลลิปป์ ฌีบาแม็ง เล่นไปแค่สองนัดก็เจ็บหนักพักยาวทั้งซีซั่น ส่วนที่พอจะโอเคหน่อยก็คือ อังเดร โกเมส กองกลางเชิงสูงที่ย้ายมาจากบาร์เซโลนา

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุนี้เปล่า ทำให้เอฟเวอร์ตันไม่บุ่มบ่ามและต้อง “ค.ว.ย.” คิด วิเคราะห์ แยกแยะ มากขึ้นในตลาดนักเตะ โดยพวกเขาได้แข้งใหม่เข้ามาเสริมทัพคือ อัลลัน กองกลางเลือดแซมบ้า ซึ่งเป็นศิษย์เก่าของ อันเชลอตติ สมัยคุมนาโปลี และ ฮาเมส โรดริเกซ ดาวเตะจากเรอัล มาดริด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งศิษย์เก่าของอันเชลอตติ นอกจากนี้ ยังมีข่าวสนใจ อับดุลลาย ดูกูเร่ กองกลางของวัตฟอร์ด อีกหนึ่งคน

ส่วนผู้เล่นที่ย้ายออกไปก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนัก อาทิ คูโค มาร์ตินา, อูมาร์ นิอาส, มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก ซึ่งหมดสัญญาและไม่ได้เป็นตัวหลักของทีมอยู่แล้ว รวมถึง เลห์ตัน เบนส์ แบ็กซ้ายจอมเก๋า ซึ่งตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปเป็นที่เรียบร้อย

ขณะที่แกนหลักของทีมหลายคนก็ยังคงอยู่ช่วยทีมเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็น เมสัน โฮลเกต, ไมเคิล คีน, อังเดร โกเมส, ริชาร์ลิซอน, โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน และเชื่อว่าเอฟเวอร์ตันน่าจะได้ต้อนรับแข้งใหม่เข้าสู่ทีมมากกว่านี้อีก ก่อนที่ตลาดนักเตะจะสิ้นสุดลงในช่วงกลางเดือนตุลาคม

คีย์แมนที่น่าจับตามอง

ถือเป็นหนึ่งในดีลที่เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับการหิ้วสตั๊ดมาล่าตาข่ายในพรีเมียร์ลีกของ ฮาเมส โรดริเกซ ดาวยิงทีมชาติโคลอมเบีย ซึ่งย้ายมาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวเพียง 20 ล้านปอนด์

ฮาเมส เป็นหนึ่งในนักเตะที่เรียกได้ว่า "มีคลาส" หลังจากผ่านการค้าแข้งในสโมสรดังมาแล้วมากมายทั้ง ปอร์โต้ โมนาโก เรอัล มาดริด บาเยิร์น มิวนิค ตลอดจนในนามทีมชาติ ซึ่งฮาเมสแจ้งเกิดกับทีมชาติโคลอมเบีย ด้วยผลงานครองดาวซัลโว ฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล

และที่สำคัญ ฮาเมสคือนักเตะคนโปรดของกุนซือ คาร์โล อันเชลอตติ ซึ่งนี่คือการได้มาอยู่สังกัดเดียวกันเป็นคำรบที่ 3 หลังจากทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาแล้วที่ เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งคงไม่เกินไปนักหากจะบอกว่า อันเชลอตติเป็นกุนซือที่มี "คู่มือการใช้งาน" ฮาเมสแบบละเอียดมากที่สุด ดังนั้นค่อนข้างมั่นใจได้ว่า ดาวเตะวัย 29 ปีรายนี้จะถูกรีดศักยภาพออกมาให้แฟนบอลทอฟฟี่สีน้ำเงินมีรอยยิ้มกันได้ไม่ยาก


ยิ่งเอฟเวอร์ตันมีคู่กองหน้าที่ลงตัวกันอยู่แล้วคือ ริชาร์ลิซอน กับ โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน และเมื่อได้ ฮาเมส เข้ามาเป็นจอมทัพบัญชาเกมรุกเพิ่มอีกคน บอกเลยว่ากองหลังฝ่ายตรงข้ามมีเหนื่อยแน่นอน!!


บทวิเคราะห์และทำนายอันดับ

ต้องบอกว่านี่คือฤดูกาลที่จะพิสูจน์ฝีมือ “คาร์เลตโต้” อย่างแท้จริง เพราะเฮดโค้ชวัย 61 ปีจะได้ลงมือทำทีมเต็มๆ ทั้งเรื่องการฝึกซ้อม การวางแท็คติกในสนาม ตลอดจนมีส่วนร่วมในการคว้าแข้งใหม่เข้ามาเสริมทัพ ผิดกับฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งอันเชลอตติเข้ามารับงานช่วงกลางฤดูกาล โดยขณะนั้นเอฟเวอร์ตันกำลังอาการหนัก ภารกิจหลักจึงเป็นการ “ซ่อม” มากกว่า “สร้าง” เพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าให้ผ่านพ้นไปก่อน

แน่นอนว่า อันเชลอตติ คือโค้ชมือทองคนหนึ่งของยุโรป ซึ่งมักพาทีมประสบความสำเร็จและมีถ้วยแชมป์ติดมือเสมอ ไม่ว่าจะไปจับงานคุมทีมสโมสรไหนก็ตาม 

แต่ต้องยอมรับว่า เอฟเวอร์ตันไม่ใช่ทีมที่มีศักยภาพสูงเท่ากับหลายๆทีมที่อันเชลอตติเคยคุมมา และมาตรฐานของทัพทอฟฟี่สีน้ำเงินก็ยังเป็นรองคู่แข่งในพรีเมียร์ลีกอีกหลายทีม ดังนั้นหากจะตั้งเป้าไปที่ “ท็อปโฟร์” ก็ดูจะเป็นเส้นชัยที่ค่อนข้างยากเกินไปหน่อย แต่ถ้าเป็นตำแหน่ง “ท็อปซิกซ์” เพื่อลุ้นตั๋วยูโรป้าลีก ยังจะมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่า

อย่างไรก็ดี แม้เป้าหมายท็อปซิกซ์จะพอมีความเป็นไปได้ แต่ใช่ว่าจะเป็นงานง่าย เพราะเมื่อสอดส่ายสายตาดูคู่แข่งทีมอื่นแล้ว เอฟเวอร์ตันก็มีคู่แข่งใน “ไซส์” ใกล้เคียงกันอย่าง เลสเตอร์ หรือ วูล์ฟแฮมป์ตัน นี่ยังไม่รวมทีมในกลุ่มบิ๊กซิกซ์ ทั้ง ลิเวอร์พูล แมนฯ ซิตี้ แมนฯ ยูไนเต็ด เชลซี สเปอร์ส และ อาร์เซนอล อีกต่างหาก

ดังนั้นหากเอฟเวอร์ตันจะสอดแทรกขึ้นไปแย่งตั๋วฟุตบอลยุโรป อันเชลอตติต้องรีบหาทีมที่ลงตัวให้ได้โดยเร็วที่สุด และผู้เล่นต้องพร้อมใจกันโชว์ฟอร์มให้เข้าฝัก เหมือนกับที่ เลสเตอร์ ทำให้เห็นมาแล้วในซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขามีคีย์แมนอย่าง คากลาร์ โซยุนชู, เจมส์ แมดดิสัน และ เจมี่ วาร์ดี้ เป็นตัวหลักในแต่ละตำแหน่ง และทำผลงานได้สม่ำเสมอเกือบตลอดทั้งซีซั่น

เอาเป็นว่า เรื่องกึ๋นและฝีมือของ คาร์โล อันเชลอตติ ไม่ใช่เรื่องต้องกังวลของเอฟเวอร์ตัน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเรื่ององค์ประกอบโดยรวมของทีมที่ยังดูเป็นรองทีมอื่น โดยเฉพาะเกมรับที่ยังไว้วางใจไม่ได้ และมีความเป็นไปได้ว่า พวกเขาอาจต้องใช้เวลาในการยกระดับทีมอีกสักพัก จึงจะสามารถไปโชว์ฝีเท้าในเวทียุโรปอีกครั้ง

อันดับที่คาด : อันดับ 7

 

ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21

ลิเวอร์พูล

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

• แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด .. กับปีที่ต้องมองไกลกว่าท็อปโฟร์

เชลซี .. กับการนำ สิงห์บลูส์ ตัวนี้กลับมาผงาด

เลสเตอร์ ซิตี้ .. กับการทวงคืนอันดับ 4 ที่พลาดไป

• สเปอร์ส .. กับการปีนกลับขึ้นสู่บิ๊ก 4 อีกครั้ง

• วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส .. กับความหวังในการไปยุโรป

• อาร์เซน่อล .. กับภารกิจทวงความยิ่งใหญ่

• เอฟเวอร์ตัน .. กับฤดูกาลพิสูจน์ฝีมือ คาร์โล อันเชลอตติ

• ลีดส์ ยูไนเต็ด .. กับการคัมแบ็กสู่พรีเมียร์ลีกในรอบ 16 ปี

 

"111"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

>> ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21 : "สเปอร์ส" กับการปีนกลับขึ้นสู่บิ๊ก 4 อีกครั้ง

>> ทรูไอดีพรีวิว พรีเมียร์ลีก 20/21 : "วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส" กับความหวังในการไปยุโรป

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้