Pain for Get – เจ็บแค่ไหนก็ยังไหวอยู่ : ‘น่องตึง’ อาการบาดเจ็บที่ไม่ควรมองข้าม
กล้ามเนื้ออีกหนึ่งแห่งที่มักจะพบกับอาการบาดเจ็บได้บ่อยเนื่องจากการออกกำลังกาย หรือ การใช้งานหนัก คือกล้ามเนื้อน่อง หรือบางคนเรียกท้องขา โดยส่วนมากจะมีอาการ น่องตึง หรือ Calf Strain ซึ่งหากขาดการดูแลที่ถูกต้องเมื่อเกิดอาการ อาจจะมีปัญหาใหญ่ตามมา เพราะมันอาจจะพัฒนาเป็นอาการกล้ามเนื้อฉีกขาดได้ ดังนั้นอาการนี้เป็นอาการที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง
โดยที่มีอาการนี้ มันจะมีอาการตึงบริเวณน่อง อาจจะมีการเคลื่อนไหวลำบาก บางอาจจะมีอาการปวดร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับระดับในการตึง เนื่องจากในบางรายอาจจะพัฒนาเป็นอาการฉีกขาดของกล้ามเนื้อในเบื้องต้นไปแล้ว อย่างไรก็ตามผู้ที่มีอาการจะรู้สึกไม่ปกติได้ทันทีที่มีอาการตึงของกล้ามเนื้อน่อง และถ้ามีอาการดังกล่าวควรพยายามหลีกเลี่ยงการใช้งานเพื่อป้องกันการพัฒนาของอาการบาดเจ็บจากตึงเป็นฉีกขาด
อาการน่องตึงก็มีสาเหตุไม่ต่างจากการตึงของกล้ามเนื้อส่วนอื่น โดยสาเหตุหลัก ๆ มาจากการใช้งานกล้ามเนื้อน่องหนักเกินไป หรือ อาจจะนานเกินไป บางทีอาจจะมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็วในการเคลื่อนไหว ทำให้กล้ามเนื้อต้องรับภาระหนักเกินไปก็ได้
โดยปกติแล้ว กล้ามเนื้อน่องกับรองช้ำจะทำงานควบคู่กัน ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าอาการอย่างหนึ่งจะนำมาซึ่งอาการอีกอย่าง และก็เป็นเรื่องปกติเช่นกันที่อาการเหล่านี้มักจะวิธีดูแลกรักษาที่ใกล้เคียงกัน โดยหลักการที่ถูกพูดถึงบ่อยในการบรรเทาอาการเหล่านี้คือ หลักการR.I.C.E ซึ่งคือ R = Rest พัก / I = Ice ประคบน้ำแข็ง / C =Compression พันผ้าพันแผล / E =Elevation การยกเท้าเหนือบริเวณหน้าอกเพื่อลดการไหลเวียนเลือด ซึ่งจะชาวยลดอาการบวม ในการดูแลระหว่างที่มีอาการได้ด้วย
ส่วนแนวทางในการป้องกัน คือการฝึกกล้ามเนื้อน่องให้แข็งแรง พยายามไม่เพิ่มโปรแกรมฝึกซ้อมอย่างหักโหมให้หนักเกินไปในระยะเวลาอันสั้น นอกจากนี้การวอร์มอัพ คูลดาวน์ และยืดเหยียดกล้ามเนื้อทั้งก่อน และ หลังออกกำลังกายก็สามารถลดโอกาสเสี่ยงในการมีอาการนี้ได้มากทีเดียว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
>>Pain for Get – เจ็บแค่ไหนก็ยังไหวอยู่ : ‘ไอทีแบนด์’ อาการบาดเจ็บที่พบถึง 12% ของนักวิ่ง
>>Pain for Get – เจ็บแค่ไหนก็ยังไหวอยู่ : ‘ชิน สปลินต์’ อาการปวดหน้าแข้งที่นักวิ่งไม่อยากเจอ
-------------------------------------------------